สรุปข่าวประจำวันที่ 28 ก.ค. - 11 ส.ค. 2562
หมายเหตุ : เนื่องจากเหตุขัดข้องบางประการ "TOP 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน" จำเป็นต้องงดตีพิมพ์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงขออภัยเป็นอย่างสูง
อันดับ 1 : คลี่ปมระเบิดป่วนกรุง! ชี้ทำเป็นขบวนการ จากใต้ขึ้นมาเมืองกรุงฯ-มีไม่น้อยกว่า 15 คน
ในช่วงวันที่ 1-2 ส.ค. ที่ผ่านมา เกิดเหตุระเบิดป่วนกรุงหลายจุด เริ่มตั้งแต่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันต่อมาร้านขายเสื้อผ้าย่านประตูน้ำ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และหน้าสำนักปลัดกระทรวงกลาโหม มีผู้บาดเจ็บ 4 คน ซึ่งระเบิดที่ใช้เป็นระเบิดแสวงเครื่อง แบบตั้งเวลา เบื้องต้นตำรวจจับกุมผู้ต้องหา 2 คนได้ที่ จ.ชุมพร ขณะนั่งรถทัวร์มุ่งหน้า จ.สงขลา คือ นายลูไอ แซแง อายุ 23 ปี และนายวิลดัน มาหะ อายุ 29 ปี ต่อมาจับกุมผู้ต้องสงสัยได้รวม 9 คน และตรวจค้นอพาร์ตเมนต์ในซอยรามคำแหง 53 เขตวังทองหลาง กทม. ที่กลุ่มมือระเบิดป่วนกรุงใช้เป็นที่พักก่อนก่อเหตุ
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และคณะแถลงข่าวเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ระบุว่า แม้สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 2 คน ภายในระยะเวลา 10 ชั่วโมงก็ตาม แต่ทุกอย่างต้องรอบคอบรัดกุมที่สุด ที่ไม่อยากให้ข่าว เพราะจะทำให้ทำงานยากขึ้น ขณะที่ พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ระบุว่า คนร้ายมีลักษณะเป็นขบวนการ มีไม่น้อยกว่า 15 คน ไม่รวมผู้สนับสนุน หรือผู้วางแผนสั่งการ แบ่งสายบังคับบัญชาเป็น 4 กลุ่ม โดยที่ผู้ลงมือปฏิบัติไม่รู้ถึงแนวคิดที่แท้จริงของบุคคลที่เป็นมาสเตอร์มายด์ ที่ผ่านมาได้เชิญตัวบุคคลมาสอบกว่า 100 คนแล้ว
อันดับ 2 : หมดกันพระนักบุญ! "พระจูเลียน" ภิกษุต่างชาติลาสิกขา ถูกแฉ "เสพเมถุน" เพิ่มพลังวิเศษ
พระฝรั่งเจ้าของฉายา “พระนักบุญแห่งขุนเขา” ถูกแฉเรื่องเสพเมถุนกับสีกาจนต้องลาสิกขาครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ก.ค. นายสัตวแพทย์สมชาย ศิริเทพทรงกลด โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว แฉพระภิกษุชาวต่างชาติรูปหนึ่งเที่ยวฮันนีมูนกับหญิงชาวสวิตเซอร์แลนด์กับกลุ่มวีแกน ระหว่างที่ครองตนอยู่ในเพศบรรพชิต (ยังไม่สึกจากความเป็นพระ) แต่ไม่สำนึก ยังคงเสพเมถุนกับผู้หญิงชาวไทย แล้วทอดทิ้งเพราะอยากได้สาวคนอื่นที่รวยกว่าเดิม นอกจากนี้ ยังมีหญิงไทยได้เสียตัวให้พระจูเลียน เพราะเชื่อว่าจะได้รับพลังวิเศษที่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
