ความรุนแรงในเหตุการณ์สลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 หรือ "ตุลาทมิฬ" ที่บริเวณหน้ารัฐสภา นับเป็นโศกนาฏกรรม ครั้งยิ่งใหญ่ของเมืองไทย อีกคราว ที่จะต้องถูกบันทึกลงในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย โดยเฉพาะการปฏิบัติการของตำรวจในครั้งนั้น ที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวได้ถ่ายทอดไปสู่ทั่วโลก ถึงความรุนแรงในการปฏิบัติการครั้งนั้น รวมทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ ทั้งเครื่องยิงลูกระเบิด และแก๊สน้ำตาที่กระหน่ำยิงเข้าใส่ประชาชน ทั้งคนแก่ สตรี และเด็ก
ทั้งนี้จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมพันธมิตร ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 381 ราย เสียชีวิต 2 คน หนึ่งในนั้นก็คือ นางสาวอังคณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือน้องโบว์ นักศึกษาปริญญาโทมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ที่เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 โดยนางสาวอังคณาเป็นหนึ่งในผู้ที่ไปชุมนุมเรียกร้องความเป็นธรรมที่หน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล วังปารุสกวัน ในเวลาหัวค่ำ และถูกสลายการชุมนุมด้วยแก๊สน้ำตา อังคณา ได้รับบาดเจ็บสาหัสโดยที่ซีกซ้ายของลำตัวตั้งแต่หน้าอกลงไปเหวอะหวะ กระเพาะทะลุ
หลังจากการตรวจสอบโดยสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ข้อสรุปสาเหตุการเสียชีวิตของ น.ส.อังคณา มาจากสาระเบิดแรงสูง 2 ชนิดด้วยกันคือ C4 และ R.D.X. ซื่งเมื่อเทียบปริมาณสารเหล่านี้ที่มาจาก แก๊สน้ำตาที่ผลิตจากประเทศจีน จะมีสาร R.D.X. อยู่ 7 กรัมแต่จากสภาพศพที่มี บาดแผลขนาดใหญ่บริเวณชายโครงด้านซ้ายและใต้ท้องแขนซ้ายท่อนบน ลึกถึงกระดูก และมีรอยสะเก็ดเป็นจุดเล็กๆ ที่หลังเท้า ข้างเท้า และบริเวณใกล้ตาตุ่มเท้าซ้ายบาดแผลดังกล่าวน่าจะเกิดจากสารระเบิดน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 200 กรัม แต่อย่างไรก็ดี สาเหตุของการเสียชืวิตครั้งนี้ ไม่สามารถสรุปได้เนื่องจากะพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุถูกทำลาย มีการเคลื่อนย้ายผู้ตายออกจากที่เกิดเหตุโดยพลการ และมีการตรวจสถานที่เกิดเหตุแล้ว และไม่ได้มาตรฐานตามหลักสากล
ทั้งนี้วุฒิสภาได้ตั้งคณะอนุกรรมาธิการขึ้นมาศึกษา สรุปผลการพิจารณากรณีการเสียชีวิตของ นางสาวอังคณา ระดับปัญญาวุฒิ จาาเหตุการณ์การสลายกลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 โดยมีรายละเอียดตามที่ปรากฎในเอกสารดังนี้