นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล สาขาจิตเวชศาสตร์ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ โพสต์แสดงความคิดเห็น “โรคซึมเศร้า” กับ “จิตสำนึก” แตกต่างกัน หลังพบผู้คนส่วนใหญ่ชอบอ้างเป็นโรคซึมเศร้าหลังก่อปัญหาต่อสังคม ชี้อย่างไรผู้ปกครองก็ควรแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่ผู้ใต้ปกครองได้กระทำไว้
จากกรณี “แม่แพรวา” นางลัดดาวัลย์ อรุณวงศ์ อ้างว่าลูกสาวตัวเองมีชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น อยู่แบบคนเป็นโรคซึมเศร้า หลังก่อเหตุขับรถยนต์ชนรถตู้โดยสารจนเป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย บาดเจ็บอีก 3 ราย เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2553
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 ก.ค. นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล จิตแพทย์ชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับการที่ผู้คนส่วนใหญ่เมื่อไปก่อเหตุร้ายแรงหรือรุนแรงขึ้น มักจะชอบอ้างว่าตนเองหรือผู้ก่อเหตุเป็นโรคซึมเศร้า ชี้โรคซึมเศร้าเป็นตัวการก่อเหตุ
อย่างไรก็ตาม นพ.กัมปนาทได้ระบุข้อความไว้ว่า “เห็นมีคนจำนวนมาก รวมถึงพวกคนดังในสังคมด้วย เวลาไปสร้างปัญหาอะไรมาก็จะจบลงที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ถามจริงๆ เถอะคุณรู้จักโรคซึมเศร้าดีขนาดไหน จะบอกให้นะครับผมมีคนไข้ที่ตรวจเป็นโรคซึมเศร้าเยอะแยะเต็มไปหมด แต่ละคนจะเป็นมากเป็นน้อยก็แล้วแต่ แต่ต้องให้เขารู้แล้วก็ตระหนักว่าโรคนี้มีลักษณะมีอาการอย่างไรที่เป็นอาการสำคัญ
ไม่ใช่วันนี้ฉันโกรธใคร แสดงพฤติกรรมอะไรออกมา ฉันก็บอกว่าฉันเป็นโรคซึมเศร้า วันนี้ฉันไม่พอใจใคร ฉันจะเอาพฤติกรรมหรือนิสัยแย่ๆ ฉันไปฟาดฟันคนอื่นได้ เพราะฉันก็อ้างว่าฉันเป็นโรคซึมเศร้า หรือฉันไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ไม่สนใจใคร แม้กระทั่งความหายนะของผู้อื่น ฉันก็อ้างว่าเป็นโรคซึมเศร้า ขอโทษนะ “โรคซึมเศร้า” กับ “จิตสำนึก” มันคนละส่วนกันครับ
ถ้าแน่จริงก็เอาใบรับรองแพทย์จากจิตแพทย์มายืนยันเลย (หมอทั่วไปไม่เอานะครับ เพราะว่าเดี๋ยวเตี๊ยมกัน ฮั้วกันได้) โดยทั่วไปจิตแพทย์จะไม่ออกใบรับรองแพทย์มั่วซั่วออกมาการันตีให้ว่าใครป่วยจริงหรือไม่ป่วยจริง เพียงเพื่อผลประโยชน์หรือข้ออ้างอะไรบางอย่างโดยไม่จำเป็นครับ โดยเฉพาะเรื่องที่เป็น sensitive issue ต่อสังคม เห็นมีแต่พวกบิดามารดา หรือผู้เกี่ยวข้องนี่แหละที่พยายามอ้าง
และถึงแม้ว่าจะป่วยจริง เราก็จะคุยกับคนไข้เสมอว่าโรคก็คือโรค แต่โรคของคุณไม่ใช่โรคจิตคุ้มคลั่งอาละวาด หรือพูดจาไม่รู้เรื่อง เพราะฉะนั้น อย่าพยายามเอาโรคของตัวเองไปอ้างนู่นอ้างนี่ โดยเฉพาะเรื่อง “ความรับผิดชอบต่อสังคม” ทำแบบนี้มันทำให้ผู้ป่วยรายอื่นๆ ที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้าพลอยเสียหายและถูกสังคมมองในแง่ลบไปเสียหมด ประเด็นที่สำคัญในสังคมก็คือ ถ้าคุณเป็นเยาวชนคุณก็มีผู้ปกครอง คุณมีปัญหาสุขภาพจิตก็รักษากันไป ส่วนผู้ปกครองก็ควรจะแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่ผู้ใต้ปกครองได้กระทำไว้
ต่อให้ลูกคุณป่วย แต่ในเมื่อมีปัญญา มีแฟน ไปแต่งงานได้ ณ ช่วงเวลานั้น ถามว่าถ้าเขามีปัญญาไปแต่งงานได้แสดงว่าอาการเขาไม่ได้หนักถึงขนาดคุณจะต้องเฝ้าเขาตลอด 24 ชั่วโมงจนไปไหนไม่ได้นะ หรือไม่สามารถจะไปเยี่ยมเยืยนหรือดูแลจิตใจ ผู้เสียหายได้บ้างเลยหรือ???
การชี้แจงแก้ตัวมาก็ฟังไม่ขึ้น ยิ่งพูดยิ่งดูแย่ลงกว่าเดิม
ส่วนประเด็นเรื่องจะให้กระทรวงยุติธรรมออกเงินให้ก่อน อันนี้ไม่เคยได้ยินในประวัติศาสตร์ แต่ว่าในเมื่อนามสกุลคุณยิ่งใหญ่ขนาดนั้น ขนาดมีคนออกมาปกป้องแล้วก็อ้างความยิ่งใหญ่ในอดีตถึงปัจจุบันจนถึงขนาดว่าจะไล่ฟ้องประชาชนทั้งประเทศ ผมว่าก็คงเอาเงินของราชการออกมาได้กระมังครับ อันนี้ผมไม่ทราบแล้วก็ตอบไม่ได้ แต่ฟังดูแล้ว เอิ่ม! พูดตรงๆ นะ มันตลกปน และให้อารมณ์เหมือนพวกชักดาบ!”
อ่านโพสต์ต้นฉบับ