วันนี้ (15 ก.ย.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) พร้อมด้วย นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการฯ นายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัดกระทรวงฯ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และ นายโสภณ ทองดี ผู้ตรวจราชการกระทรวงในฐานะโฆษกประจำกระทรวงฯ พร้อมผู้บริหาร ทส. ลงพื้นที่ประสบอุทกภัยบริเวณบ้านไร่ใต้ และ บ้านไร่พัฒนา อ. พิบูลมังสาหาร จ. อุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 8,211 คน เพื่อมอบถุงยังชีพและน้ำดื่มให้กับประชาชน ผู้ประสบภัยน้ำท่วม และได้ให้กำลังใจแก่ผู้ประสบภัยให้ผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ได้อย่างปลอดภัย
นายวราวุธ กล่าวว่า วิกฤติอุทกภัยครั้งนี้ สร้างความเดือดร้อนและความเสียหายให้กับประชาชนในหลายพื้นที่ โดยที่ผ่านมาได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เตรียมพร้อมทั้งกำลังคน ยานพาหนะ อุปกรณ์ เครื่องช่วยชีวิตและสิ่งของจำเป็นลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนทั่วประเทศ ซึ่ง ทส. ได้ระดมสรรพกำลังกว่า 450 นาย ยาน พาหนะ รถบรรทุกน้ำ รถผลิตน้ำดื่ม รถเครน รถบรรทุกหกล้อ รถกู้ภัยจากอุทยานแห่งชาติ รถฉุกเฉินช่วยเหลือสัตว์ป่า รวมกว่า 50 คัน เรือยนต์และเรือท้องแบน จำนวน 12 ลำ เครื่องช่วยชีวิต พร้อมด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในจังหวัดอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุและวันนี้ได้นำถุงยังชีพ กว่า 1,000 ชุด อาหารกลางวันเป็นข้าวห่อใบตอง จำนวน 1,000 ห่อ และน้ำดื่มเพื่อมอบให้กับผู้ประสบภัยได้บรรเทาความเดือดร้อน
"ทั้งนี้ จากรายงานของหน่วยงานในพื้นที่ทราบว่า มีเพียงบางพื้นที่ที่สถานการณ์มีแนวโน้มคลี่คลายไปในทางที่ดี แต่อีกหลายพื้นที่ยังคงประสบปัญหาอย่างหนัก ซึ่งได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นลำดับแรก โดยได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงกำกับทุกหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ให้การช่วยเหลือจนกว่าสถานการณ์จะยุติ อย่างไรก็ตาม ขอให้ดูแลเรื่องความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ชุด ปฏิบัติงานในพื้นที่ ที่เสียสละทั้งแรงกาย แรงใจในการปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และในช่วงสัปดาห์ต่อจากนี้ ได้สั่งการให้วางแผนการช่วยเหลือในระยะหลังน้ำลดทั้งการช่วยซ่อมแซมบ้านเรือน การเคลื่อนย้ายสัตว์กลับถิ่นฐาน การเร่งเก็บขยะมูลฝอยที่ตกค้างในระบบนิเวศต่อไป"
นายวราวุธ กล่าวอีกว่า ตนได้กำชับให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมจังหวัด ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมทุกจังหวัด ให้เป็นหน่วยปฏิบัติและประสานงานกลางในพื้นที่ ร่วมกับทางศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมของจังหวัด และหน่วยงาน ภายใต้สังกัด ทส. ในการทำพนังกั้นน้ำ บรรจุถุงยังชีพ ช่วยเหลือและบริบาลสัตว์เลี้ยงที่ประสบอุทกภัย ช่วยเหลือ ประชาชนอพยพและขนย้ายสิ่งของ รวมถึงดำเนินการตามที่จังหวัดและประชาชนร้องขอ และให้สรุปรายงานให้กระทรวงทราบทุกวัน หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินให้รายงานผู้บริหารทราบโดยด่วน เพื่อจะได้สั่งการและแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที
นายวราวุธ กล่าวต่อว่า โดยที่ผ่านมา ทส. สามารถให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนได้ในหลายพื้นที่ อย่างไรก็ตาม “ตนขอนำ ความปราถนาดีและความห่วงใยเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชนของท่านนายกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมามอบให้แก่ประชาชนผู้ประสบภัยทุกคนทั่วประเทศให้ผ่านพ้น วิกฤติอุทกภัยครั้งนี้ได้อย่างปลอดภัย และเกิด ความสูญเสียน้อยที่สุด ทั้งนี้ ขอยืนยันว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะให้การช่วยเหลือเช่นนี้และอยู่เคียงข้างประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะยุติ