xs
xsm
sm
md
lg

ขวัญชนก เตชะวิจิตร์ กับ งานบริหารโรงเรียนรีเจ้นท์ เพื่อนำนักเรียนไปถึงฝัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

แม้ว่าว่าโรงเรียนรีเจนท์จะเป็นโรงเรียนนานาชาติที่มีอายุราว 25 กว่าปี แต่ด้วยปณิธานที่แน่วแน่ของทางผู้บริหารที่ตั้งใจว่าจะให้เด็กนักเรียนของทางโรงเรียนนั้น ได้ไปสู่เส้นทาง ทางการศึกษาดั่งที่แต่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ จนทำให้ศิษย์เก่าบางคน มีความประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้ในที่สุด ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวนี้ ก็มี ขวัญชนก เตชะวิจิตร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนนานาชาติรีเจ้นท์ เป็นหนึ่งในแรงผลักดันเหล่านั้น รวมอยู่ด้วย

อยากให้ช่วยพูดถึงรางวัลองค์กรดีเด่นแห่งปีที่เพิ่งได้รับมาพอสังเขปหน่อยครับ

คือปีนี้ทางโรงเรียนได้รับรางวัลเป็นองค์กรดีเด่นจากมูลนิธิเพื่อสังคมไทย คือตลอดปีที่ผ่านมา ทางโรงเรียนได้ทำกิจกรรมในการส่งเสริม พวกสังคมสงเคราะห์ต่างๆ แล้วก็ Service Project ต่างๆในโรงเรียน ทั้งพาเด็กไปทำโครงการกับ Mercy Center และ Good Shepherd ดินแดง พาเด็กนักเรียน ไปทำกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งสอนภาษาอังกฤษ อีกทั้งเราช่วยเหลือเด็กที่มีปัญหาโรคปากแหว่งเพดานโหว่ คือเรามีกิจกรรมที่ส่งเสริมทางด้านสังคมสงเคราะห์ให้น้องๆนักเรียน ตลอดทั้งปี

แล้วทางองค์กรมูลนิธิเพื่อสังคมไทย ได้เล็งเห็นว่าทางโรงเรียนเราจริงจัง และค่อนข้างให้ความสำคัญในการช่วยเหลือสังคม แล้วตัวเรากับทางคุณแม่ คุณทิพวรรณ เตชะวิจิตร์ ได้จัดกิจกรรม วาดภาพด้วยใจรัก ด้วยการวาดภาพด้วยสีอะคริลิค โดยจัดนิทรรศการขึ้นที่สยามพารากอน เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน และเราได้รวบรวมเงินจากการทำกิจกรรมนี้ทั้งหมด 2 ล้านกว่าบาท โดยนำเงินไปมอบให้กับทางโรงพยาบาลจุฬาฯ ในเรื่องของผู้ป่วยอัลไซเมอร์โดยที่ไม่ได้หักค่าใช้จ่ายอะไร ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทางเราทำมาโดยตลอด เลยทำให้มูลนิธิได้เล็งเห็นว่าเรามีการช่วยเหลือสังคมอย่างจริงจัง เพราะว่ามูลนิธินี้มุ่งสนับสนุนในเรื่องของการทำความดี คือนักธุรกิจไม่ใช่แค่หวังผลในเรื่องการทำกำไรอย่างเดียว แต่ก็ต้องเน้นเรื่องช่วยเหลือสังคมด้วยค่ะ

การช่วยเหลือสังคมเป็นปัจจัยสำคัญในโรงเรียนอย่างไร

คือทางโรงเรียนเน้นว่า การที่เด็กจะเรียนได้ดี มันไม่ใช่แค่ good head อย่างเดียว จะต้องมี good heart ด้วย เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราปลูกฝังในโรงเรียนเรามาตั้งแต่เล็กๆ เราจะสอนให้นักเรียนของเรามีความช่วยเหลือเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เราหล่อหลอมให้เขาเป็นคนดีตั้งแต่เล็ก

