MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7
(สรุปข่าวประจำวันที่ 15-21 ก.ย. 2562)
อันดับ 1 : ไพร่ห้าพันล้าน "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ให้กู้ "อนาคตใหม่" 191.2 ล้าน ขัดกฎหมายหรือไม่?
การเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ส.ส. 80 ราย ของ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ที่เรียกเสียงฮือฮามากที่สุดคงจะเป็น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 5,631.85 ล้านบาท นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรค มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 7.67 ล้านบาท โดยแจ้งว่ามีหนังสือ 2,500 เล่ม มูลค่า 1.25 ล้านบาท ส่วนฝ่ายรัฐบาล พบว่า น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 139.93 ล้านบาท โดยพบว่ามีโค 500 ตัว มูลค่า 17 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่นายธนาธรปล่อยกู้ให้พรรคอนาคตใหม่ 2 ครั้งในปี 2562 รวม 191.2 ล้านบาท ถูกจับตามองจากฝ่ายการเมืองอีกครั้ง เนื่องจากตามกฎหมายพรรคการเมืองระบุว่า จะบริจาคให้พรรคเกิน 10 ล้านบาทไม่ได้ ซึ่งสำนักงาน กกต. เตรียมส่งเรื่องให้คณะกรรมการ กกต.ชุดใหญ่พิจารณา ขณะที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เตรียมนำหลักฐานยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบอีกทาง แต่ฝั่งนายธนาธร ยืนยันว่าเงินกู้ไม่ใช่รายได้ของพรรค หาก กกต.ตีความว่าเงินกู้เป็นรายได้ ก็จะทำให้หลักบัญชีของบริษัทห้างร้านในองค์กรต่างๆ พังหมด ยืนยันว่าไม่มีอะไรน่าห่วง
อันดับ 2 : "ลันลาเบล" ดับปริศนา จับตา "น้ำอุ่น" หิ้วร่างคนสุดท้าย อ้างไม่ได้ข่มขืน
กลายเป็นคดีอาชญากรรมที่สังคมทั้งประเทศให้ความสนใจ สำหรับการเสียชีวิตของ "ลันลาเบล" หรือ น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ พริตตี้สาววัย 25 ปี หลังมีผู้พบศพบนโซฟาล็อบบี้ชั้นล่าง คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กรุงเทพฯ โดยพบว่า นายรัชเดช วงศ์ทะบุตร หรือน้ำอุ่น พริตตี้บอยวัย 24 ปี รับสารภาพว่า พาผู้ตายที่เมาไม่ได้สติกลับมาที่ห้องของตน และเป็นคนพาผู้ตายมาทิ้งที่ล็อบบี้คอนโดฯ แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ จากการตรวจพิสูจน์พบว่า น.ส.ธิติมา เสียชีวิตจากหัวใจล้มเหลว ช่องคลอดฉีกขาด และมีสารคัดหลั่งตกค้าง
ก่อนเกิดเหตุ ลันลาเบลเป็นพริตตี้รับจ้างชงเหล้าเอนเตอร์เทนผู้ว่าจ้างที่บ้านในหมู่บ้านพฤกษา 3 ซอยวัดลาดปลาดุก ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยทำหน้าที่เอนเตอร์เทนดูแลชงเหล้านั่งพูดคุยกับลูกค้าราคา 3,500 บาทต่อพริตตี้ 1 คน โมเดลลิ่งจะหักค่าหัวคิวคนละ 500 บาท พริตตี้จะได้ 3,000 บาท หลังมึนเมาไม่ได้สติ น้ำอุ่นอุ้มขึ้นรถกลับไปคอนโดฯ ที่พักของตัวเอง อย่างไรก็ตาม ตำรวจกำลังรอผลชันสูตรจากแพทย์ในวันที่ 23 ก.ย. หากสอดคล้องกับสาเหตุการเสียชีวิต จะสามารถออกหมายจับผู้ต้องสงสัยได้อย่างช้าไม่เกินวันพุธที่ 25 ก.ย.นี้
อันดับ 3 : น้ำท่วมอุบลฯ "บิณฑ์" พระเอกตัวจริง โซเชียลจวก "ประยุทธ์" มัวแต่ทำใบเหลียงผัดไข่
สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ คำๆ นี้ไม่เคยเสื่อมคลาย เฉกเช่นเหตุการณ์น้ำท่วมในจังหวัดอุบลราชธานี แม้จะมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนลงพื้นที่ช่วยเหลือ แต่ห้วงเวลาดังกล่าวผู้นำประเทศอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กลับลงพื้นที่ภาคใต้ ไปหานายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส. และโชว์การทำอาหารเมนูใบเหลียงผัดไข่ จนสังคมไม่พอใจ กระทั่งพระเอกชื่อดังและอาสากู้ภัย "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" สุดทน เฟซบุ๊กไลฟ์เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ตัดพ้อรัฐบาลมัวแต่ช้อปปิ้งไม่มาช่วย พร้อมประเดิมช่วยควักเงินส่วนตัว 1 ล้านบาท
เมื่อโลกโซเชียลรับรู้เรื่องราว ทำเอาธารน้ำใจหลั่งไหลช่วยเหลือ พร้อมสาปแช่งรัฐบาล เมื่อถูกด่ามากๆ พล.อ.ประยุทธ์ จึงจัดรายการโทรทัศน์รับบริจาคช่วยน้ำท่วม พร้อมกับเหน็บแนมว่า คนที่อยู่เมืองนอกกลับมาก็ทำไม่ได้ แต่ไม่วายรัฐบาลยังเรียกใช้บิณฑ์ไปช่วยรับโทรศัพท์อีก ขณะที่บิณฑ์ใช้วิธีแจกเงินให้กับผู้ประสบภัยครอบครัวละ 5,000 บาท เพื่อนำไปซื้อสิ่งของในชีวิตประจำวัน โดยการแจกเงินเป็นไปอย่างระมัดระวัง มีการสำรวจครอบครัวจากประธานกรรมการชุมชนเพื่อความรัดกุม เจ้าตัวประกาศว่าหากมีการหักหัวคิวจากผู้นำชุมชนจะดำเนินคดีถึงที่สุด
อันดับ 4 : จบแล้ว! ซักฟอกปมถวายสัตย์ฯ "ประยุทธ์" ไม่ตอบ "วิษณุ" อ้างรัฐมีหน้าที่ก้มหน้าทำงาน
การประชุมสภาฯ เพื่ออภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ และกรณีที่ ครม. แถลงนโยบายโดยไม่แจ้งที่มาของเงินงบประมาณ เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา จบลงแบบที่กองเชียร์อีกฝ่ายหนึ่งกังขา เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ เลือกที่จะไม่ตอบถึงปมถวายสัตย์ฯ ไม่ครบ แถมยังเหน็บเอกสาร “โครงข่ายขบวนการทำลายประเทศ” สร้างความฮือฮาแก่ผู้พบเห็น ภายหลังชี้แจงว่าเป็นสิทธิที่จะไม่ตอบ และให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เป็นผู้ชี้แจงแทน
นายวิษณุชี้แจงในสภาว่า การถวายสัตย์ฯ เป็นเรื่องระหว่างรัฐบาลกับพระมหากษัตริย์ เมื่อมีกระแสพระราชดำรัสให้ไปปฏิบัติหน้าที่ ถือเป็นพระบรมราชานุญาต รัฐบาลมีหน้าที่เดียวคือก้มหน้าก้มตาปฏิบัติงานด้วยกำลังใจ และมุ่งมั่นปฏิบัติให้เป็นไปตามคำถวายสัตย์ปฏิญาณตามพระบรมราโชวาทและพรที่พระราชทานลงมา อย่างไรก็ตาม 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านยังคงเดินเกมโดยล่ารายชื่อ ส.ส. ส่ง ป.ป.ช. เพื่อยื่นศาลฎีกาสอบจริยธรรม พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมเตรียมตัวอภิปรายพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ที่คาดว่าจะเปิดสมัยประชุมสมัยวิสามัญช่วงเดือน ต.ค.ต่อไป
อันดับ 5 : "ช่วงช่วง" ตายแล้ว คนเชียงใหม่ไม่ทันตั้งตัว ชาวจีนกังขาขอคืน "หลินฮุ่ย" กลับประเทศ
เหตุสูญเสียอย่างไม่คาดฝันของชาวเชียงใหม่ สำหรับ "ช่วงช่วง" แพนด้าเพศผู้ที่ทางการจีนส่งมายังประเทศไทย พร้อมกับ "หลินฮุ่ย" แพนด้าเพศเมียในฐานะทูตสันถวไมตรีระหว่างไทย-จีน จัดแสดงในสวนสัตว์เชียงใหม่มาตั้งแต่ปี 2546 เมื่อช่วงช่วงได้ตายลงเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 16 ก.ย. โดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งที่ก่อนหน้านี้กำลังเดินเล่นหลังกินอาหารเย็น จู่ๆเกิดชักล้มลง สัตวแพทย์ตรวจเบื้องต้นพบว่าเป็นการตายตามธรรมชาติ จึงได้นำซากไปเก็บไว้เพื่อรอผู้เชี่ยวชาญจากประเทศจีนมาดำเนินการชันสูตรหาสาเหตุการตายตามข้อตกลงระหว่างไทย-จีนต่อไป
