แฉแฟรนไชส์ไก่ทอด 10 บาท เจ้าดังภาคใต้ มีลักษณะคล้าย “แชร์ลูกโซ่” ให้เหยื่อลงทุน 5 หมื่นถึง 1 แสน แล้วจะได้ส่วนแบ่งการขาย 10-15% โดยที่ไม่ต้องทำอะไรมาก ตอนหลังขายดีจัด ขาดแคลนวัตถุดิบ ต้องปิดไปหลายร้าน แถมบ่ายเบี่ยงเรื่องเงินส่วนแบ่ง เงินเดือนคนทอดไก่ก็ไม่ได้ พอโพสต์โวยก็โดนนายหน้าไล่ล่า-ข่มขู่ พบเหยื่อส่วนหนึ่งเตรียมถอนตัวพร้อมแจ้งความดำเนินคดี
วันนี้ (3 ก.พ.) รายงานข่าวจากจังหวัดภาคใต้แจ้งว่า ในโซเชียลมีเดียวิจารณ์กรณีที่มีการทำธุรกิจเครือข่ายที่มีลักษณะคล้ายกับแชร์ลูกโซ่ในรูปแบบแฟรนไชส์ไก่ทอด 10 บาท ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ โดยมีจุดขายตรงที่ไก่ทอดชิ้นใหญ่ ราคาถูกกว่าท้องตลาด ผู้ที่สนใจเข้าร่วมธุรกิจจะต้องเปิดบิลลงทุนเริ่มต้นที่ 50,000 บาท จะได้ส่วนแบ่งการขาย 10% ถ้าเดือนหนึ่งขายได้ 10,000 บาท จะได้ส่วนแบ่งการขาย 1,000 บาท ถ้าลงทุน 100,000 บาท จะได้ส่วนแบ่งการขาย 15% ถ้าเดือนหนึ่งขายได้ 10,000 บาท จะได้ส่วนแบ่งการขาย 1,500 บาท
เมื่อจ่ายเงินลงทุนเรียบร้อยแล้ว ทางเจ้าของแฟรนไชส์จะดำเนินการทุกอย่าง ตั้งแต่เตรียมอุปกรณ์ วัตถุดิบ โดยเฉพาะไก่สดสำหรับทอด รวมทั้งจ่ายเงินเดือนให้พนักงานทอดไก่ที่สูงถึง 12,000 บาทต่อเดือน โดยที่ผู้ลงทุนไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจากซื้อแฟรนไชส์ ส่งรายได้ต่อวันกลับไป แต่ยังต้องรับผิดชอบค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าก๊าซหุงต้ม และค่าเช่าพื้นที่เอง ซึ่งเจ้าของแฟรนไชส์จะโอนกำไรปันผลให้ 10% ทุกวันที่ 5 และ 5% ทุกวันที่ 10 ของเดือน ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าขายดี เนื่องจากราคาต่ำกว่าทุน มีลูกค้ามาอุดหนุน ทำให้มีผู้สนใจซื้อแฟรนไชส์เปิดนับร้อยแห่ง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พบว่าร้านไก่ทอดดังกล่าวประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ อ้างว่ากำลังการผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการตลาด ทำให้ผู้ลงทุนส่วนหนึ่งต้องปิดร้าน อีกทั้งยังมีผู้ลงทุนจำนวนมากไม่ได้ส่วนแบ่งการขาย โดยบริษัทฯ อ้างว่าให้รอไปก่อน นอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อสงสัยว่า วัตถุดิบโดยเฉพาะไก่สดมาจากไหน ได้รับการชำแหละอย่างถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามหรือไม่ เนื่องจากราคาถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งต้นทุนในการขายไก่ทอดปัจจุบันมากกว่า 12 บาทต่อชิ้น แต่กลับขายในราคา 10 บาท ซึ่งเป็นราคาต่ำกว่าทุนได้
นอกจากนี้ เมื่อมีคนออกมาโพสต์ตำหนิก็จะมีนายหน้าสาวรายหนึ่งออกมาไล่ล่าและข่มขู่ให้ลบโพสต์ จนต้องทยอยปิดโพสต์ แต่ล่าสุดตัวแทนที่ซื้อแฟรนไชส์ออกมาแฉว่าต้องสูญเสียอะไรบ้าง เข้าเนื้อยังไงบ้าง ธุรกิจไก่ทอด 10 บาท ต้นทุนจริง 12 บาท พอหัวหน้าที่บริษัทลอยแพ เงินก้อนก็จ่ายไปแล้ว แต่ตัวเองต้องหาไก่ใกล้ๆ ที่ถูกๆ ใหญ่ๆ และเปิดสูตรใหม่เองในยูทูปขาย ก็เริ่มทบทวนชีวิตว่าโดนหลอก ถูกโกงหรือไม่
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่
ผู้ใช้เฟซบุ๊กซึ่งเป็นผู้เสียหายรายหนึ่ง ระบุว่า มารดาของตนสนใจที่จะเปิดแฟรนไชส์ไก่ทอด 10 บาท จึงติดต่อนายหน้าแฟรนไชส์รายหนึ่ง นายหน้ารายนี้ให้โอนเงินค่ามัดจำก่อน โดยอ้างว่ามีผู้สนใจจำนวนมาก และจะปิดรับสมัครแฟรนไชส์ จึงตัดสินใจโอนเงินเป็นจำนวน 30,000 บาท และหาสถานที่ตั้งแฟรนไชส์ แต่เมื่อเสนอสถานที่ไป นายหน้ารายนี้ก็อ้างว่าบริเวณดังกล่าวมีคนขายแล้ว จึงไปหาสถานที่อื่น แต่ก็อ้างว่าทำไม่ได้ มารดาของตนจึงตัดสินใจไม่ทำธุรกิจ และติดต่อนายหน้ารายนี้เพื่อขอเงินคืน นายหน้ารายนี้กล่าวว่าจะทำเรื่องให้บริษัทโอนเงินคืนมา ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้เงินคืน
ผู้เสียหายอีกรายหนึ่งระบุว่า ตนตัดสินใจที่จะถอนตัวจากแฟรนไชส์ไก่ทอดเจ้านี้ โดยจะไปแจ้งความและปรึกษาทนายความเพื่อจะดำเนินการต่อไป ปัจจุบันร้านไก่ทอดแฟรนไชส์เจ้าดังกล่าวมีสาขา 300 แห่ง ต้องจ้างพนักงาน 2 คน เงินที่นำมาลงทุนส่วนใหญ่มาจากการยืมญาติ นอกจากนี้ จากการสอบถามผู้ลงทุนรายหนึ่งที่เป็นลูกจ้างในร้านของตนว่าทำไมยังมาทำงานเป็นลูกจ้าง ก็ตอบว่าเจ้าของแฟรนไชส์ไก่ทอดจ่ายค่าแรงพนักงานทุก 15 วัน เช่น วันที่ 6-20 จะขอเวลาสรุปยอดอีก 5 วัน และจะจ่ายให้วันที่ 25 สรุปต้องรอเงิน 20 วัน แถมล่าสุดขอเลื่อนค่าแรงพนักงานทอดไก่อีก 5-10 วัน รอบล่าสุดพนักงานทอดไก่เลยได้เงินหลังจากทำงาน 25-30 วัน คนหาเช้ากินค่ำทอดไก่ได้ 200 บาท ต้องรอเงินถึง 20-25 วัน ซึ่ง ณ ตอนนั้นทุกคนต่างถามเงินเดือนอีกด้วย