จากการเปิดโลกทัศน์ให้กับเด็กนักเรียน โดยภาพรวมเป็นยังไงบ้างครับ

เราจะเห็นได้ว่านักเรียนที่จบไปจากโรงเรียนเรา จะมีจิตใจที่อ่อนโยน การเข้ามหาวิทยาลัยสมัยนี้ เขาไม่ได้ดูแค่คะแนนเกรดอย่างเดียว มหาวิทยาลัยดังๆอย่าง Oxford หรือ Cambridge หรือ Cornell, Stanford ที่เด็กของเราได้รับเลือกเข้าไปศึกษาต่อจะดูกิจกรรมที่เขาทำในโรงเรียน อย่างมีนักเรียนคนหนึ่งที่ได้รับทุนจาก Cornell เขาไม่ได้มองนักเรียนคนนี้ว่ามีคะแนนที่สูง แต่เขาดูว่าจากที่ผ่านมาน้องเขาได้ทำกิจกรรมอะไรบ้าง อย่างตัวนี้ก็เป็นการสร้างเสริมประสบการณ์ให้เขา ทำให้มหาวิทยาลัยได้เห็นว่าน้องเค้าได้ทำกิจกรรมเพื่อสังคม ไม่ใช่แค่เรื่องเก่งอย่างเดียว

ซึ่งกิจกรรมโดยส่วนมาก เด็กนักเรียนโรงเรียนเราจะมีการคิดกันเอง จะมีการรวมกลุ่มว่าปีนี้มีการทำโปรเจคต์กับองค์กรนี้ อย่างกิจกรรมปากแหว่งเพดานโหว่ เด็กๆก็จะมีการรวบรวมเงินกันเอง แล้วก็บินกันไปเพื่อไปศึกษาดูว่าน้องๆกลุ่มที่มีปัญหาเหล่านี้ต้องใช้ทุนเท่าไหร่ เขาก็มีการจัดกิจกรรมระดมทุนในโรงเรียน แล้วก็ทำเป็นกิจกรรมต่อเนื่องเพื่อให้รุ่นน้องได้เรียนรู้ด้วย

คือเราไม่ได้สอนให้เด็กนักเรียนเน้นการอ่านหนังสืออย่างเดียว แต่เราจะเน้น think out of the box คือให้คิดอะไรออกนอกกรอบและลงมือทำ



ตั้งแต่ที่คุณนุ่นได้มาบริหารงาน ถือว่ามีทิศทางที่ดีขึ้นมั้ยครับ

ตั้งแต่เรียนจบปริญญาโทจากประเทศอังกฤษก็ได้มีโอกาสช่วยบริหารงานที่นี่ ทั้งจากสาขาพัทยาและกรุงเทพฯ อย่างหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่า เราอยากทำงานตรงนี้ คือเราเห็นเด็กที่เริ่มเรียนกับเราตั้งแต่อนุบาล จนเรียนจบออกไปแล้วได้ศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยที่ดีๆ ซึ่งหลายๆคนก็กลับมาขอบคุณทางโรงเรียน อย่างเช่นเด็กนักเรียนคนหนึ่งที่ตอนนี้เป็นรัฐมนตรีช่วยที่ประเทศ Armenia เขากลับมาขอบคุณทางคณะผู้บริหาร ที่ช่วยสอนเค้าไม่ใช่แค่ในห้องเรียนอย่างเดียว แต่เตรียมความพร้อมให้เขาเข้ามหาลัยชั้นนำจนเขาประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน

ตลอดระยะเวลา เกือบ 25 ปีที่ผ่านมา เราก็จะเห็นนักเรียนแต่ละคนมีการเติบโต และประสบความสำเร็จ และเราได้เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้เขาได้เข้าไปมหาลัยที่ดีๆ อีกอย่างหนึ่งคือ ที่นี่เรามีบุคลากรที่ดีมาก คณะครูที่นี่ มีการคัดสรรจากที่ประเทศอังกฤษทั้งหมด คือครูทุกคนจะมีคุณวุฒิการสอนหรือเรียกว่า QTS Qualified Teacher Status พร้อมปริญญาตรี, โท, เอกของสาขาที่เขาสอน ครูแต่ละคนก็อยู่กับเรามาหลายปี และมีความสุข อย่างครูบางคนเขาก็อยู่กับเรามาเป็นเวลา 10 กว่าปีก็มี มันก็เลยทำให้การบริหารจัดการในโรงเรียนค่อนข้างที่จะง่าย เป็นระบบระเบียบ และเราอยู่กันเป็นครอบครัว

