โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระราโชบายมอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดแนวทางและหลักการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรกรณีขบวนเสด็จฯ ส่วนพระองค์ ย้ำไม่ให้ปิดการจราจร อำนวยความสะดวกให้ประชาชนใช้เส้นทางได้ตามปกติ
วันนี้ (12 ม.ค.) น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทราบดีถึงปัญหาการจราจรและทรงห่วงใยประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้กำหนดแนวทางอำนวยความสะดวกด้านการจราจร โดยไม่ให้ปิดการจราจร ให้จัดช่องทางเสด็จฯ และช่องทางประชาชนโดยใช้อุปกรณ์เพื่อความสะดวก
กรณีที่มีเกาะกลางถนนเส้นทางฝั่งตรงข้ามสามารถใช้ได้ตามปกติ กรณีไม่มีเกาะกลางถนนให้ใช้กรวยยางวาง กรณีทางร่วมทางแยกใช้วิธีการควบคุมรถ สำหรับสะพานกลับรถหรือสะพานข้ามใช้ได้ตามปกติ ทางพิเศษที่มีด่านให้วางแนวกรวยยางตามความเหมาะสม เน้นย้ำในการวางอุปกรณ์ให้พิจารณาตามความเหมาะสม และใช้มาตรการประชาสัมพันธ์เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดต่อทั้งประชาชนและผู้ปฏิบัติหน้าที่
การดำเนินการปรับรูปแบบการถวายการอารักขาระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาตินี้เป็นไปตามวัตถุประสงค์หลักเพื่อถวายความปลอดภัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ในระดับสูงสุด เพื่อให้สมกับพระเกียรติ และเป็นไปตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
อนึ่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กำหนดแนวทางและหลักการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร กรณีขบวนเสด็จฯ ส่วนพระองค์ไว้ดังนี้
1. ไม่ให้ทำการปิดการจราจร เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้เส้นทางได้ตามปกติ
2. ในเส้นทางเสด็จฯ ให้จัดเป็นช่องทางเสด็จฯ และช่องทางประชาชนไว้ โดยอาจใช้อุปกรณ์เพื่อให้เกิดความสะดวกและปลอดภัย เช่น กรวยยาง ป้ายไฟ ป้ายอัจฉริยะ เป็นต้น
3. ในเส้นทางฝั่งตรงข้ามเส้นทางเสด็จฯ กรณีมีเกาะกลางถนน ให้สามารถใช้ได้ทุกช่องทางตามปกติ กรณีที่ไม่มีเกาะกลางถนน ใช้อุปกรณ์ เช่น กรวยยาง วางเพื่อให้เกิดความปลอดภัย โดยรถของประชาชนสามารถวิ่งสวนทางในช่องทางที่จัดไว้ได้ตามปกติ
4. กรณีที่เป็นทางร่วมทางแยก ให้ประชาชนใช้เส้นทางได้ตามปกติ โดยควบคุมปริมาณรถจากทางร่วม เพื่อไม่ให้กระทบรถของประชาชนในเส้นทางเสด็จฯ โดยใช้กรวยยางวางเพื่อควบคุมกระแสรถ
5. สำหรับสะพานกลับรถ หรือสะพานที่ข้ามผ่านเส้นทางเสด็จฯ ให้ประชาชนสามารถใช้เส้นทางได้ตามปกติ
6. กรณีบนทางพิเศษที่มีด่านเก็บเงินค่าผ่านทาง บริเวณหน้าด่านให้วางแนวกรวยยาง รับรถประชาชนจากช่องทางด้านซ้าย ขยายมาเข้าบริเวณหน้าด่านตามความเหมาะสม โดยให้เหลือช่องเก็บเงินค่าผ่านทางไว้สำหรับขบวนเสด็จฯ อย่างน้อย 2 ช่องทาง
สำหรับบริเวณหลังด่าน ให้วางแนวกรวยยางต่อจากแนวกรวยยางหน้าด่าน ไล่ระดับบีบไปทางช่องทางด้านซ้าย เพื่อเป็นแนวเส้นกำหนดช่องทางระหว่างประชาชนกับรถในขบวน
7. ในเส้นทางหรือทางร่วมทางแยก ไม่ให้บังคับให้ประชาชนเปลี่ยนเส้นทางเดินรถ โดยให้คำนึงถึงความตั้งใจในการใช้เส้นทางของประชาชนผู้ขับรถเป็นหลัก
8. การใช้อุปกรณ์เพื่อกำหนดแนวเส้นทาง เช่น กรวยยาง ป้ายไฟ ให้คำนึงถึงเวลาที่เหมาะสมในการวาง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบที่ทำให้เสียช่องทาง หรือความไม่สะดวกของประชาชนในการใช้เส้นทาง
9. ให้พิจารณาใช้มาตรการประชาสัมพันธ์ ให้ผู้ใช้รถทราบถึงการใช้ช่องทาง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดสำหรับประชาชนและผู้ปฏิบัติ
10. ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นต้องให้ความสำคัญและลงไปควบคุมการบริหารจัดการในพื้นที่ด้วยตัวเอง สำหรับผู้ปฏิบัติให้ใช้วาจาและกิริยาท่าทางต่อประชาชนด้วยความสุภาพ โดยเน้นการชี้แจงการใช้เส้นทาง เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ไม่ให้ประชาชนรู้สึกว่าถูกบังคับในการใช้เส้นทาง