นักเรียนนักเลงลามไปถึงมัธยมฯ ขาสั้น โรงเรียนดังนครปฐม รุ่นพี่ ม.6 ปีนเกลียว เตะหน้าอกน้อง ม.3 ทดสอบกำลังใจ ผลก็คือเข้าห้องไอซียู สมองบวม หัวใจหยุดเต้น รออย่างเดียวคือปาฏิหาริย์ ด้านรุ่นพี่ยังกบดานเงียบ
กรณีรับน้องโหดไม่ใช่เพียงแค่ระดับมหาวิทยาลัยเท่านั้น แม้แต่ระดับมัธยมศึกษาก็ยังมีเรื่องน่าสลด เฉกเช่นกรณีที่เกิดขึ้นกับนักเรียนโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม เรื่องนี้เปิดเผยโดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก "เหน่อ หนองกระโดน" หรือ นายภานุวัฒน์ ทรงสวัสดิ์ชัย แอดมินเพจ ANTI-SOTUS และผู้ประสานงานเครือข่ายจังหวัด ภาคกลาง และ ภาคตะวันตก พรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ค. มีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดนกระทืบ เข้ารักษาตัวที่ห้องไอซียู ด้วยอาการปอดช้ำ ไม่รู้สึกตัว หายใจด้วยตัวเองไม่ได้
สำหรับเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น เนื่องจากนักเรียนคนดังกล่าวเข้าไปรับเลสข้อมือรุ่น จากรุ่นพี่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ไปประมาณ 10 คน โดนทำร้ายประมาณ 3 คน เด็กคนนี้โดนเตะหน้าอก จนหายใจไม่ออก ออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงสมองไม่ทัน ทำให้นอกจากปอดช้ำแล้วสมองบวมไปด้วย ได้รับแจ้งว่า หัวใจหยุดเต้นไปแล้ว 3 รอบ ซึ่งพฤติการณ์แบบนี้ ไม่เคยปรากฎพบ ที่โรงเรียนมาก่อน เป็นการคิดอยากทำและสืบทอดกันเอง หลังเกิดเหตุรุ่นพี่ที่ทำร้ายร่างกายไม่ได้อยู่ออกมารับผิดชอบ กลับหลบหนีอยู่ที่บ้านของเจ้าตัว
ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ก.ค. นายภานุวัฒน์ พร้อมด้วย น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.นครปฐม เขต 3 พรรคอนาคตใหม่ ได้เข้าไปเยี่ยมนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ห้องไอซียูและได้พูดคุยกับครอบครัว หลังเข้ารักษาตัวเป็นเวลากว่า 9 วัน น้องมีอาการปอดช้ำเพราะถูกกระแทกอย่างแรงเข้าที่ปอด หัวใจหยุดเต้นไป 3 รอบ สมองบวมมากเพราะขาดออกซิเจนเป็นเวลานาน โดยมารดากล่าวว่า ตอนนี้ทำได้แค่รอปาฏิหาริย์ ส่วนบิดาเฝ้ารอลูกชายด้วยความหวังอยู่หน้าห้องไอซียู คุณพ่อทำใจไม่ได้ที่ต้องเห็นลูกชายเป็นแบบนี้
สำหรับสาเหตุการทำร้ายร่างกาย ทราบจากนักเรียนในโรงเรียนดังกล่าวว่า เรื่องเกิดจากเลสที่ใช้สำหรับสวมใส่ข้อมือ ระบุชื่อโรงเรียนและตราสัญลักษณ์โรงเรียน ซึ่งเลสนี้รุ่นพี่จะมอบให้แก่รุ่นน้อง ได้มีการจับคู่ระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง 1 ต่อ 1 เพื่อทดสอบความอดทน น้องกรถูกเตะเข้าที่หน้าอก 3 ครั้งจนสลบ รุ่นพี่เห็นน้องสลบไปจึงนำตัวส่งโรงพยาบาล
"เคสการทำร้ายร่างกายของนักเรียนนักศึกษา อันเนื่องมาจากการรับน้อง ยังคงมีให้เห็นอย่างต่อเนื่องทุกปี บางรายบาดเจ็บเล็กน้อย บางรายบาดเจ็บสาหัส และบางรายก็เสียชีวิต ที่ผ่านมาก็มีมาตรการลงโทษทางกฎหมาย แต่ดูเหมือนว่าเหตุการณ์เหล่านี้ยังเกิดขึ้นซ้ำๆ อยากฝากไปยังรุ่นพี่ที่คิดจะสืบทอดประเพณีเหล่านี้ อยากให้คิดดีๆและพึงระลึกว่าคนทุกคนมีชีวิต มีจิตใจ เป็นคนเหมือนกัน เป็นคนเท่ากัน การทำร้ายร่างกายด้วยความเชื่ออันใดก็แล้วแต่ ผลเสียก็จะตกอยู่ที่ตัวคุณเอง ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายและหมดอนาคต เพียงเพราะความเชื่อผิดๆบางประการ หยุดเถอะนะคะ ไม่ใช่เพื่อคนอื่นเท่านั้น แต่เพื่อตัวคุณเองด้วย" น.ส.สุทธวรรณ กล่าว