แสดงว่าบุคลากรของที่นี่สามารถปรับตัวเข้ากับเมืองไทยได้ เลยทำให้สามารถอยู่ที่นี่ได้นาน

มีครูที่มาจากอังกฤษ ท่านหนึ่งบอกเลยว่า ตอนที่สอนที่อังกฤษ เขาต้องใช้เวลา 15-30 นาที เพื่อจัดการปัญหาห้ามเด็กนักเรียนเอาขาขึ้นโต๊ะเรียน ให้นั่งให้เป็นระเบียบ ให้ตั้งใจฟังครู ซึ่งเขาต้องเสียเวลากับการจัดการตรงนี้ทุกครั้ง แต่พอมาสอนที่นี่ปุ๊บ เด็กนักเรียนในห้องก็มีความพร้อมที่จะเรียนแล้ว เขาบอกว่าการที่ได้เจอเด็กนักเรียนที่มีระเบียบและน่ารัก มันทำให้เขาสอนได้อย่างเต็มที่ เขาเลยชอบที่จะอยู่เมืองไทยและการสอนที่นี่ ก็เลยทำให้ครูเขาอยู่กับเรานาน

ในทางวิชาการเราใช้หลักสูตรและข้อสอบทั้งหมดมาจากประเทศอังกฤษ แต่ในเรื่องการใช้ชีวิตและสังคม เราจะเน้นในเรื่องของวัฒนธรรมไทย เราให้เขารู้ว่า เราอยู่ในเมืองไทย ต่อให้เป็นชาวต่างชาติ ก็ต้องมีการเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ เราจะเห็นนะว่าทั้งครูและนักเรียนที่เป็นชาวต่างชาติ เวลาเจอก็จะมีการยกมือไหว้และก้มหัว แสดงความอ่อนน้อมถ่อมตน รู้จักให้เกียรติผู้ใหญ่ การเรียนในโรงเรียนอินเตอร์นั้น มันไม่จำเป็นที่จะต้องได้รับวัฒนธรรมตะวันตกอย่างเดียว เราก็มีครูชาวไทยที่มีความสามารถมาช่วยในเรื่องของกิจกรรมส่งเสริมรักษาวัฒนธรรมไทย โดยเรามีกิจกรรมต่างๆ ทั้งในเรื่องวันลอยกระทง วันสงกรานต์ หรือวันไหว้ครู โดยเฉพาะกิจกรรมวันไหว้ครู ครูชาวต่างชาติเขามีความประทับใจมาก เพราะมันเป็นช่วงเวลาที่ลูกศิษย์ได้แสดงออกการเคารพผู้มีพระคุณ ซึ่งครูชาวต่างชาติเขาจะไม่เคยพบสัมผัสมาก่อน ที่อังกฤษความสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียนก็ห่างเหิน ไม่ได้ใกล้ชิดขนาดนี้

แล้วในเรื่องการจัดการในโรงเรียน ได้ทำตามเป้าหมายของตัวเองต่อโรงเรียนไปพอสมควรบ้างรึยังครับ

เราก็วางเป้าหมายด้วยการยึดเด็กเป็นที่ตั้ง เป้าหมายสำคัญของเราไม่ได้อยู่ที่ตัวเงินหรือจำนวน แต่เราต้องการให้เด็กทุกคนที่เรียนที่นี่ จะต้องได้เรียนมหาวิทยาลัยที่ดีๆ อย่างที่บอก หรือถ้านักเรียนคนไหนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ในการเรียนต่อมหาวิทยาลัย ทางโรงเรียนของเราก็มีการช่วยหาทุนการศึกษาต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วโลก นักเรียนที่จบไป มีน้องคนหนึ่งเขาได้รับทุนการศึกษาฟรีไปเรียนต่อปริญญาตรีที่ฮ่องกง เพราะว่าเขามีความสามารถทางด้านดนตรีด้วย ทางโรงเรียนก็เป็นแรงผลักดันอีกทางหนึ่งที่ช่วยกันหาทุนเพื่อให้เขาได้เรียนต่อ

แต่ถ้าถามถึงจุดมุ่งหมายของเราต่อการบริหารงาน เราจะไม่ใช่โรงเรียนใหญ่แต่ก็จะให้ความรักความอบอุ่นให้กับนักเรียนของเรา รวมถึงใส่ใจในรายละเอียดต่อเด็กทุกคน ฉะนั้นเป้าหมายที่เราต้องทำก็คือทำโรงเรียนให้ดีที่สุด ให้เด็กนักเรียนมาโรงเรียนอย่างมีความสุขในทุกๆวัน



ในระยะเวลาประมาณ 25 ปีที่ผ่านมา การจัดการภายในโรงเรียนเป็นยังไงบ้างครับ

โรงเรียนของเราก็มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆปีก็จะมีการพัฒนา อย่างปีนี้ก็มีการสร้างตึกสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิกนะคะ ซึ่งจะแล้วเสร็จในปีการศึกษาหน้า (2563) แล้วเราก็พยายามเอาโค้ชเก่งๆ จากต่างประเทศมา ทางโรงเรียนของเราก็พยายามที่จะผลักดันในเรื่องกีฬา รวมไปถึงการดนตรี การที่เด็กนักเรียนจะเก่งได้นั้นก็ต้องมีความเก่งรอบด้านด้วย เราก็พยายามจัดให้เขาได้ลองเครื่องดนตรีหลายอย่าง ซึ่งทางเราได้ร่วมมือกับทาง Yamaha ในการสร้างแผนกดนตรี มีคลาสดนตรีหลังเลิกเรียน เพื่อผู้ปกครองสะดวกยิ่งขึ้น

แนวทางของเราก็คือผลิตเด็กนักเรียนที่เก่งรอบด้านอย่างที่บอก ไม่ใช่แค่ว่าเขาจะมีความเก่งในเรื่องวิชาการอย่างเดียว แต่เขาจะต้องเก่งในทักษะอื่นๆด้วย รวมถึงช่วยเหลือสังคมด้วย อย่างโรงเรียนเราก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของ round Square (www.roundsquare.org) ซึ่งเป็นองค์กรระดับโลก แล้วองค์กรนี้ จะมีการคัดเลือกโรงเรียนจากทั่วโลก ซึ่งเราถูกคัดเลือกในปีนี้เป็นปีที่ 10 แล้ว และทุกๆปีเราก็จะมีการส่งนักเรียนไปประชุมร่วมกับองค์กรดังกล่าวนี้ ซึ่งจะเป็นการสร้างคอนเนคชั่นให้เด็กทั่วโลกให้มีการรู้จักกัน อย่างปีล่าสุด มีการประชุมที่แคนนาดา เด็กนักเรียนที่ได้ประชุมมา ก็กลับมาบอกรุ่นน้องว่าสิ่งที่เขาได้ไปเจอมานั้น เป็นการเสริมประสบการณ์ให้กับพวกเขา เปิดโลกกว้างมากขึ้น

ตั้งแต่ที่มีการบริหารงานทางโรงเรียนมา มีตรงไหนที่ยากที่สุดบ้างครับ

น่าจะเป็นเรื่องของความใส่ใจในรายละเอียดค่ะ ด้วยความที่โรงเรียนเรามีนักเรียนประมาณ 700 คน ที่มาจากครอบครัว 700 ครูอีกกว่า 200 ท่าน เพราะฉะนั้นความต้องการในแต่ละครอบครัวก็จะมีความต่างกัน ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเราต้องมีการรับฟังเขา เรารับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะ ของทุกๆ คน แล้วเราก็เอามาปรับใช้ ให้คิดเสมอว่า เด็กและผู้ปกครองส่วนมาก ต้องรับ benefit ตรงนี้ โรงเรียนไม่ใช่เป็นสถานที่ที่ให้ความรู้เด็กในห้องเรียนอย่างเดียว แต่เหมือนกับดูแลพวกเขา เพราะที่นี่คือบ้านหลังที่สองของเขา

