ผู้ว่าฯ กทม.แจงเหตุบึ้ม เผยออกหนังสือสั่งเจ้าหน้าที่ กทม.พร้อม ยันไม่มีประกาศพื้นที่ควบคุมพิเศษ เช็ก 50 เขตยังไม่พบสิ่งผิดปกติ บอกแว่บไปดูที่เกิดเหตุมาไม่ได้ประชุมกับใคร ระบุ "ประวิตร-อนุพงษ์" สั่งช่วยสอดส่อง เฝ้าระวัง เห็นพ้องสร้างสถานการณ์ ลั่นไม่มีกล้องดัมมี่แล้ว เชื่อน่าจะหมดแล้ว แต่ยังไม่ประมาท พร้อมหาสวัสดิการช่วย จนท.บาดเจ็บ คาดป่านนี้เห็นมือบึ้มหมดแล้ว เดี๋ยวก็จับได้
วันนี้ (2 ส.ค.) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เมื่อเวลา 14.40 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการติดตามสถานการณ์ แถลงสรุปสถานการณ์ล่าสุดหลังมีเหตุลอบวัตถุต้องสงสัยวางระเบิดในหลายพื้นที่ว่า พบเหตุรวมทั้งหมด 3 จุดใหญ่ ประกอบด้วยบริเวณศูนย์ราชการ เขตหลักสี่ จุดที่ 1 เวลาประมาณ 07.05 น. พบเหตุระเบิดบริเวณสวนหย่อม หน้าศูนย์ราชการ อาคารบี ใกล้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ตรวจสอบเบื้องต้นพบเป็นระเบิดแสวงเครื่องซุกซ่อนในกระถางดอกไม้ มีเศษซากต้นไม้กระจัดกระจาย ไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จุดที่ 2 เวลาประมาณ 08.00 น.พบเหตุระเบิดบริเวณด้านข้างศูนย์ราชการอาคารบี ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต จุดที่ 3 เวลาประมาณ 09.00 น. พบเหตุบริเวณกระถางต้นไม้ หน้ากองบัญชาการกองทัพไทย ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต จุดที่ 4 เวลาประมาณ 11.00 น.พบวัตถุคล้ายระเบิดที่ยังไม่ทำงานอีกจำนวนหนึ่งบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุที่ 2 และ 3 และจุดที่ 5 เวลาประมาณ 11.20 น.พบวัตถุต้องสงสัยด้านหน้าศาลปกครอง
ส่วนจุดที่ 2 ย่านพระราม 9 เวลาประมาณ 07.00 น. เกิดเหตุระเบิดใน ซ.พระรามเก้า 57/1 มีผู้บาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่ กทม. 2 ราย และจุดที่ 3 บริเวณหน้าตึกมหานคร เวลา 09.17 น.เกิดเสียงดังคล้ายระเบิดหน้าอาคารมหานคร ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสช่องนนทรี เขตบางรัก พบเศษดินกระเด็นเกลื่อนฟุตบาท และล่าสุดที่กู้ไปแล้วที่ใต้ทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสศาลาแดง ที่พบเป็นเพียงกล่องเปล่า ไม่ใช่ระเบิดแต่อย่างใด ซึ่งพบเวลาเหตุการณ์ที่ช่องนนทรีได้มีพนักงานรักษาความปลอดภัยของบีทีเอสได้รับบาดเจ็บด้วย 1 ราย
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวต่อว่า เมื่อเช้านี้ (2 ส.ค.) ตนได้ออกหนังสือคำสั่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของ กทม.แล้ว ทั้งนี้ยืนยันว่ายังไม่มีการประกาศพื้นที่ควบคุมพิเศษ ซึ่งเป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคงมากกว่า เราก็เพียงแต่เตรียมความพร้อมช่วยเฝ้าระวังในการสังเกตุสิ่งต้องสงสัย แต่จากการลงพื้นที่ตรวจสอบทั่วๆ ไปทุก 50 เขตก็ยังไม่พบสิ่งผิดปกติอะไร แต่ในส่วนของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ก็จะดำเนินการอีกทาง ถ้ามีอะไรก็จะรายงานเข้ามา ฝ่ายสืบสวนของตำรวจนอกเครื่องแบบเขาก็ดำเนินการอยู่ แต่เราก็จะแลกเปลี่ยนข้อมูลกันตลอด ถ้าเรามีอะไรต้องสงสัยก็จะแจ้งเขา ให้เขาแจ้งเจ้าหน้าที่ อีโอดี เพราะเราไม่สามารถจะดำเนินการได้เองเพราะเราไม่ใช้ผู้ชำนาญการ ทั้งนี้เมื่อช่วงบ่ายตนได้ออกจากที่ประชุมเพื่อไปดูที่เกิดเหตุ ไม่ได้ไปประชุมกับใคร ขณะที่ทางพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็ได้กำชับสั่งการให้ กทม.ช่วยกันสอดส่องดูแล ไม่ตกอยู่ในความประมาท เพราะไม่แน่ใจว่าเหตุมันหมดหรือยัง จบหรือยัง จะเกิดอีกหรือไม่ เราก็เฝ้าระวังตลอด
