การที่สินค้าแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งแม้จะไม่ได้เติบโตหวือหวา หรือเป็นกระแสดังให้คนโจทย์ขานกันสนั่นโซเชียล แต่แบรนด์สินค้านั้นๆ ยังคงสามารถขายสินค้าได้เรื่อยๆ แถมตัวเลขยอดขายยังคงพุ่งแรงอย่างต่อเนื่อง จึงไม่ใช่เรื่องที่จะพบเห็นได้บ่อยนัก และถืออีกหนึ่งกรณีศึกษาทางการตลาดที่น่าสนใจและน่าค้นหาอยู่ไม่น้อย
“ดิว” - พิพัฒนกรณ์ เอี่ยมศิลา โค้ชนักการตลาดผู้ปั้นแบรนด์สถานศัลยกรรมความงามชื่อดัง บอกว่า คำถามที่นักการตลาด นักปั้นแบรนด์ มักตั้งขึ้นและพยายามหาคำตอบเสมอ คือ เทรนด์การตลาดใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ตลอดจนการทำตลาดแบบทันสมัยเพื่อใช้ขับเคลื่อนธุรกิจ และสร้างแบรนด์ ให้เป็นที่ยอมรับ อาจไม่ใช่สูตรสำเร็จอีกต่อไป โดยฝีมือและความจริงใจ ต่างหากที่จะมัดใจลูกค้าให้อยู่คู่คลีนิคอย่างยาวนาน
“ดิว” กล่าวถึง สถานการณ์แวดวงศัลยกรรมความงามในไทยว่า ยังคงมีเรื่องราวใหม่ๆ เกิดขึ้นเยอะมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลจากความต้องการที่มากขึ้น เปิดทางให้คลินิกความงามเกิดขึ้นมากมาย หลายแห่งขายภาพภาพลักษณ์ความเป็นมืออาชีพแล้วมาพร้อมกับราคาที่ถูกมาก ซึ่ง “ดิว” มองว่าเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ทำได้ แต่สำหรับเขาได้มองข้ามจุดนี้ เพราะไม่ใช่สิ่งที่ต้องเข้าไปแข่งขัน สิ่งที่ “ดิว” ให้ความสำคัญและสนใจคือเรื่องของความซื่อสัตย์และจริงใจกับคนไข้ รวมถึงฝีมือแพทย์ที่จะส่งผลกระทบต่อคนไข้โดยตรง
“บ้านเรามีผู้เชี่ยวชาญที่ปรากฎในตลาดตอนนี้มีหลายพันคนมาก ทั้งที่ในความเป็นจริง ศัลยแพทย์ตกแต่ง มีอยู่แค่สามร้อยกว่าคนเท่านั้น ศัลยแพทย์ตกแต่งต้องมีความรู้ในการฝึกอบรม 5 ปี ใช้เวลาเรียนนานกว่าสาขาอื่นๆ เพราะแพทย์จำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐาน เพื่อให้มีความรู้นำไปใช้ในการผ่าตัด เสริมสร้าง เสริมสวย รวมถึงต้องรู้ด้วยว่าโอกาสที่จะเกิดปัญหาแทรกซ้อนมีมากหรือน้อยแค่ไหน เพื่อจะได้แก้ปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ส่วนที่ว่ามีนวัตกรรมชื่อแปลกๆ อันนี้นี่เป็นจุดขายแข่งกัน บางทีเย็บแผลแบบเดียวกัน แต่ใช้ชื่อต่างกัน ซึ่งเป็นการโฆษณามากกว่า เพราะในทางวิทยาศาสตร์นั้นไม่ต่างกัน
แพทย์ทั่วไปกับแพทย์ที่จบหลักสูตรเฉพาะทางด้านการศัลยกรรมมีความแตกต่างกัน ในแง่ของความรู้พื้นฐานด้านการศัลยกรรม และรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ความรู้พื้นฐานมันต่างกันเยอะ อย่างเช่นการรักษาการหายของเนื้อเยื่อ การใส่อะไรให้คนไข้แล้วมีปฏิกิริยาอะไรบ้าง แพทย์บางคนก็ไม่รู้ เขารู้แต่ว่ายาตัวนี้ช่วยได้ รู้วิธีการฉีด แต่ไม่รู้จักคนไข้ ไม่รู้จักคุณสมบัตินี่อันตรายกับคนไข้มาก”
ทุกสถานเสริมความงามตั้งแต่ “ธีรพรคลินิก” ของคุณหมอชลธิศ สินรัชตานันท์ ,ศูนย์นวัตกรรมความงามกรุงเทพ AIC หรือ AIC Clinic ของคุณหมอบอย - นพ.พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ ที่เขาเข้าไปทำการตลาดให้ ล้วนเป็นคุณหมอมืออาชีพชื่อดังของไทยเน้นความปลอดภัย สำหรับคนไข้เป็นอันดับแรก