นับตั้งแต่ที่คุณนุ่นมาช่วยบริหารโรงเรียน ได้ทำตามที่คาดหวังไว้พอสมควรรึยังครับ

ถือว่าได้ทำตามที่คาดหวังไว้นะคะ ถ้าถามว่าเราอยากจะให้มีการพัฒนาในอนาคตหรือเปล่า แน่นอนว่าต้องมี แล้วนักเรียนชาวต่างชาติสนใจที่จะมาเรียนในประเทศไทยค่อนข้างเยอะมากขึ้นด้วย เช่น ประเทศทางยุโรป, เกาหลี, จีน, ฮ่องกง และ ญี่ปุ่น ตอนนี้เราก็มีแผนในการขยายส่วนของหอพักมากขึ้น พัฒนาปรับปรุงบรรยากาศในหอพักมีความรู้สึกอบอุ่น ให้เขารู้สึกว่าเป็นบ้านหลังที่ 2 ก่อนหน้านี้เรามีหอพัก 2 หอ เราก็ได้มีการปรับปรุง เพิ่มเติมหอที่ 3 เราก็พยายามทำให้นักเรียนชาวต่างชาติ หรือนักเรียนต่างจังหวัดเองก็ตาม ได้เรียนโรงเรียนอินเตอร์ดีๆโดยที่ไม่ต้องบินไปไกลถึงเมืองนอก

ตลอดระยะเวลากว่า 25 ปีที่ผ่านมา อยากให้คุณนุ่นประมวลผลคร่าวๆ หน่อยครับ

เราก็มีความรู้สึกภูมิใจนะคะ เพราะอย่างที่บอกว่าเด็กนักเรียนหลายๆคนก็ได้ประสบการณ์ที่ดี และได้เข้ามหาวิทยาลัยดีๆ อย่างนักเรียนคนนึงที่เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนของเรา เขาเรียนจบปริญญาเอก จาก University of Cambridge ตอนนี้ก็เป็นอาจารย์ University of Reading ที่อังกฤษ เขาก็เป็นเด็กไทยคนหนึ่ง ที่ถึงแม้ว่าจะมาเข้าเรียนที่เราในช่วงมัธยมแล้ว แต่เราก็ช่วยหาทุนให้กับเขา จนทำให้เขาสามารถเรียนจบปริญญาตรี โท และเอกที่อังกฤษ เลยทำให้เราได้เห็นว่า การที่เราได้ให้โอกาสกับเด็กไทย ให้เขาไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแพงๆเพื่อที่จะไปเรียนเมืองนอก ทำให้เขาได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก รวมไปถึงทำให้เขาได้มีหน้าที่การงานที่ดีในชีวิต เราเลยคิดว่าการทำโรงเรียนนานาชาติ มันไม่ใช่เป็นการทำธุรกิจ แต่เป็นการสร้างโอกาสให้เด็กไทย รวมถึงนักเรียนต่างชาติที่บินมาเรียนที่นี่ อีกอย่าง เราก็ได้บอก Staff ทุกคนในโรงเรียนว่า การที่ได้มาทำงานในโรงเรียนมันไม่ใช่แค่ทำงานอย่างเดียว แต่ถือว่าเป็นการสร้างบุญกุศล สร้างโอกาส และเป็นการผลักดันให้เด็กของเราได้รับโอกาสทางการศึกษาที่ดี และมอบสิ่งดีๆ ให้กับนักเรียนของเรา

ตอนนี้มีสิ่งไหนที่คุณนุ่นเอง ที่อยากทำแต่ยังไม่ได้ทำบ้างครับ

คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของการกีฬาค่ะ อย่างที่บอกไปว่าเรามีการสร้างสระว่ายน้ำมาตรฐานโอลิมปิก เราได้มีการวางแผนไว้ว่า จะทำการผลักดันในเรื่องกีฬาว่ายน้ำ รวมถึงกีฬาชนิดอื่นๆ เช่น ฟุตบอล เราได้รับเกียรติจากโค้ชเก่งๆจากทั่วโลกมาอยู่กับเรา มาช่วยผลักดันให้นักเรียนของเรามีผลงานทางด้านกีฬาที่ดีขึ้น เรามี coach เก่งๆ ระดับโลกอย่างโค้ช football Premier League เข้ามาสอนเด็กของเรา การที่จะให้สิ่งที่ดีที่สุดกับเด็กนักเรียน เราจะต้องดึงของที่ดีที่สุดในแต่ละด้านมารวมกัน


เรื่อง : สรวัจน์ ศิลปโรจนพาณิช
ภาพ : พลภัทร วรรณดี และ โรงเรียนนานาชาติรีเจนท์



กำลังโหลดความคิดเห็น