พระรูปดังกล่าวทราบชื่อคือ พระจูเลียน อาภาธโร หรือดีซิเลต ชาวแคนาดา อาศัยอยู่ที่สำนักสงฆ์หมู่บ้านปูทา หมู่ 1 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ทำเอานายสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ ผู้ผลิตรายการคนค้นคน ที่เคยไปสัมภาษณ์เรียกร้องให้สังคมช่วยกันตรวจสอบ ต่อมาพระสุมณฑ์ศาสนกิตติ์ เจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า พระจูเลียนยอมรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและยอมที่จะลาสิกขา กระทั่งวันที่ 11 ส.ค. พระจูเลียนได้ทำการลาสิกขาแล้ว ยอมรับว่าทำผิดพระธรรมวินัยจริง และเสียใจจากการกระทำดังกล่าว แต่จะขออุทิศตัวช่วยเหลือผู้ยากไร้ในถิ่นทุรกันดารต่อไป
อันดับ 3 : ปิดฉากคดี "แพรวา 9 ศพ" ครอบครัวยืมเงินญาติ ชดใช้ทุกบาททุกสตางค์ 42 ล้าน
คดีที่ น.ส.รวินภิรมย์ อรุณวงศ์ หรือ น.ส.แพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ถูกสังคมประณามเนื่องจากยังไม่เยียวยาผู้เสียชีวิต จากกรณีที่ขับรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค ชนรถตู้โดยสารสาธารณะ มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ บนทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ เขตบางเขน กทม. เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2553 แม้ศาลฎีกาพิพากษาให้ชดใช้ค่าเยียวยาพร้อมดอกเบี้ย 42.63 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 ส.ค. นายกรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรชื่อดัง ได้รับมอบหมายจากครอบครัวแพรวา นำเช็คเงินสด 41.75 ล้านบาท มอบให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง เยียวยาญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ แต่ยังขาดอีก 8 แสนบาท
กระทั่งวันที่ 7 ส.ค. นายกรรชัยนำเช็คมาชำระเพิ่มอีก 8 แสนบาท เพื่อให้ครบถ้วนตามจำนวน พร้อมระบุว่า ครอบครัวแพรวาอยู่กับความเสียใจตลอดมา บิดาของแพรวาก็บวชอุทิศส่วนกุศลโดยไม่ได้บอกใคร สำหรับเงินที่นำมามอบให้มาจากการยืมญาติพี่น้อง ก่อนหน้านี้ได้รับโฉนดจากครอบครัวของแพรวา เพื่อเป็นตัวกลางในการขายที่ดิน แต่ติดขัดเรื่อยมา นับจากนี้ได้โอนเงินให๋ญาติผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บแล้ว ด้านครอบครัวผู้เสียชีวิตต่างดีใจที่คดีจบลงด้วยดี แม้เงินเยียวยาจะทดแทนไม่ได้กับความสูญเสียก็ตาม ปิดฉากคดีที่สังคมรอคอยความยุติธรรมมานานถึง 9 ปี
อันดับ 4 : แค่เลขเด็ดยังไม่พอ กองสลากฯ เคาะ "หวยนักษัตร" จับภาพถูกคว้าเงินแสน
