เจ้าของร้านเสริมสวย แจ้งความ พร้อมร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพังงา กรณีถูกข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย จากบุคคลปล่อยเงินกู้นอกระบบ เสนอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาและดำเนินการตามขั้นตอน
จากรณีเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ร.ต.อ.ดุสิต ผ่องพันธุ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพังงา ปฏิบัติหน้าที่ ได้รับแจ้งจาก น.ส.ดวงฤดี ไอยะรา อายุ 42 ปี เจ้าของร้านเสริมสวย “ลูกนก” เข้าแจ้งความว่า ถูกทำร้ายร่างกาย ขณะอยู่ภายในร้าน จนได้รับบาดเจ็บ ในช่วงเวลา 20.00 น. วันที่ 14 ต.ค.62 โดยมี ผู้หญิง จำนวน 2 คน เข้าทำร้ายร่างกาย ซึ่งตนรู้จักมาก่อน สาเหตุเนื่องจากตนได้กู้เงิน จำนวน 3,000 บาท โดยตกลงกันว่าจะคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย จ่ายวันละ 150 บาทต่อวัน เป็นเวลา 24 วัน รวมเป็นเงินจำนวน 3,600 บาท ตนจ่ายเงินต้นและดอกมาแล้วกว่า 10 วัน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 ต.ค.62 ตนไม่ได้จ่ายเงินต้นและดอก จำนวน 150 บาท ฝ่ายให้กู้ลงข้อความในสื่อออนไลน์ ลักษณะไม่พอใจ จากนั้นได้บุกเข้ามาทวงเงินที่ร้าน ระหว่างตนโอนเงินผ่านแอพพลิเคชั่น กลับถูกรุมทำร้าย กระชากผมตบตี และใช้เท้ากระทืบตามร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ให้ น.ส.ดวงฤดี พบแพทย์เพื่อตรวจบาดแผล พบว่า มีร่องรอยการขีดข่วน และฟกช้ำตามร่างกาย จากนั้นจึงให้ผู้เสียหายกลับภูมิลำเนาเพื่อรอฟังผลการตรวจ และ ทำการสอบสวน ตามกฎหมายต่อไป
ต่อมา น.ส.ดวงฤดี ไอยะรา เจ้าของร้านเสริมสวย ได้เข้าแจ้งต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพังงา เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีถูกข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย จากบุคคลปล่อยเงินกู้นอกระบบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพังงา และเจ้าหน้าที่ กองกำลังรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพังงา รับเรื่องร้องเรียน พร้อมทั้งเสนอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ล่าสุดวันนี้ (16 ต.ค.) น.ส.ดวงฤดี ไอยะรา เจ้าของร้านเสริมสวย ให้สัมภาษณ์กับ MGROnline ว่าตนเจ้าของร้านเสริมสวยได้เข้ามาทำงานใน จ.พังงา อำเภอเมือง และกู้เงินกับเจ้าหนี้จำนวน 3,000 บาท จ่ายวันละ 150 บาทเป็นเวลา 24 วัน ก่อนวันเกิดเหตุ 1 วัน เจ้าของร้านเสริมสวยได้ส่งเงินล่าช้า เจ้าหนี้จึงได้นำรูปของเจ้าของร้านเสริมสวยไปโพสต์ต่อว่าในเฟซบุ๊ก ก่อนเกิดเหตุเจ้าของร้านเสริมสวยติดลูกค้า จึงทำให้เจ้าหนี้ไม่พอใจและเริ่มมีปากเสียงกันเล็กน้อย เจ้าของร้านเสริมสวยจึงตอบว่า โทรศัพท์ไม่มีแอพลิเคชั่นธนาคารจะต้องโหลดแอพมาใหม่แต่กำลังจะโอนให้ ก่อนเจ้าหนี้จะต่อว่ากันและได้กระแทกไดร์เป่าผมของเจ้าของร้านเสริมสวย หลังจากนั้นเจ้าหนี้ก็ได้เข้าทำร้ายร่างกายเจ้าของร้านเสริมสวย คนที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ห้ามเจ้าของร้านเสริมสวยและเจ้าหนี้ หลังจากนั้นเจ้าหนี้ได้กลับไปตามพรรคพวกและครอบครัวมารุมทำร้ายเจ้าของร้านเสริมสวยถึงที่บ้าน ส่วนตัวแฟนเจ้าหนี้ซึ่งเป็นตำรวจอยู่ในเหตุการณ์แต่ไม่ได้ห้ามในตอนแรก จนลูกค้าที่อยู่ในเหตุการณ์เรียกให้ไปห้ามปราบ หลังเกิดเหตุเจ้าของร้านเสริมสวยจึงเข้าแจ้งความกับตำรวจและร้องศูนย์ดำรงธรรม