ขณะที่นายภานุวัฒน์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 8 ก.ค. จะประสานเรื่องกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม และกองทุนยุติธรรม ว่าจะเข้าข่ายหรือจะสามารถช่วยเหลือนักเรียนรายนี้ได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ธุรกิจที่บ้านของนักเรียนคนดังกล่าวต้องหยุด แล้วผลัดกันมารอเฝ้าไข้ ห้องไอซียูเข้าเยี่ยมตลอดไม่ได้ ก็นอนที่พื้นหน้าลิฟท์โรงพยาบาล ขอร้องว่า พิธีกรรมแบบนี้เลิกไปได้แล้วเคารพศักดิ์ศรีของทุกคนอย่างเท่ากัน อยู่กันอย่างมีภารดรภาพ เพื่อสังคมที่มันน่าอยู่กว่านี้
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ระบุว่า เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. เวลาประมาณ 01.00 น. กลุ่มเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 รุ่นพี่ และเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รุ่นน้อง จำนวนประมาณ 15 คน ได้ไปทำกิจกรรมบริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 2 ต.วัดแค อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ต่อมามีการรับรุ่นน้องเข้ากลุ่ม โดยให้รุ่นพี่เป็นคนเตะทดสอบ ปรากฏว่ามีรุ่นน้อง 3 คนถูกรุ่นพี่เตะที่หน้าอก 3 ครั้ง ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลนครปฐม
ต่อมาวันที่ 1 ก.ค. ผู้ปกครองรุ่นน้องที่บาดเจ็บเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.นครชัยศรี เพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุตามกฎหมาย ขณะนี้ ผกก.สภ.นครชัยศรี อยู่ระหว่างดำเนินการเรียกตัวผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหา และนำตัวไปขอให้ศาลสั่งควบคุมตามกฎหมายเยาวชนฯ อีกทั้งยังอยู่ระหว่างรอผลการตรวจพิสูจน์บาดแผลของแพทย์ รพ.นครปฐม นำมาประกอบสำนวนการสอบสวน ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานด้วยความรอบคอบ ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสนับสนุนหาข้อมูลพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในทุกมิติ
"ที่ผ่านมาพบว่ายังมีรุ่นพี่บางกลุ่ม บางสถาบัน ที่ยังก่อเหตุในลักษณะแบบนี้ ไม่ว่าจะด้วยวัฒนธรรม ประเพณี กฎระเบียบของคณะ หรือด้วยเหตุผลอื่นใด ซึ่งล้วนอาจจะก่อให้เกิดความสูญเสียและความเสียใจต่อญาติ ผู้ปกครองของผู้ที่ถูกกระทำ จึงอยากเตือนไปยังรุ่นพี่ที่คอยดูแลรุ่นน้องตามสถาบันต่างๆ ให้พึงระลึกถึงความผิดชอบชั่วดี การกระทำอันใดที่ไม่สมควรกระทำกับรุ่นน้อง เช่น การกระทำที่ถึงเนื้อถึงตัว ทำร้ายร่างกาย เสี่ยงอันตราย เป็นต้น ก็ขอให้ละเว้น เพราะถ้าหากเกิดขึ้นแล้วส่งผลกระทบต่อชีวิตและร่างกายของรุ่นน้อง ผู้ที่กระทำจะมีความผิดตามกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีกับรุ่นพี่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไม่มีการละเว้น นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่ออนาคตของผู้ที่กระทำความผิดได้" พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว