อย่าหลงเชื่อ! หนุ่ม รปภ.ดีใจมีคนซื้อทัวร์ญี่ปุ่นให้ฟรี สุดท้ายติดคุกเพราะซ่อนยาเสพติดในกระเป๋า

ไกด์รายหนึ่งเล่าอุทาหรณ์ ลูกทัวร์วัย 29 ปี เป็นหนุ่ม รปภ. ถูกตำรวจญี่ปุ่นควบคุมตัว หลังศุลกากรสนามบินโอซากาจับพิรุธเสื้อผ้าน้อยเกินไป ชำแหละกระเป๋าเดินทางแบบถือ พบซุกซ่อนยาเสพติด เจ้าตัวอ้างมีคนซื้อทัวร์ให้ฟรี รู้สึกโชคดีเพราะมีคนจ่ายเงินให้ แต่ไม่รู้จักตัวตนดีด้วยซ้ำ แถมไม่ใช่กระเป๋าตัวเอง ไม่ได้จัดกระเป๋าเอง

วันนี้ (8 ธ.ค.) เฟซบุ๊ก "ญี่ปุ่น วนไป" ได้โพสต์ข้อความจากไกด์รายหนึ่ง ออกมาเตือนภัยถึงลูกค้าทัวร์ขนยาเสพติดเข้าประเทศญี่ปุ่น แต่ถูกทางการญี่ปุ่นจับได้ ระบุว่า ได้ออกทัวร์ราคาประหยัด (โลว์คอสต์) กับลูกทัวร์ 26 คน ส่วนใหญ่เดินทางเป็นครอบครัว แต่มี 2 คนเดินทางมาคนเดียว โดยไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งพบว่าก่อนขึ้นเครื่องที่ท่าอากาศยานดอนเมือง มีผู้หญิงรายหนึ่งโทรศัพท์มาถามไกด์ ถึงลูกทัวร์ชายรายหนึ่งที่เดินทางมาคนเดียว ขึ้นเครื่องเรียบร้อยหรือยัง ไกด์จึงตอบว่า เรารอขึ้นเครื่องอยู่ โดยผู้หญิงรายนี้โทรศัพท์มาเช็กบ่อยครั้ง ทีแรกเข้าใจว่าเป็นห่วงเพราะลูกทัวร์ชายรายนี้บอกว่าเดินทางต่างประเทศครั้งแรก

กระทั่งเดินทางด้วยสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ถึงท่าอากาศยานคันไซ เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) มาแล้ว มาติดที่ด่านศุลกากรญี่ปุ่น เจ้าหน้าที่ตรวจค้นอย่างละเอียด ปรากฎว่าลูกทัวร์ชายรายนี้เป็นกระเป๋าแบบถือ (Carry On) ใบเล็ก เมื่อค้นกระเป๋าพบว่ามีสิ่งของน้อยมาก คือ เสื้อกันหนาว 2 ตัว ทั้งที่โดยปกติคนที่มาเที่ยว 4 วัน 3 คืน ต้องมีเสื้อผ้ามาเปลี่ยน เจ้าหน้าที่เห็นว่าพิรุธ จึงนำสิ่งของออกจากกระเป๋าแล้วขอเอากระเป๋าเดินทางเปล่าไปสแกน

จากนั้นเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวพร้อมตำรวจนับสิบรายควบคุมตัวลูกทัวร์ชายรายดังกล่าวไปตรวจในห้องส่วนตัว และให้ไกด์รออยู่ด้านนอก 10 นาทีต่อมา ตำรวจมาตามไกด์ขอให้เป็นล่าม เพราะสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง พอเข้าไปในห้องพบลูกทัวร์ชายคนดังกล่าวถูกนั่งสอบปากคำ โดยให้คำตอบในกระเป๋า 5 ข้อ พบว่าสิ่งของในกระเป๋าเป็นของลูกทัวร์ แต่กระเป๋าไม่ใช่ของลูกทัวร์ รู้ว่าในกระเป๋ามีสิ่งของอยู่ในนั้น แต่ไม่ได้จัดกระเป๋าเอง และระบุว่า ไม่มีคนฝากถือของมา จึงสอบสวนต่อ

