ตำรวจรวบตัว “เสี่ยท็อป” คาสนามบินดอนเมือง หลังเดินทางกลับจากฮ่องกง ตามหมายจับปี 59 คดีซื้อคลินิกเสริมความงาม 8.5 ล้านบาท แต่จ่ายเช็คเด้ง
วันนี้ (17 ต.ค.) เวลา 21.30 น. พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รอง ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.วีรพล เจริญศิริ ผบก.ตม.2 ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.จันทร์ชัย แดงประเสริฐ ผกก.ด่าน ตม.ทอ.กรุงเทพ บก.ตม.2 ว่า ได้ร่วมกับตำรวจ สน.ดอนเมือง พ.ต.ท.กำธร นิยม สว.สส.สน.ดอนเมือง ตำรวจท่องเที่ยว และ พ.ต.ท.ปิติ ตรีกาลนนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความปลอดภัย ทดม. จับกุม นายธนณัฏฐ์ สิริปิยพร อายุ 49 ปี โดยกล่าวหาว่าเป็นบุคคลตามหมายจับระหว่างพิจารณาศาลแขวงพระนครเหนือ ข้อหากระทำความผิดฐานพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 โดยมีการตรวจพบการแจ้งเตือนบุคคลมีหมายจับ และยืนยันตัวบุคคลจากระบบไบโอเมทริกซ์ (Biometric) ที่ช่องตรวจคนเข้าเมือง สนามบินดอนเมือง ขณะเดินทางกลับจากฮ่องกงด้วยเที่ยวบิน FD505
โดยพบว่านายธนณัฏฐ์เป็นบุคคลเดียวกับที่สังคมกำลังให้ความสนใจ และรู้จักกันในนาม “เสี่ยท็อป” ที่เป็นข่าวคึกโครมกรณีพิพาทประเด็นค่าใช้จ่ายงานแต่งงานที่จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งได้เดินทางออกไปเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เมื่อวันที่ 6 ตุลาที่ผ่านมา ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
โดยหมายจับดังกล่าวได้รับประสานจากตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เป็นหมายจับระหว่างพิจารณาศาลแขวงพระนครเหนือ คดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.8062/2558 คดีหมายเลขแดงที่ อ.9319/2559 ข้อหากระทำความผิดฐานพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 พล.ต.ท.สมพงษ์ และพล.ต.ต.วีรพล ได้สั่งการให้ ด่าน ตม.ดอนเมือง ตรวจสอบข้อมูลหมายจับเพื่อยืนยันสถานะ และแจ้งข้อกล่าวหาต่อนายธนณัฏฐ์ เพื่อควบคุมตัวนำตัวส่งศาลแขวงพระนครเหนือ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ พล.ต.ต.วีรพล เจริญศิริ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ ตม.ประจำช่องตรวจใช้ระบบเทคโนโลยีไบโอเมทริกซ์ที่ประจำทุกช่องตรวจหนังสือเดินทาง เพื่อช่วยคัดกรองบุคคลอย่างเต็มที่ ทดแทนระบบเดิมซึ่งจะยกเลิกการใช้งานที่ด่าน ตม.อื่นๆ ในช่วง พ.ย. 2562. โดยช่วยให้มีการตรวจสอบที่ละเอียดยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการยืนยันอัตลักษณ์บุคคลทางชีวภาพ ทั้งใบหน้า และลายนิ้วมือ แม้ว่าผู้ต้องหาจะพยายามปกปิดอำพรางด้วยการเปลี่ยนทรงผม หรือบุคลิกภาพผิดไปจากเดิมก็ตาม ตามนโยบายด้านการเพิ่มขีดความสามารถด้านความมั่นคงของรัฐบาล และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวนั้น ผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากนายธนณัฏฐ์เพื่อขอซื้อคลินิกเสริมความงามซึ่งผู้เสียหายเป็นเจ้าของ โดยนายธนณัฏฐ์ได้สั่งจ่ายเช็คให้ในราคา 8 ล้าน 5 แสนบาท แต่เมื่อนำเช็คไปขึ้นเงิน ธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงิน และนายธนณัฏฐ์ยังได้นำชื่อคลินิกไปใช้แอบอ้างหลอกลวงผู้อื่นจนทำให้เสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ซึ่งหลังจากที่ศาลได้นัดฟังคำพิพากษา นายธนณัฏฐ์ได้หลบหนีไม่มาขึ้นศาล ศาลแขวงพระนครเหนือจึงออกหมายจับลงวันที่ 14 พ.ย. 2559