แม้หวยบนดินและหวยออนไลน์ยังเงียบ แต่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ยังผุดไอเดียที่ทำเอาคอหวยตาลุกวาวกับการเสี่ยงโชคแบบใหม่ เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ที่ประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล มีมติเลือกสลากรูปแบบใหม่ "สลากภาพ 12 นักษัตร" ขึ้นมาพิจารณา รูปแบบจะให้ผู้ซื้อสลากเลือกภาพนักษัตร 1 ภาพ จากทั้งหมด 12 ภาพ จนครบทั้งหมด 4 หลัก เลือกภาพซ้ำกันได้ ขายในราคาหน่วยละ 50 บาท มีสิทธิ์ถูกรางวัล 2 ประเภท คือ 4 ภาพตรง กับ 4 ภาพสลับหลัก ใครได้ภาพตรงซ้ำกัน 4 ภาพเพียงรายเดียว รับรางวัลสูงสุด 6 แสนบาท
ไอเดียสลากภาพ 12 นักษัตร กลายเป็นที่วิจารณ์ว่ามอมเมาประชาชน ไม่ช่วยแก้ปัญหาสลากเกินราคาและหวยใต้ดิน ซึ่งนายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะประธานบอร์ดกองสลากฯ ยอมรับว่าต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะการจ่ายเงินรางวัลทำได้ไม่เกิน 60% ของยอดขาย ถึงกระนั้นยังเป็นเพียงแนวคิด และเดินหน้าศึกษาต่อไป บอกไม่ได้ว่าจะออกปีนี้หรือปีหน้า อีกทั้งยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับรัฐบาลถังแตก เพราะแม้กองสลากฯ จะเป็นรัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้แผ่นดินเป็นอันดับ 1 แต่ยังน้อยมากเมื่อเทียบกับงบประมาณประจำปีของรัฐบาล 3 ล้านล้านบาท
อันดับ 5 : หยุดแชร์...รวยแล้ว! "ธีร์-ภูมิธนะวัชร์" ป่วยหนักได้เงินบริจาค 8 ล้าน แต่กลับโอนให้แฟนหนุ่ม
จากความสงสารนำมาซึ่งน้ำใจคนไทย กลายเป็นการใช้เงินบริจาคผิดวัตถุประสงค์ เฉกเช่นอดีตนักแสดงหนุ่ม “ธีร์-ภูมิธนะวัชร์ บุญลือประดิษฐ์” ที่ป่วยหนักด้วยวัณโรคทับตับและต่อมน้ำเหลือง ร่างกายซูบผอมเหลือแต่กระดูก นอนติดเตียงมา 4-5 เดือน ทำเอาคนบันเทิงอย่าง “ชายแฮ็คส์” และ “เอมมี่ เม็กซิม” โพสต์เรื่องราวจนผู้คนสงสารหลั่งไหลบริจาคจำนวนมาก ปรากฎว่าธีร์ย้ายออกจากบ้านเอื้ออาทร ไปอยู่บ้านหรู อ้างว่าเช่าเดือนละ 2,000 บาท แถมมีคนออกมาแฉถึงความผิดปกติทั้งทรัพย์สิน มีรถยนต์จอดอยู่ในบ้าน แถมไม่ยอมเปิดเผยเงินบริจาคที่แท้จริง
วันที่ 30 ก.ค. ธีร์ยอมรับว่าได้เงินบริจาค 8 ล้านบาท แต่ใช้ไปแล้ว 5 แสนบาทเพื่อจ่ายหนี้สิน ตอนนี้เหลือ 7.5 ล้านบาท ส่วนบ้านเป็นเงินของแฟนซื้อเอง ไม่เกี่ยวกับเงินบริจาค ที่ปกปิดความจริง โอนเงินให้แฟนหนุ่ม 6.4 ล้านบาท เพราะกลัวว่าจะถูกอายัดเงิน ยอมรับว่าที่ผ่านมาได้รับการรักษาฟรี หลังจากนี้จะไม่ร้องไห้ขอเงินแล้ว ขณะที่เอ็มมี่ แม็กซิม ยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นได้รับผลกระทบ เพราะถูกตำหนิว่าสร้างภาพ สมรู้ร่วมคิด ยืนยันว่าไม่มีส่วนร่วมในเงินบริจาคแม้แต่บาทเดียว ที่โพสต์เพราะต้องการช่วยด้วยความบริสุทธิ์ใจ
อันดับ 6 : พะโล้รีไซเคิล! ผอ.โรงเรียนฉาวสั่งล้างไข่บูดแล้วปรุงใหม่ ทำนักเรียนท้องเสียระนาว