ทั้งนี้ จากการสอบถามทราบว่าลูกทัวร์ชายรายนี้อายุ 29 ปี มีอาชีพประจำเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) โดยเพื่อนของเพื่อนเป็นคนจองทัวร์ให้ และให้ลูกทัวร์รายนี้มาเที่ยวญี่ปุ่นฟรี ซึ่งลูกทัวร์ชายรายนี้รู้สึกโชคดีเพราะมีคนจ่ายเงินให้มาเที่ยวญี่ปุ่น เลยตอบตกลงมาโดยไม่ได้เอะใจอะไร เมื่อถามว่ารู้จักกันดีแค่ไหน ลูกทัวร์ชายรายนี้ก็ไม่รู้จักตัวตนดี รู้จักเพียงชื่อเล่น ไม่รู้จักชื่อจริงด้วยซ้ำ และสังเกตว่าเป็นคนซื่อๆ น่าจะโดนหลอกให้มาหิ้วของให้ จึงบอกตำรวจว่าไม่สามารถให้คณะใหญ่รอได้แล้ว จึงให้ตำรวจควบคุมตัวลูกทัวร์ชายรายนี้ไปสอบปากคำเพิ่มเติมได้เลย ทางไกด์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไกด์จึงเดินออกมาแล้วพาคณะออกเที่ยวตามปกติ

หลังจากนั้นตำรวจโทรศัพท์แจ้งเข้ามา ทราบว่ากระเป๋าของลูกทัวร์ชายรายดังกล่าวถูกชำแหละทุกส่วน พบว่ามีการลักลอบซุกซ่อนยาเสพติดเข้ามา ลูกทัวร์ชายคนดังกล่าวถูกจับกุมทันที ต้องไปขึ้นศาลรับความผิดตามกฎหมายประเทศญี่ปุ่น โดยไม่รู้ว่าจะถูกส่งตัวกลับประเทศไทยหรือถูกจำคุกที่ญี่ปุ่น เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ห้ามรับฝากของจากใครเด็ดขาด เพราะถ้าถูกจับขึ้นมาคนที่รับฝากของมีความผิด และอย่ายืมกระเป๋าเดินทางของคนอื่นมาใช้ เพราะถ้าซุกซ่อนยาเสพติดมาไม่มีทางรู้ได้เลย และถ้ามีคนซื้อทัวร์ให้ฟรีอย่าไป

อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่

อนึ่ง ก่อนหน้านี้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เคยออกมาแจ้งเตือนผู้ที่จะเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น กรณีคนไทยถูกจับคุมในข้อหาลักลอบนำยาเสพติดเข้าประเทศ ซึ่งในช่วงนี้มีจำนวนคนถูกจับเพิ่มสูงขึ้น ระบุว่า ขอให้ตรวจสอบสัมภาระของตนอย่างละเอียดทุกครั้งก่อนขึ้นเครื่อง และไม่รับฝากสิ่งของจากผู้อื่นในทุกกรณี ระวังการถูกหลอกให้รับฝากสิ่งของจากคนไทยหรือคนต่างชาตินำเข้าประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหากสิ่งของนั้นเป็นยาเสพติดหรือของผิดกฎหมาย ข้อแก้ตัวว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่สามารถลดหย่อนโทษให้คุณในชั้นศาลได้ และอย่าหลงเชื่อว่าจะไม่สามารถถูกตรวจจับได้หากสอดใส่ไว้ในร่างกาย หรือหากใส่ในหีบห่อที่ผู้จ้างวานจัดทำให้ เพราะถูกจับกุมทุกคน การลักลอบขนยาเสพติดเข้าญี่ปุ่นมีโทษทั้งจำคุกและปรับ และจะถูกขึ้นบัญชีดำ (แบล็คลิสต์) ไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้อีกตลอดชีวิต