เอกอัครสมณทูตนครรัฐวาติกันประจำประเทศไทย ประกาศการเสด็จเยือนราชอาณาจักรไทยอย่างเป็นทางการ ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ระหว่างวันที่ 20-23 พ.ย. ตามคำเชิญของรัฐบาลไทย เพื่อจาริกสันติภาพ เปิดมิติทำงานร่วมกับศาสนาต่างๆ นำสันติไปสู่มวลชน
วันนี้ (13 ก.ย.) ที่โรงพยาบาลเซ็นหลุยส์ เขตสาทร กทม. สภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย แถลงข่าว สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสเสด็จเยือนราชอาณาจักรไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 20-23 พ.ย. ตามคำเชิญของรัฐบาลไทยและสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย โดยมีอาร์ชบิชอป พอล ชาง อิน นัม เอกอัครสมณทูตนครรัฐวาติกันประจำประเทศไทยเป็นผู้อ่านประกาศ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับนครรัฐวาติกัน ประเทศอิตาลี และมีผู้อ่านประกาศเป็นภาษาไทย ความว่า "สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสจะเสด็จเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 20-23 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2562 ตามคำเชิญของรัฐบาลไทย และสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย กำหนดการต่างๆ ขอการเสด็จเยือนดังกล่าวจะประกาศให้ทราบต่อไป"
ทั้งนี้ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส จะทรงประกอบศาสนกิจ อีกทั้งทรงเยี่ยมเยียนคริสตชนในประเทศไทยเป็นเวลา 4 วัน ก่อนที่จะเสด็จต่อไปยังประเทศญี่ปุ่น นับเป็นการเสด็จเยือนประเทศไทยของสมเด็จพระสันตะปาปาครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1984 (พ.ศ.2527) สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 เสด็จเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะพระราชอาคันตุกะ ปัจจุบันประเทศไทยมีประชากรที่นับถือศาสนาคริสต์ นิกายคาทอลิกจำนวน 388,468 คน และมี 11 เขตศาสนปกครอง (มิสซัง)
นายวิษณุ ธัญญอนันต์ รองเลขาธิการ สภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จุดประสงค์การเยือนประเทศไทยของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสนั้น เพื่อมาเยือนบรรดาพี่น้องคริสตชนคาทอลิก และเพื่อจาริกสันติภาพ โดยเน้นการสร้างสะพานเพื่อสันติภาพ เปิดชีวิตของพระองค์ให้เป็นประจักษ์พยานในการนำสันติไปสู่มวลชน ไม่ใช่เฉพาะชาวคริสต์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้อื่นด้วย และในบริบทประเทศไทย เพื่อเสวนาทางศาสนา เปิดมิติทำงานร่วมกับศาสนาต่างๆ แม้จะมีความหลากหลายแต่ก็อยู่ได้ด้วยความเอกภาพ
สำหรับการเสด็จเยือนประเทศไทย จะมีลักษณะคล้ายกันกับทุกประเทศ โดยมีพันธกิจเพื่อสันติภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งจะพบกับกลุ่มชนพื้นบ้าน ผู้นำศาสนา รวมทั้งเยาวชน ที่สำคัญจะมีพิธีบูชาขอบพระคุณ (พิธีมิสซา) 2 ครั้ง ครั้งหนึ่งสำหรับคริสตชนคาทอลิกในประเทศไทย และอีกครั้งหนึ่งเป็นพิธีบูชาขอบพระคุณเพื่อสื่อสารแก่เยาวชนคนรุ่นใหม่ คล้ายกับการเสด็จเยือนประเทศไทยของสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 โดยรายละเอียดต่างๆ จะมีการแถลงข่าวเป็นระยะเพื่อความแน่นอน
ด้านนายอนุชา ไชยเดช ผู้อำนวยการสื่อมวลชนคาทอลิกแห่งประเทศไทย ระบุว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสเสด็จเยือนประเทศไทย ตามคำเชิญของรัฐบาลไทย จึงได้เตรียมความพร้อมสำหรับสื่อมวลชน โดยจะมีสำนักข่าวกลาง สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย และโซเชียลมีเดียทั้งหมด เพื่อความถูกต้องเหมาะสม นอกจากนั้น จะมีผู้ประสานงานอย่างเป็นทางการ พร้อมให้ข้อมูลและตอบคำถามต่างๆ แก่สื่อมวลชนอีกด้วย
สำหรับสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระนามเดิมคือ พระคาร์ดินัล ฮอร์เก มาริโอ แบร์โกลิโอ พระราชสมภพเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ค.ศ.1936 (พ.ศ.2479) อายุ 83 ปี เดิมเป็นพระอัครสังฆราชแห่งกรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปาเมื่อวันที่ 13 มี.ค. ค.ศ.2013 (พ.ศ.2556) เป็นองค์ที่ 266 ของพระศาสนจักร และทรงเลือกพระนาม “ฟรังซิส” นับเป็นพระสันตะปาปาพระองค์แรกจากทวีปอเมริกาและคณะเยสุอิต และเป็นองค์แรกในรอบ 1,300 ปี ที่ไม่ได้เป็นชาวยุโรป
ทั้งนี้ ทรงมีพระราชดำรัสเรียกร้องให้ทุกคนร่วมมือกันปฏิรูปพระศาสนจักรอย่างเป็นระบบ ทรงดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย มุ่งต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิของผู้ยากไร้ ทรงเดินทางเพื่อเสด็จเยี่ยมอภิบาลนอกประเทศอิตาลี มากกว่า 30 ครั้ง และยังคงเสด็จเยี่ยมสัตบุรุษบริเวณรอบนอกกรุงโรมเป็นประจำ ทั้งในเขตชานเมืองที่ยากไร้ในโรงพยาบาล ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพ รวมถึงที่คุมขัง และในศูนย์อำนวยความสะดวกสำหรับผู้อพยพและผู้ลี้ภัยอีกด้วย
สำหรับการเสด็จเยือนราชอาณาจักรไทยอย่างเป็นทางการ ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส นับเป็นการเสด็จเยือนครั้งที่ 32 และเป็นครั้งที่ 4 ของประเทศในทวีปเอเชีย หลังจากพระองค์เสด็จร่วมงานเยาวชนเอเชีย ครั้งที่ 6 ประเทศเกาหลีใต้ ในเดือนสิงหาคม ค.ศ.2014 (พ.ศ.2557) เสด็จเยือนประเทศศรีลังกาและฟิลิปปินส์ ในเดือนมกราคม ค.ศ.2015 (พ.ศ.2558) และเสด็จเยือนประเทศเมียนมาต่อด้วยประเทศบังคลาเทศ ในเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม ค.ศ. 2017 (พ.ศ.2560)