เมื่อถามว่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์หรือไม่ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ก็น่าจะเป็นอย่างที่ พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ เพราะวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบมีทั้งแสวงเครื่อง ระเบิดธรรมดา ไปจนระเบิดปิงปอง ถ้าเบากว่านั้นก็คือหลอกกันทำเหมือนว่าจะเป็นระเบิด อย่างเช่นที่ใต้สถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง ก็ต้องฝากด้วยว่าใครเดินทางไปไหนถืออะไรอย่าไปเผลอลืมทิ้งไว้ มันจะทำให้เขาตื่นตระหนกตกใจ
เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับทางบีทีเอสแล้วหรือไม่ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ได้ประสานไปทางผู้บริหารของบีทีเอสแล้ว ให้สั่งพนักงานรักษาความปลอดภัยทุกสถานีให้ช่วยกันสอดส่องดูแล รวมทั้งแจ้งไปยังสถานีรถไฟฟ้าอื่นด้วย ส่วนกล้องวงจรปิดของบีทีเอสนั้น ก็ได้มีการตรวจสอบอยู่ ซึ่งป่านนี้ตนว่าเขาเห็นบุคคลต้องสงสัยแล้ว ทาง กทม.ก็ช่วยฝ่ายความมั่นคงหาจุดที่เชื่อมโยงกัน อย่างเช่นเมื่อวานก็ช่วยตรวจสอบจนพบผู้ต้องสงสัย 2 คนไปขึ้นรถสายกรุงเทพ-หาดใหญ่ โดยกล้องวงจรปิดสามารถตรวจสอบได้ทุกจุด ไม่มีกล้องดัมมี่แล้ว
เมื่อถามถึงแผนการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ก็ กทม.ก็ทำได้ขนาดนี้ล่ะ
"ผมก็เชื่อว่ามันน่าจะจบแล้วนะ น่าจะหมดแล้วเนอะ แต่ว่าด้วยความไม่ประมาทก็มีคนถามว่าศูนย์ติดตามสถานการณ์จะใช้กี่วัน ตรงนี้เรายังตอบไม่ได้ แต่เริ่มตั้งแต่เที่ยงวันนี้ แล้วก็หมุนเวียนไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะคิดว่ามันเรียบร้อยดี เราไม่อยากประมาท เพราะว่าถึงจะเรียบร้อยดีอย่างไร ศูนย์ฯ ก็จะยังอยู่เพราะว่ามันไม่ได้ไล่แค่ตรงนี้ เดี๋ยวจะไปดูคนอื่นอีก จุดอื่นว่าหน้าตา รูปพรรณสัณฐานอย่างไร เราจะดูทุกจุด เดี๋ยวก็เจอ เจอจนหมด นอกจากกล้องวงจรปิดของ กทม.แล้วยังมีกล้องของเอกชนเขาก็ให้ความร่วมมือ" พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว
เมื่อถามถึงการเยียวยาเจ้าหน้าที่ กทม.ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ตนได้คุยกันในที่ประชุมว่ามีสวัสดิการอะไรที่จะช่วยเหลือบ้าง ส่วนเป็นระเบิดชนิดใดให้ทางด้านอีโอดีเป็นผู้แถลง ตนพูดไปเดี๋ยวก็ไม่ชัดเจน ได้แค่เดา
"จริงๆ เราไม่ทำก็ได้นะ เราไม่เกี่ยวข้อง แต่ผมว่าคงจะต้องร่วมกันรับผิดชอบ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้รับผิดชอบตรงนี้แต่ว่าเหตุเกิดใน กทม.ในฐานะผู้ว่าฯ กทม.เราก็ต้องช่วย" พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว
ทั้งนี้ผู้ว่าฯ กทม.ยืนยันว่า ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีการแจ้งมาให้เฝ้าระวังแต่อย่างใด แต่เชื่อว่าสถานการณ์ก็คงจะดีขึ้น ตนเชื่อว่าเดี๋ยวก็คงจับได้ทั้งหมด แต่สาเหตุนั้นเดี๋ยวทางฝ่ายความมั่นคงเขาคงจะแถลงเอง
ต่อมาพล.ต.อ.อัศวิน ได้พาสื่อมวลชนขึ้นไปชมการทำงานของกล้องวงจรปิดของกทม. ที่ถูกบันทึกไว้ใน ศูนย์ควบคุมระบบการจราจร กทม.