เรื่องราวไม่ชอบมาพากลของโครงการอาหารกลางวันนักเรียนยังคงมีให้เห็น เฉกเช่นเมื่อวันที่ 4 ส.ค.มีการโพสต์ในโลกโซเชียลระบุว่า โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี นำไข่พะโล้ที่บูดแล้วมาล้างน้ำ แล้วนำไปต้มให้นักเรียนรับประทานอีกครั้ง ทำให้นักเรียนพากันท้องเสีย จากการสอบถามแม่ครัวโรงเรียนบ้านคลองสิบสอง ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ได้ต้มไข่พะโล้ตอนเย็น แต่เช้าวันรุ่งขึ้นพบว่าหม้อต้มมีฟองขึ้นและกลิ่นไม่ดี เมื่อรายงานให้ผู้อำนวยการโรงเรียน กลับสั่งให้นำไข่พะโล้บูดไปล้างน้ำแล้วกลับมาต้มใหม่ ทำนักเรียนท้องเสียหลายราย
หลังเกิดเหตุผู้บริหารของโรงเรียนข่มขู่แม่ครัวและนักเรียน ห้ามให้ข่าวเกี่ยวกับไข่พะโล้บูดอย่างเด็ดขาด แต่วันรุ่งขึ้นมีผู้ปกครองและนักเรียนนับร้อยคนประท้วงเรียกร้องให้ย้ายนายพงศธร อร่ามวิทยานุกูล ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านคลองสิบสอง ออกนอกพื้นที่ ขณะที่นายพงศธร ผู้อำนวยการโรงเรียนอ้างว่าถูกใส่ร้าย ก่อนหน้านี้เป็นวันหยุดชดเชย แม่ครัวไม่มีสิทธิเข้ามาทำอาหารเพราะไม่ได้สั่ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ย้ายนายพงศธร ไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต 2 พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง
อันดับ 7 : ประเทศที่คนดีๆ มี BNK เป็นไอดอล! พัก "มัยร่า BNK48" 2 เดือน ถูกแฉเที่ยวกับ "อะตอม ประเทศกูมี"
การคบหากับเพศตรงข้ามถือเป็นเรื่องต้องห้ามในวงการไอดอล เฉกเช่นวงดัง BNK48 คราวที่แล้ว "เมษา" มีข่าวภาพหลุด สุดท้ายต้องออกจากวง คราวนี้ถึงคิว "มัยร่า-มะอิระ คูยะมะ" ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น สมาชิกรุ่นที่ 2 ของวงถูกต้นสังกัดประกาศพักงาน 2 เดือน หลังพบว่าไปสถานที่แห่งหนึ่งกับบุคคลภายนอก เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังภาพของมัยร่าที่ถ่ายหน้าพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ คลองห้า จ.ปทุมธานี ตรงกับภาพของ "อะตอม-ศตายุ โปลิตานนท์" หรือ "Dif Kids" แรปเปอร์หนุ่มที่ร้องเพลง "ประเทศกูมี" วิจารณ์อำนาจรัฐ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม แม้มัยร่าจะถูกห้ามใช้โซเชียลมีเดีย แต่สำหรับอะตอม โพสต์เฟซบุ๊กเพจของเขา อ้างว่าตนกับมัยร่าเป็นเพื่อนพี่น้องกัน ไปไหนต่อไหนก็อยู่ในขอบเขต ไม่มีเรื่องอื่น ปัจจุบันมัยร่ามีงาน มีแฟนคลับ ซึ่งตนเข้าใจดี และคุยปรึกษากันในแบบพี่น้องเท่านั้น ไปแค่พิพิธภัณฑ์ที่มีคนอื่นด้วยแค่นั้น ถ้ามีเพื่อนแล้วผิด ก็ขออภัยทั้งแฟนเพลงของมัยร่าและแฟนเพลงของตน ด้านชาวเน็ตวิจารณ์ว่า อะตอมกำลังทำให้มัยร่าหมดอนาคต เพราะมัยร่าต้องทำตามกฎของวง ในเมื่อทำเพลงวิจารณ์คนอื่นได้ ถึงคราวตัวเองก็ควรรับผิดชอบเช่นกัน