xs
xsm
sm
md
lg

ดร.ธรณ์ เตือนระวัง “หมึกสายวงฟ้า” พิษร้ายแรงถึงตาย ห้ามจับ-นำมาทำอาหาร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ดร.ธรณ์ เตือนภัยหลังพบหมึกสายวงฟ้ามีพิษร้ายแรงบนแผงขายอาหาร ระบุพิษร้ายถึงตาย ไม่สามารถทำลายด้วยความร้อน ต้องระมัดระวังอย่าจับและนำมาทำอาหาร

วันนี้ (3 ม.ค.) เฟซบุ๊ก “Thon Tramrongnawasawat” หรือ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์เตือนภัยถึงหมึกสายวงฟ้าโดยระบุว่าพบในแผงอาหาร โดยเผย หมึกชนิดนี้นั้นมีพิษร้ายแรงทำเสียชีวิตได้ และโดนความร้อนไม่สลาย แต่ไม่ต้องตกใจพบได้น้อยในไทย โดยมีเนื้อหาโพสต์ว่า “มีผู้พบหมึกสายวงฟ้าในแผงขายอาหาร หมึกชนิดนี้มีพิษร้ายแรง โดนความร้อนไม่สลาย จึงอยากเตือนเพื่อนธรณ์ไว้สักนิด ก่อนซื้อสังเกตก่อนนะครับ หนนี้ไม่ใช่หนแรก 2-3 ปีก่อน ก็มีผู้พบในแผงขายอาหาร อย่างไรก็ตาม ถือว่าไม่บ่อยนัก ไม่ต้องตกใจเกินไปเหตุผลที่ไม่บ่อย เพราะหมึกชนิดนี้มีอยู่ไม่มากในไทย อาศัยอยู่ตามพื้นท้องทะเล ส่วนใหญ่เป็นเขตนอกชายฝั่ง

หมึกมีวงสีฟ้าชัดเจน ยิ่งตอนจับได้ยิ่งชัด หากชาวประมงจับได้ให้ปล่อยไป เขาไม่ใช่หมึก from hell ที่จะพุ่งมาทำร้ายเรา จะโดนกัดต้องไปจับหรือทำร้ายเขาเท่านั้น เมื่อหมึกตาย ยังคงมีวงฟ้าเหลืออยู่ แยกออกจากหมึกอื่นได้ง่าย แต่นานๆ ทีจะหลุดมา เพราะเขามีไม่มาก อีกทั้งส่วนใหญ่โดนคัดออกตั้งแต่ต้น

ทั้งนี้ ในเมืองไทยยังไม่เคยมีรายงานว่ามีผู้โดนหมึกชนิดนี้กัด หรือมีผู้กินเข้าไปแล้วโดนพิษรุนแรง แต่ระวังไว้นิดย่อมดีกว่าครับ

อย่างไรก็ตาม หมึกสายวงฟ้า (Blue-Ringed Octopus) เป็นหมึกในสกุล Hapalochlaena ในอันดับหมึกยักษ์ เป็นหมึกพันธุ์เล็ก มีลักษณะเด่นคือ วงแหวนตามลำตัวสีน้ำเงินหรือสีม่วงซึ่งสามารถเรืองแสงได้เมื่อถูกคุกคาม ซึ่งเมื่อตัดพื้นลำตัวสีขาวหรือเขียวจะดูสวยงามมาก แต่ภายใต้ความสวยงามนั้น ได้แฝงพิษที่ร้ายแรงได้ โดยในน้ำลายของเจ้าบลูริงนั้นมีพิษร้ายแรงกว่างูเห่าถึง 20 เท่า ทำให้เหยื่อที่ถูกพิษนี้ตายได้ภายใน 2-3 นาที พิษของเจ้าบลูริง 1 ตัวสามารถปลิดชีวิตคนได้ 26 คนในครั้งเดียว จึงถือเป็นหนึ่งในสัตว์มีพิษร้ายแรงที่สุดของโลก

หมายเหตุ - ภาพล่างเป็นภาพหมึกมีชีวิตที่ชาวประมงจับได้เมื่อเดือนก่อนครับ




กำลังโหลดความคิดเห็น