ชาวเน็ตชี้ความเดือดร้อนที่สะสมจากการก่อสร้างถนนพระราม 2 เป็นเหตุผลมากพอที่ทำผู้คนควรออกมารวมตัวแสดงพลังไม่พอใจ เพื่อที่จะให้มีการแก้ปัญหาในก่อสร้างดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ และผู้ที่รับผิดชอบทั้งหลายสมควรต้องถูกลงโทษต่อความเสียหายครั้งนี้ ยืนยัน “พระราม 2 เป็นถนนแห่งความอัปยศ”
เมื่อวันที่ 20 ม.ค. เฟซบุ๊ก “สถาปนิก เพื่อสังคม” ได้นำเสนอแง่มุมข้อบกพร่องในการก่อสร้างถนนพระราม 2 อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมา พบว่าการก่อสร้างล่าช้า และปล่อยปละละเลย ทำให้การจราจรติดขัดเป็นประจำทุกวัน ได้รับฉายา “ถนนเจ็ดชั่วโคตร” สร้างความเดือดร้อนอย่างหนักให้ประชาชน ซึ่งทางเพจได้ระบุว่า “ยังคงประจาน ผู้มีอำนาจระดับสูง ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ ตลอดจนผู้เกี่ยวข้อง จนถึงวันนี้ ซึ่งในเมื่อปีที่แล้ว
ตั้งแต่ข้อ 1. เรื่องความปล่อยปละละเลยในการบริหารจัดการก่อสร้าง ที่เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ไม่ใส่ใจ ไม่วางแผน ไม่มีการบริหารจัดการ อย่างรับผิดชอบต่อประชาชนแถวนั้น ปล่อยให้เกิดสภาพการก่อสร้างที่ไม่เป็นระบบ ขยักขย่อนทำแบบตามมีตามเกิด เปิดพื้นที่ไว้แต่กลับไม่มีคนงานทำงานเต็มที่ สลับพื้นที่ก่อสร้างไปมาแทบจะรายวัน เดี๋ยวปิดตรงนั้นเดี๋ยวเปิดตรงนี้ จนสับสน จนไม่มีเส้นทางที่ทำเสร็จอย่างต่อเนื่อง พอที่จะช่วยแบ่งเบาให้ผู้ที่ต้องเดินทางบนถนนนี้สามารถใช้งานได้อย่างพอสมควรแล้ว จึงค่อยไปเปิดพื้นที่ก่อสร้างในจุดอื่นต่อไป ไม่ใช่ว่าเปิดหน้างานก่อสร้างเละเทะไปตลอดทางเช่นนี้ไปจนถึง
ข้อ 2 การสะท้อนถึงผลกระทบความเสียหายที่ต่อเนื่อง 2.1 ทั้งในด้านสุขภาพกาย สุขภาพจิต เสื่อมโทรมในระยะเวลายาวนาน อุบัติเหตุที่ไม่ควรเกิด แต่ก็เกิดขึ้นจากความบกพร่องของสภาพหน้างานก่อสร้าง 2.2 สภาพเศรษฐกิจของผู้คนบนสองข้างของถนนที่กระทบต่อเนื่อง ไปจนถึงทุกสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนต้องใช้ถนนเส้นนี้เพื่อผ่านไปยังสถานที่เหล่านั้น เพราะเมื่อไม่มีใครอยากผ่านถนนพระราม 2 เสียแล้ว ก็เหมือนการขาดสารอาหารที่ต้องส่งผ่านถนนเส้นนี้เพื่อไปหล่อเลี้ยงทุกชีวิต ทุกกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามไปด้วย หลังจากครั้งนั้นก็ดูเหมือนจะมีการเปลี่ยนแปลงหน้างานก่อสร้าง และได้เคยผ่านถนนเส้นนี้อีกหนึ่งถึงสองครั้ง โดยบันทึกคลิปเอาไว้ ซึ่งสภาพถนนวันนี้เมื่อสองเดือนก่อน ไม่มีรถติดหนักมากเท่าไหร่ จนทำให้ผมนึกไปว่าปัญหาทุกอย่างได้ถูกแก้ไขเรียบร้อยแล้ว แต่ มาวันนี้ เมื่อได้รับทราบว่าเหตุวิกฤตเหมือนจะวนกลับมาอีกครั้ง
โดยจึงต้องขออนุญาตคัดลอกภาพข้อความ จากเพจต้นทาง ของคุณ Pikky Trakarnrungroj ถึงสภาพที่ยังคงวิกฤตของถนนพระราม 2 ในปัจจุบัน รวมถึงข้อความในเพจที่ได้คัดลอกบางส่วนมา พอให้สะท้อนถึงสภาพความรู้สึก รวมถึงสิ่งที่ได้เกิดขึ้นจริงกับชาวถนนพระราม 2 มาอย่างยาวนาน และดูว่าจะไม่จบสิ้นลงง่ายๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าการมีคนจำนวนมากที่เดือดร้อนพากันตำหนิและสาปแช่งอย่างหนักขนาดนี้ ทำไมผู้มีอำนาจ ผู้รับผิดชอบ ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องทั้งหลาย พวกเขาถึงไม่รู้สึกอะไร วิกฤตที่เกิดบนถนนพระราม 2 ถือว่ามีความเหมาะสม และเป็นเหตุผลมากพอที่จะให้ผู้คนออกมารวมตัวแสดงพลังของความไม่พอใจ เพื่อที่จะให้มีการแก้ปัญหาให้การก่อสร้างดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ และผู้ที่รับผิดชอบทั้งหลายสมควรต้องถูกลงโทษกับความเสียหายนี้”
สำหรับการก่อสร้างปรับปรุงทางหลวงหมายเลข 35 ตอนทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เอกชัย ระยะทางรวม 11.7 กิโลเมตร งบประมาณรวม 2,213.5 ล้านบาท โดยขยายคันทางทั้งทางขนาน (Frontage Road) จากเดิม 2 ช่องจราจรเป็น 3 ช่องจราจร และทางหลัก (Main Road) จากเดิม 3 ช่องจราจรเป็น 4 ช่องจราจร พร้อมก่อสร้างสะพานกลับรถ 2 แห่ง ที่ กม.12 (แสมดำ) กม.16 (ก่อนถึงซอยพันท้ายนรสิงห์) และสะพานข้ามทางรถไฟ กม.18
แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 3 ตอน ได้แก่ ตอน 1 (กม.9+800-13+300) ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ก่อสร้างโดย บริษัท บุญสหะการสร้าง จำกัด งบประมาณ 707.50 ล้านบาท ตอน 2 (กม.13+300-17+400) ระยะทาง 4.1 กิโลเมตร ก่อสร้างโดย บริษัท แสงชัยโชค จำกัด งบประมาณ 798.555 ล้านบาท และตอน 3 (กม.17+400-21+500) ระยะทาง 4.1 กิโลเมตร ก่อสร้างโดย บริษัท เอ็ม.ซี.คอนสตรัคชั่น (1979) จำกัด งบประมาณ 707.5 ล้านบาท