ขณะที่คำสั่งดังกล่าวได้ระบุให้ 1.ทุกหน่วยและส่วนราชการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการอย่างเข้มงวด จัดระบบสื่อสารให้สามารถติดต่อผู้บังคับบัญชา ผู้ใต้บังคับบัญชา และหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชม. 2.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้จัดเตรียมรถดับเพลิง รถไฟฟ้าส่องสว่าง เครื่องมือวัสดุอุปกรณ์ และเจ้าหน้าที่ให้พร้อมในการสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคงตามที่ร้องขอ 3.สำนักแพทย์และอนามัย เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เวชภัณฑ์ โรงพยาบาล รถพยาบาล รถศูนย์เอราวัณ รวมทั้งประสานงานเครือข่ายให้พร้อมปฏิบัติงาน
4.สำนักงานจราจรและขนส่ง ตรวจสอบกล้องวงจรปิดให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ในทันทีและบันทึกเหตุการณ์ได้ 24 ชม. 5.สำนักเทศกิจให้เตรียมความพร้อมจัดเจ้าหน้าที่เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของตำรวจในการอำนวยการดูแลความสะดวกด้านจราจรและความเดือดร้อนของประชาชน 6.สำนักสิ่งแวดล้อมจัดเตรียมรถน้ำ รถสุขาเคลื่อนที่ ให้พร้อมในการสนับสนุนผู้ที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของสำนักงานเขตก็ให้จัดเจ้าหน้าที่สังเกตุ ตรวจตราดูแลความปลอดภัย ของอาคาร สำนักงาน สถานที่ราชการ สถานที่สำคัญ เขตพระราชฐาน บ้านของบุคคลสำคัญในพื้นที่ ป้ายรถเมล์สาธารณะ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส และเอ็มอาร์ที และแหล่งชุมชนทุกแห่งกำชับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานทุกฝ่าย เช่น ฝ่ายโยธา , เทศกิจ , ฝ่ายรักษาความสะอาด , ฝ่ายสิ่งแวดล้อม ให้สังเกตหากพบสิ่งผิดกฏหมาย หรือบุคคลต้องสงสัยให้แจ้งตำรวจและรายงานผู้บังคับบัญชาทราบโดยทันที
ประสานอาสาสมัครภาคประชาชน ผู้ประกอบการ ห้องพัก หอพัก บ้านเช่า อพาร์ทเม้นท์ คอนโดมีเนียม เฝ้าระวัง ถ้าพบเห็นให้แจ้งสำนักงานเขตทราบโดยทันที ประสานภาคเอกชนและภาครัฐในสถานที่ที่มีมวลชนอยู่รวมกันหนาแน่น เช่น ศูนย์การค้า สถานีรถไฟฟ้า สถานีขนส่ง โรงพยาบาล และบริเวณที่มีการจัดกิจกรรมพิเศษ เช่น ถนนคนเดิน ตลาดนัด หรืองานเทศกาลสำคัญ ให้เพิ่มมาตรการความปลอดภัยเป็นกรณีพิเศษ รวมทั้งบูรณาการกล้องวงจรปิดให้กับภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ ประสานการปฏิบัติร่วมกับตำรวจ ทหารในพื้นที่ในกรณีมีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มกำลัง ให้ทุกหน่วยมีความพร้อมในการปฏิบัติงานได้ตลอด 24 ชม.หากเกิดเหตุความไม่สงบในพื้นที่ให้ผู้อำนวยการเขตรายงานสถานการณ์ จำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ และการปฏิบัติของสำนักงานเขตให้ผู้ว่าฯ กทม. ทราบโดยทันที