xs
xsm
sm
md
lg

ก้าวแรกไม่เป็นไร ก้าวต่อไปไฟเริ่มไหม้สบง! ไขปริศนา "หลวงปู่เค็ม" ที่ชาวเน็ตพูดถึง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


"หลวงปู่เค็ม" มุกตลกคลาสสิกที่ชาวเน็ตกำลังพูดถึงในขณะนี้ ไม่มีตัวตนจริง แต่นำมาผูกเรื่องเหมือนจะเป็นอภินิหารเพื่อความบันเทิง พบหนึ่งในต้นตำรับมาจาก "หนู คลองเตย"

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา กระแสชาวเน็ตพูดถึง "หลวงปู่เค็ม" เป็นจำนวนมาก ทั้งที่เมื่อสืบค้นแล้วไม่พบว่ามีอยู่จริง แต่เป็นมุกตลกที่ "โก๊ะตี๋ อารามบอย" หรือ เจริญพร อ่อนละม้าย ศิลปินตลกนำมาแสดงในรายการ "ชิงร้อยชิงล้าน ว้าว ว้าว ว้าว" แล้วถูกตัดวีดีโอคลิปนำมาเผยแพร่ในโลกโซเชียล และเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง

เรื่องราวของหลวงปู่เค็ม โก๊ะตี๋อธิบายว่า "พุทธคุณตอนที่ยังไม่มรณภาพ หลวงปู่เค็มต้องการแสดงอภินิหารต่อหน้าศิษยาณุศิษย์ประมาณ 3 หมื่นกว่าคน โดยการลุยไฟถ่านแดงๆ ยาวประมาณ 8 เมตร หลวงปู่เค็มยกมือขึ้นมา พุทธังอารธนานัง ธัมมังอารธนานัง สังฆังอารธนานัง กองไฟยาวประมาณ 12 เมตร และ 15 เมตร

หลวงปู่เค็มก้าวลงกองไฟ ก้าวแรกไม่เป็นไร ก้าวต่อไปไฟเริ่มไหม้สบง หลังจากนั้นหลวงปู่เค็มหงิกอยู่อย่างนี้ ใครก็ว่าตาย แต่ก็ตายสิ เหลือแต่กระดูกเชิงกรานเท่านั้นที่ยังไม่ไหม้

หลานชายไปนำเที่ยวกับเพื่อน พระองค์นี้สร้างจากกระดูกหลวงปู่เค็ม ไปทางเรือ ไปกว่า 50 คน เรือล่ม ตายหมด ส่วนหลานจมคนแรก

เจ๊ศรี ขายส้มอยู่ข้างหอนาฬิกาจังหวัดราชบุรี เป็นริดสีดวงทวารหนัก หนักประมาณ 4 กิโลกรัม ไปไหนมาไหนเดินอย่างนี้ ลุกก็โอย ปวดก็โอย นั่งก็โอย มาหาผม ผมใช้ช้อนขูดหลวงปู่เค็ม ขุยกระดูกของหลวงปู่เค็ม ผมบอกว่าเอาไปใส่น้ำเปล่านะ เช้า กลางวัน เย็น แล้วก็ตั้งนโม 3 จบ พุทธังอารธนานัง ธัมมังอารธนานัง สังฆังอารธนานัง

พอท่องเสร็จให้ดื่มน้ำ เช้า กลางวัน เย็น สามเดือนนี้ไปดูเจ๊ศรี ตาย ประทานโทษ มึง...น้ำเปล่า 3 เดือน มึงอยู่ยังไง ไม่ตายยังไง ข้าวปลามันไม่กิน มันโง่ไงเจ๊ศรี"





อย่างไรก็ตาม มีการออกมาตั้งข้อสังเกตว่า ชื่อของ "หลวงปู่เค็ม" พร้อมกับคำว่า "วัดเขาอีโต้ขว้างเป็ด" น่าจะเป็นการดัดแปลงจากหลวงปู่เคน วัดถ้ำเขาอีโต้ ตำบลบ้านพระ อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นอดีตเกจิอาจารย์แห่งภาคตะวันออกที่มีชื่อเสียง มีเครื่องรางของขลังเป็นที่รู้จัก แต่ได้นำมาดัดแปลงเพื่อความบันเทิง และไม่ให้ศิษยาณุศิษย์เกิดความขุ่นข้องหมองใจ



ที่ผ่านมา มุกหลวงปู่เค็มถูกนำไปใช้ในหลายรายการ แล้วกลายเป็นมุกตลกที่ชาวเน็ตพูดถึง ในยุคที่รายการทีวีเข้าไปอยู่ในโลกโซเชียล โดยเฉพาะยูทูป พอร์ทัลวีดีโอชื่อดัง รวมทั้งยังนำไปดัดแปลงผลงานหลากหลาย





อย่างไรก็ตาม หากจะกล่าวถึงต้นตำรับของมุกหลวงปู่เค็มจริงๆ คงต้องย้อนไปยังต้นตำรับอย่าง หนู คลองเตย หรือ วันชาติ พึ่งฉ่ำ ศิลปินตลกเจ้าของเอกลักษณ์การเดินแบบนกกระยาง ที่ล่วงลับไปเมื่อ 14 ปีก่อน ก็เคยเล่นมุกตลกหลวงปู่เค็ม ในบันทึกการแสดงสดของบริษัท ไร้ท์ พิคเจอร์ส ระบุว่า

"ประทานโทษครับ เมื่อก่อนผมไม่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์ วันนี้ผมเชื่อแล้ว ผมเป็นศิษยานุของศิษย์หลวงปู่เค็มรุ่นที่ 99 ผมเคยเห็นไสยศาสตร์มาด้วยสายตาผมเอง หลวงปู่เค็มเคยนั่งขัดสมาธิ ร่ายเวทมนตร์คาถา พุทธังอารธนานัง ธัมมังอารธนานัง สังฆังอารธนานัง กองไฟยาวประมาณ 10 เมตร หลวงปู่เค็มก้าวไปในกองไฟ ก้าวแรกไม่เป็นไร ก้าวต่อไปไฟเริ่มไหม้สบงหลวงปู่เค็ม ต่อจากนั้นหลวงปู่เค็มถูกไฟคลอกตายคากองไฟ"



เรื่องราวของหลวงปู่เค็ม มองผิวเผินแม้จะเป็นมุกตลกเพื่อความบันเทิง แต่ก็แสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าช่องทางเผยแพร่ผลงานจะอยู่ในแพลตฟอร์มใด แต่เนื้อหาคือหัวใจหลัก อย่างที่มีคนเคยกล่าวเอาไว้ว่า "Content is King"
กำลังโหลดความคิดเห็น