“ธัญชนก วัชโรทัย” เผยแผนปั้น "บลูโวยาจ” ธุรกิจเรือยอร์ชให้เช่า ขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งทั้งใน-นอกประเทศ

ด้วยความหลงใหลในท้องทะเลนำไปสู่การลงมือทำธุรกิจให้เช่าเรือ ยอชต์ “บลู โวยาจ ไทยแลนด์” (Blue Voyage Thailand) ออม-ธัญชนก วัชโรทัย” วาดฝันให้ธุรกิจของเธอเติบโตในท้องทะเลที่กว้างใหญ่ โดยมีเป้าหมายขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งขยายกิจการ ให้บริการด้านไลฟ์สไตล์แบบครบวงจรทั้งในและนอกประเทศ

วันนี้ (11 ก.ย.) ธัญชนก วัชโรทัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท บริษัท บลู โวยาจ (ไทยแลนด์) จำกัด เผยว่า “ธุรกิจนี้เริ่มจาก Passion ส่วนตัวเป็นคนที่รักการท่องเที่ยวทางทะเลตั้งแต่เด็กๆ ตอนที่เรียนอยู่ออสเตรเลียทุกซัมเมอร์กลับมาประเทศไทย ก็จะมาออกทริปเรือยอร์ช ของเพื่อน หรือบางทีก็เช่า เรือยอร์ช ของบริษัทในท้องตลาดที่มีออกไปเที่ยวกันบ้าง เป็นไลฟ์สไตล์ที่ชอบส่วนตัวอยู่แล้ว หลังจากจบการศึกษาจากประเทศออสเตรเลียแล้ว จึงได้เริ่มทำธุรกิจสตาร์ทอัพของตนเองในทันที เรามองคิดไว้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่าอยากทำธุรกิจนี้ และจะทำให้ดี และ หลากหลาย กว่าที่มีอยู่ เรามีไอเดียในหัวมากมาย จนมาเจอคุณปิ๊ง - ฐิตวัฒน์ วัชโรทัย (สามี) ขณะนั้นเป็นแฟนกันอยู่ เราก็ชวนเขามาขึ้นเรือกับกลุ่มเพื่อนๆของเรา แล้วเราก็เล่าถึง vision ในธุรกิจนี้ให้เค้าฟัง เค้าก็ชอบและอยากทำด้วย เลยใช้เงินเก็บลงขันกันซื้อเรือลำแรก และก็เป็นหุ้นส่วนสร้างบริษัทนี้ มาด้วยกันตั้งแต่นั้นมา
เมื่อ 5-6 ปี ที่แล้ว การล่องเรือยอร์ชในเมืองไทยเป็นอะไรที่ใหม่มาก เชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะมองว่าแพง และ ไกลเกินเอื้อมด้วย เพราะส่วนตัวเคยเช่าเรือยอร์ชบ่อยครั้ง ก็เห็นถึงจุดที่ยังสามารถพัฒนาได้อีกเยอะ และ ทำให้แตกต่างได้ หลากหลายได้ไม่ว่าจะเป็น ทั้งด้านบริการ และ ในแง่ของราคาที่เราตั้งใจว่า เราอยากทำให้คนทุกคนเอื้อมถึง ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ในการเที่ยวทะเล จะไม่ใช่แค่นั่งอยู่บนหาด มองไปที่ทะเล แบบเดิมๆ แต่จะเป็นการล่องเรือออกไปกลางทะเล ไปเกาะ ต่างๆ ไปสัมผัสธรรมชาติในสิ่งที่เราไม่เคยเห็น

ที่ผ่านมาเราได้มีการวางแผนการตลาด “บลู โวยาจ” (Blue Voyage) ได้ขยายกิจการไปทั่วประเทศไทย ในหัวเมืองทะเล อาทิ พัทยา , สมุย , ภูเก็ต , กระบี่ โดยเราให้บริการครบวงจรเกี่ยวกับเรือยอร์ช อาทิ Yacht management program , Repair and Services และ pre-owned โดยในช่วง5ปีที่ผ่านมา เรามุ่งเน้นโปรโมททะเลของประเทศไทย ทั้ง ออนไลน์ ออฟไลน์ ร่วมกับภาครัฐ ต่างๆ สื่อไทย และ ต่างชาติ เช่น ที่ พัทยา เราร่วมกับ ททท พัทยา เพื่อช่วยกันเปลี่ยนภาพลักษณ์ของเมืองพัทยา เพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ ได้ทราบว่า พัทยามีธรรมชาติที่สวยงามซ่อนอยู่ที่น้อยคนนักจะรู้ว่า นอกจาก เกาะล้าน แล้ว พัทยามี เกาะครามใหญ่ ,เกาะครามน้อย , เกาะเป็ด , เกาะไผ่ ที่เป็น hidden gems หรือ unseen destination ที่น้ำใส ปะการังสวย หาดทรายขาว มีเต่า และ สัตว์น้ำอุดมสมบูรณ์อยู่

ธัญชนก เผยต่อถึงอุปสรรคที่พบระหว่างการทำธุรกิจ ว่า “อุปสรรคที่เราพบในการทำธุรกิจก็คือการที่มีเพจ Facebook ให้เช่าเรือเปิดขึ้นมาเป็นมากมาย แบบไม่ถูกกฎหมาย ไม่มีใบอนุญาต นำเรือที่ไม่ได้มาตรฐาน มาปล่อยเช่า ตัดราคา ขายในราคาถูก เกิดอุบัติเหตุเรือล่มตามมา มีทั้งบาดเจ็บ และ เสียชีวิต ทำให้ส่งผลเสียต่อทั้ง industry ท่องเที่ยว แต่เราก็ผ่านจุด นั้นมาได้เพราะเรายืนหยัดในคุณภาพการบริการของเรา ทีไม่ใช่เป็นเพียงเรือให้เช่า แต่จะทำให้วันพักผ่อนของลูกค้าเป็น Trip of a lifetime และมาตรฐานความปลอดภัยที่สูงที่สุดจึงทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในตัวเราและบอกกันปากต่อปาก ซึ่งปัจจุบัน “บลู โวยาจ” (Blue Voyage) มีให้บริการเช่าเรือยอร์ชเริ่มต้นราคา เรือคาตามารัน 29,000 บาท / ทริป ครึ่งวัน 5 ชั่วโมง ไปจนถึง เรือ Superyacht 102 ฟุต ราคาอยู่ที่ 4 ล้านบาท / สัปดาห์

สำหรับเป้าหมายในการขยายเส้นทางการให้บริการเรือยอร์ชในอนาคต เราตั้งเป้าไว้ว่าปี 2020 “บลู โวยาจ” (Blue Voyage) จะเปิดให้บริการที่บาหลีอินโดนีเซีย อย่างครบวงจร เป็นอีกโปรเจ็คใหญ่ในปีหน้า จะมีบริการเรือ transport จากบาหลีไปยังเกาะ nusa penida และเรือยอร์ช แบบเหมาลำส่วนตัว และ แบบ join trip. นอกจากความสำเร็จด้านธุรกิจแล้ว เรายังมีเป้าหมายในการช่วยพัฒนาการท่องเที่ยวไทยตั้งแต่เริ่มธุรกิจวันแรกจนถึงวันนี้จวบจนเข้าปีที่ 5 สิ่งที่เราทำเสมอคือการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของประเทศไทยให้ทั้งชาวต่างชาติและคนไทยในประเทศหันมาเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้นและพยายามส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบ Luxury เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวตลาดบนเข้าเที่ยวในประเทศไทยอีกด้วย” นางธัญชนก กล่าวทิ้งท้าย