เพจ "Drama-addict" โพสต์ให้ความรู้เรื่องการเจาะเลือดตรวจหาไข้เลือดออก ชี้มีหลายปัจจัย ลบความคิดเจาะเลือดแล้วต้องเจอทันที ระบุหากหมอนัดตรวจเลือดบ่อยอย่าเพิ่งหงุดหงิด
จากกรณี นร.หญิงเรียนดีชั้น ม.6 ร.ร.ดงมูลวิทยา อ.หนองกุงศรี เสียชีวิตด้วยไข้เลือดออกสายพันธุ์ใหม่ หลังผู้เป็นพ่อพาลูกไปหาหมอที่โรงพยาบาลหนองกุงศรีเพื่อตรวจเลือด แต่อาการไม่ดีขึ้น จึงพาลูกกลับไปโรงพยาบาลหนองกุงศรีอีกครั้ง ในเวลา 04.00 น. แต่พยาบาลได้ทำการวัดความดัน วัดไข้ให้ลูกสาว แล้วบอกกับตนว่าลูกสาวปกติดี ความดันไม่มี ก่อนรุ่งเช้าลูกช็อกรีบส่ง รพ.กาฬสินธุ์ และ รพ.ศรีนรินทร์ ต่อมาเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 14 ก.ค. เพจ "Drama-addict" ได้ออกมาโพสต์ข้อความให้ความรู้เกี่ยวกับการเจาะเลือดตรวจหาโรคไข้เลือดออก โดยได้ระบุข้อความว่า
"บางคนยังเข้าใจว่า ถ้าเป็นไข้เลือดออก เจาะเลือดแล้วต้องเจอทันที จริงๆแล้วไม่ใช่แบบนั้น และการเจาะเลือดตรวจหาว่าคนไข้เป็นไข้เลือดออกไหมเป็นอะไรที่ยากพอตัวเลย หลักๆจะเป็นการตรวจเลือด ดูความเข้มข้นของเลือด ปริมาณเกล็ดเลือด พวกนี้พอบอกคร่าวๆได้ว่าเป็นไข้เลือดออกไหม แต่ปรกติกว่าจะส่องเห็นความผิดปรกติของเม็ดเลือดแบบนั้นมักอยู่ในช่วงวันที่สองวันที่สามลงไป ดังนั้นหมอมักจะนัดคนไข้ที่มา รพ. ด้วยไข้แล้วสงสัยไข้เลือดออก ให้มาเจาะเลือดหลังไข้พ้นวันที่สองสาม
นอกจากนั้นก็จะมีการตรวจหาพวกแอนติเจน แอนตี้บอดี้ที่มีต่อไวรัสไข้เลือดออก ปัญหาคือ ดูในภาพแรก การขึ้นของแอนติเจน แอนตี้บอดี้มันเหลื่อมกัน ประมาณว่า ถ้าตรวจด้วยแลปที่ค่าแลปตัวนั้น ณ วันเวลานั้นมันไม่อยู่ในระดับที่สูงพอ ก็อาจตรวจไม่เจอได้ ยกตัวอย่างเช่น บาง รพ อาจมี การตรวจหา ns1 antigen ซึ่งเป็นการตรวจไข้เลือดออกที่ไวในระยะแรกๆ แต่พอผ่านระยะนั้นไป ก็อาจตรวจไม่เจอละ
ดังนั้นถ้าหมอนัดมาตรวจเลือดบ่อยๆ อาจจะเจาะเลือดทุกวันหรือวันเว้นวัน ก็อย่าเพิ่งหงุดหงิด เพราะต่อให้ตรวจเลือดแล้วไม่เจอไข้เลือดออก ก็ไม่แน่ว่าจะไม่เป็น ต้องดูหลายๆปัจจัย อาการ กลุ่มเสี่ยง วันที่มีไข้ แลปที่ส่งตรวจด้วย จากที่เคยเจอมา เคยนัดคนไข้มาเจาะเลือดกันสี่ห้าหนกว่าจะเจอว่าเป็นไข้เลือดออก บางคนผลเลือดปรกติมาตลอด จนกระทั่งถึงวันที่หก ไข้ลงปุ๊บ ความดันร่วงปั๊บ แล้วเพิ่งเจาะเลือดเจอว่าน่าจะเป็นไช้เลือดออกเอาวันนั้นก็มี"