“แพทย์ทุกท่านที่ดิวทำงานด้วย ไม่มีแพทย์คนไหนหยุดนิ่งเลย (หัวเราะ) ทุกท่านคิดค้นขนาดดังแล้ว คนไข้ล้นจนแทบไม่มีเวลาว่างแล้ว แต่ก็ยังศึกษาและเรียนรู้เทคนิคการผ่าตัด การหาวิธีใหม่ๆมารักษาคนไข้หลากหลายมิติ ทั้งการเกิดแผลที่มีขนาดเล็ก ทำให้รู้สึกเจ็บน้อย แผลหายเร็ว แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติกลมกลืนกับใบหน้าและรูปร่าง จนดิวตามแทบไม่ทัน เหตุผลที่ดิวต้องพยายามศึกษาเทคนิคใหม่ของคุณหมอทุกท่านที่ดิวดูแล เพราะต้องตอบลูกค้าให้ได้ว่าเพราะอะไรเราจึงเลือกที่จะทำแบบนี้ เมื่อทำแล้วผลตอบรับจะเป็นอย่างให้คนไข้มั่นใจและตัดสินใจง่ายขึ้น“
นอกจากนี้สิ่งที่ “ดิว” พยายามสื่อสารกับตลาดมาโดยตลอด คือ เรื่องความซื่อสัตย์และจริงใจกับลูกค้า “ของถูกและดีหาแทบไม่มีในตลาด อันนี้เป็นสิ่งที่พวกเราต้องยอมรับ ทุกแบรนด์ภายใต้การดูแลของดิว อาจมีค่าใช้จ่ายสูงนั่นเพราะคุณภาพ นอกจากฝีมือคุณหมอทุกท่านที่อยู่ในสถานะอาจารย์หมอที่คนในวงการยอมรับแล้ว ตัวยาที่ใช้กับคนไข้ต้องดีมีคุณภาพผ่านการพิสูจน์แล้ว ทุกขวดคนไข้สามารถตรวจสอบได้หมดจากฉลากและมีเลขทะเบียนกำกับที่กล่องยา ก่อนเริ่มทำการฉีดคลินิกต้องนำกล่องและขวดมาแกะต่อหน้าลูกค้า เหล่านี้อาจจะดูยุ่งยากแต่ขั้นตอนนี้ดิวถือว่าสำคัญและจำเป็นต้องทำ เพื่อรักษาสิทธิ์
ดิว ยังยกตัวอย่าง Botox ว่า ก่อนฉีดควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นของแท้ ไม่ใช่ของปลอม การสังเกตขวดและฉลากโดยทั่วไปว่าเป็นของแท้ การตรวจดูว่าแท้หรือปลอมของทุก ๆ ยี่ห้อ มาตรฐานการตรวจก็คือ สีของฉลากต้องไม่ผิดเพี้ยนจากที่เราเห็นมา หรือได้ค้นข้อมูลมา ขวดมีขนาดได้มาตรฐาน วันหมดอายุตรงข้างกล่องกับที่ขวดต้องเหมือนกัน และที่สำคัญคือ เลขล็อตที่ขวดและที่กล่องต้องตรงกันเลขล็อตนี้สามารถตรวจสอบกับทางบริษัทที่นำเข้าหรือจัดส่งได้ ส่วนใหญ่จะมีเบอร์ติดต่อไว้ให้ด้วย ซึ่งสามารถโทรไปสอบถามเพื่อความมั่นใจก่อนเริ่มทำการฉีดโบท็อกซ์ได้
เพราะหากฉีด Botox ปลอม สิ่งที่ตามมาในระยะยาวก็คือ ใบหน้า นอกจากจะหมดสวยเ นื่องจากคุณภาพของ Botox ที่ไม่ได้มาตรฐานแล้ว ยังอาจทำให้ใบหน้าเบี้ยวกล้ามเนื้อผิดรูป การแก้ไขหรือรักษาให้หายก็ทำได้ยากอีกด้วย
ด้วยความชัดเจนในตัวเอง บวกความตรงไปตรงมาต่อหน้าที่ ไม่เพียงแค่คลีนิคเสริมความงามชื่อดังอันดับหนึ่งของเมืองไทยที่ยอมรับและวางใจให้หนุ่มคนนี้ดูแลการทำตลาดให้เท่านั้น ในวันนี้ “ดิว” ยังได้รับการทาบทามให้ไปเป็นวิทยากร ได้รับเชิญให้ไปเป็นวิทยากรพิเศษแชร์ประสบการณ์ในข้อเรื่อง Marketing Public Relations ให้กับนักศึกษาคณะนิเทศสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม อีกด้วย
“งานปกติที่ทำทุกวันนี้ก็ค่อนข้างมากอยู่แล้ว แต่พอไดรับการติดต่อมา ดิวก็ดีใจนะ เพราะเป็นอีกทางที่เราสามารถทำประโยชน์ให้สังคมได้ เรื่องที่บรรยายเป็นเรื่องที่ดิวที่เกี่ยวข้องการทำงาน เรามีประสบการณ์อย่างไรก็ถ่ายทอดให้น้องๆหมด”
แม้ความจริงใจที่ตั้งใจของ “ดิว” จะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ก็มีบ่อยครั้งที่ต้องเจอกระแสต่อต้าน “เจอกับอะไรที่ยากๆ หน้าที่ของดิวก็คืออย่าหยุด ทำตัวเหมือนปลาว่ายทวนน้ำตลอดเวลา เจอปัญหาอะไรก็ต้องว่าย และต้องไม่ว่ายตามน้ำ เพราะมีแค่ปลาตายที่ว่ายตามน้ำ เราไม่จำเป็นที่ต้องสร้างอะไรให้โดดเด่นมากมาย ขอแค่ให้ว่ายต่อไป อย่าตายก็พอ” ดิวกล่าวทิ้งท้าย