ขณะที่แฟนคลับชาวเชียงใหม่ ต่างแสดงความอาลัยให้กับช่วงช่วง ส่วนหลินฮุ่ย แพนด้าเพศเมียหลังกินไผ่แล้วเดินขึ้นไปนอนบนซอกหินแต่ไม่ร่าเริงเหมือนเก่า คล้ายกับรับรู้ว่าช่วงช่วงไม่อยู่อีกแล้ว อีกด้านหนึ่ง สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชาวจีนในโซเชียลมีเดียเหว่ยป๋อกังวลว่าประเทศไทยเหมาะสมหรือไม่ที่จะเลี้ยงแพนด้า เจ้าหน้าที่อาจเลี้ยงไม่ดีพอ บางส่วนเรียกร้องให้จีนนำหลินฮุ่ยกลับประเทศ ส่วนการผ่าพิสูจน์ซากช่วงช่วง ผู้เชี่ยวชาญจีนและสัตวแพทย์ของไทยดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว แต่ต้องส่งให้รัฐมนตรีทั้งไทยและจีนพิจารณาก่อนแถลงข่าวต่อไป
อันดับ 6 : ประหารชีวิต "เสี่ยอ้วน ป่าตอง" ฆ่า "น้องฟอส-น้องสปาย" หน้าพระพุทธรูปเขาชีจรรย์
คดีสะเทือนขวัญกลุ่มคนร้ายยิง น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ สปาย และนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือฟอส เสียชีวิตในรถยนต์ บริเวณหน้าพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2561 ก่อนที่จะจับกุมทีมสังหารได้ทั้งหมด ต่อมาทางการกัมพูชาจับกุม นายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน เจ้าของสถานบันเทิงใน จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นคนลงมือฆ่า สารภาพว่าทำไปเพราะแค้นที่ถูกสปายและครอบครัวหลอกเอาเงิน 7 ล้านกว่าบาท ไปในช่วงเวลา 6 เดือนที่คบกัน แต่ฝั่งครอบครัวของสปายปฏิเสธ อ้างลูกสาวไม่ยอมแต่งงานเพราะทนความป่าเถื่อนไม่ได้
ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ก.ย. ศาลจังหวัดพัทยาพิพากษาประหารชีวิตนายปัญญา พร้อมด้วยนายกฤษณะ ศรีสุข และนายณรงค์ วรินทรเวช ซึ่งเป็นกลุ่มที่ลงมือฆ่า แต่ให้การเป็นประโยชน์จึงลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนนายสายันต์ ศรีสุข คนชี้เป้า จำคุกตลอดชีวิต แต่ลดโทษเหลือจำคุก 50 ปี นายเกียรติศักดิ์ สุรางค์สว่างแสงมีบุญ และนายจิรศักดิ์ อุนัยบัน จำคุกคนละ 24 ปี แต่ลดโทษเหลือจำคุกคนละ 12 ปี พร้อมให้จ่ายเงินแก่ครอบครัวสปาย 7.31 ล้านบาท และครอบครัวฟอส 7.32 ล้านบาท ซึ่งนางวันเพ็ญ นาเมืองรักษ์ แม่ของสปายพอใจกับคำตัดสินของศาล
อันดับ 7 : ผงะ! ลักลอบยาไอซ์มหึมา 467 กิโลกรัม ซ่อนในถุงปุ๋ยอย่างดี แต่ฝนตกถนนลื่นพลาดท่า
พบยาไอซ์ครั้งมหึมาโดยบังเอิญเกิดขึ้นเมื่อ 20.30 น. วันที่ 20 ก.ย. ฝนตกหนักทำให้รถบรรทุก 10 ล้อ ทะเบียน 72-3186 นครปฐม พุ่งชนตอม่อสะพานทางแยกต่างระดับเพชรบุรี ถนนเพชรเกษม ขาล่องใต้ อ.เมือง จ.เพชรบุรี เจ้าหน้าที่นำผู้บาดเจ็บ 2 รายนำส่งโรงพยาบาล ขณะกำลังล้างถนน พบห่อชาหล่นกระจาย 28 ถุง แตกออกมาเป็นผงสีขาว เมื่อตำรวจนำชุดตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดมาตรวจสอบ ปรากฏว่าเป็นยาไอซ์ พอตรวจค้นท้ายรถพบยาไอซ์ในถุงปุ๋ยสีฟ้า รวม 15 กระสอบ น้ำหนัก 467 กิโลกรัม ซุกซ่อนปนกับถุงอาหารสัตว์ รวมมูลค่า 1,500 ล้านบาท
จากนั้นตำรวจรีบอายัดตัวผู้บาดเจ็บ 2 รายที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี มาดำเนินคดี ทราบชื่อคือ นายวิลฎาณ แลหะ อายุ 18 ปี เป็นคนขับ และนายอดินันท์ แลหะ อายุ 45 ปี เป็นน้าชาย ชาว อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ตรวจสอบประวัติพบนายอดินันท์เคยติดคุกคดียาเสพติดเมื่อปี 2553 พ้นโทษปี 2558 ก่อนซื้อรถสิบล้อคันดังกล่าวรับจ้างขนสินค้าขึ้นล่องทั่วประเทศ คาดว่าน่าจะเคยลักลอบขนยาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง แต่คราวนี้พลาดท่าเพราะฝนตกถนนลื่น ทำให้รถพลิกคว่ำ เตรียมตรวจสอบเส้นทางที่มาที่ไปอย่างละเอียดอีกครั้ง