xs
xsm
sm
md
lg

ในหลวง จะเสด็จฯ ไปถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค 24 ต.ค. ผบ.ทร.เชิญชวนประชาชนเฝ้าฯ รับเสด็จชื่นชมพระบารมี

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จฯ ไปถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค 24 ตุลาคมนี้ ด้านกองทัพเรือ แถลงเตรียมความพร้อมขบวนเรือพระราชพิธี ในพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินไปถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 พร้อมเชิญชวนประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ร่วมกันแต่งกายด้วยชุดสุภาพ มาเฝ้าฯรับเสด็จและชื่นชมพระบารมี อย่างพร้อมเพรียงกัน ชื่นชมความตระการตาของริ้วขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารค มรดกทางวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ของชาติไทย

เมื่อวันที่ 5 ก.ค. เวลา 15.30 น. ผู้บัญชาการทหารเรือในฐานะ ประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 เป็นประธานในการแถลงข่าว “การเตรียมการจัดขบวนเรือพระราชพิธี ในพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินไปถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562” ภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ณ ห้องรับรองชั้น 2 อาคารส่วนบัญชาการกองทัพเรือพื้นที่วังนันทอุทยาน โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าวประกอบด้วยพลเรือเอกสมหมาย วงษ์จันทร์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือ พลเรือโทจงกล มีสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานกรรมการจัดเตรียมความพร้อมขบวนพระราชพิธี พลตำรวจโท สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พรทิพย์ อุดมเวทยนันท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเฉลิมพระเกียรติ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นางประนอม คลังทอง รองอธิบดีกรมศิลปากร

โดยภายในงานแถลงข่าวกองทัพเรือได้นำกำลังพลประจำเรือพระราชพิธีสวมเครื่องแต่งกายกำลังพลประจำเรือต่างๆ ในขบวนเรือพระราชพิธี อาทิ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ , คู่ฝีพายเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ ,เรือรูปสัตว์ ,เรือพิฆาต,เรือแซง มาแสดงเป็นตัวอย่าง เป็นต้น

พลเรือเอกลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือในฐานะ ประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 กล่าวว่า รัฐบาลได้มอบภารกิจในการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในครั้งนี้ ถือเป็นราชพิธีบรมราชาภิเษกเบื้องปลาย ให้กองทัพเรือเป็นหน่วยงานหลักในการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ โดยแต่งตั้งคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค มี ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็น ประธานอนุกรรมการ และมีหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเป็นอนุกรรมการ เช่น กรมศิลปากร กรมเจ้าท่า กรุงเทพมหานคร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานราชการในพระองค์เป็นที่ปรึกษาและอนุกรรมการ คอยให้คําปรึกษาและข้อแนะนําการปฏิบัติต่าง ๆ ให้แก่คณะอนุกรรมการ เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สง่างาม และสมพระเกียรติ โดยการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ได้จัดเตรียมเรือพระราชพิธี รวมทั้งสิ้น จํานวน 52 ลํา โดยมีเรือที่สําคัญเป็นเรือพระที่นั่งได้แก่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ นอกจากนี้ ยังมีเรือพระราชพิธีอื่นด้วยเช่น เรือรูปสัตว์ เรือดั้ง เรือแซง เป็นต้น

“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินที่วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ.2562 โดยเส้นทางเสด็จพระราชดําเนิน ที่ได้เตรียมไว้เป็นเส้นทางเดียวกับที่เคยใช้มาตั้งแต่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร คือ เส้นทางจากท่าวาสุกรี ถึง วัดอรุณราชวราราม รวมระยะทาง 4.2 กม. การนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะประทับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์” พล.ร.อ.ลือชัย กล่าวเพิ่มเติม

ทั้งนี้กองทัพเรือได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตในการซ่อมทําบูรณะเรือพระราชพิธี โดยแบ่งงานออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนการซ่อมตัวเรืออยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพเรือ โดย กรมอู่ทหารเรือ และส่วนการตกแต่งตัวเรืออยู่ในความรับผิดชอบของกรมศิลปากร โดยสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ปัจจุบันได้ดำเนินการซ่อมบูรณะเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว เรือพระราชพิธีทั้ง 52 ลำอยู่ในสภาพพร้อมที่เข้าร่วมพระราชพิธีฯ ในครั้งนี้ ซึ่งในวันที่ 11 ก.ค.62 จะได้ดำเนินการประกอบพิธีบวงสรวงเรือพระที่นั่งและเรือรูปสัตว์ จำนวน 14 ลำ ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี และโรงเรือพระราชพิธีท่าวาสุกรี จากนั้นวันที่ 12 - 23 ก.ค.62 จะเชิญเรือพระที่นั่งและเรือรูปสัตว์ลงน้ำ และลากจูงเรือเข้าเก็บที่อู่ทหารเรือธนบุรี เพื่อเตรียมงานพระราชพิธี โดยใช้กำลังพลประจำเรือพระราชพิธีจำนวน 2,200 นาย ส่วนใหญ่เป็นกำลังพลที่ไม่เคยเป็นกำลังพลประจำเรือพระราชพิธีมาก่อน และได้ฝึกซ้อมต่อเนื่อง ปัจจุบันได้รับการฝึกความคุ้นเคยกับเรือภายในหน่วยเสร็จสิ้นแล้วต่อไปเป็นการฝึกซ้อมในแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคมเป็นต้นไป

โดยกำหนดการซ้อมกําหนดการซักซ้อมในแม่น้ำเจ้าพระยา ตามแผนการซ้อม จํานวน 10 ครั้ง แบ่งเป็นการซ้อมย่อย จํานวน 8 ครั้ง และซ้อมใหญ่ จํานวน 2 ครั้ง เป็นการซ้อมเสมือนวันพระราชพิธีฯ เพื่อให้มีความพร้อมที่ปฏิบัติงานในวันพระราชพิธีฯ กำหนดเป็นวันที่ 24 ต.ค.62 ทั้งนี้สำหรับการจัดโดยจัดรูปขบวนเรือ แบ่งออกเป็น 5 ริ้ว 3 สาย ดังนี้ 1.ริ้วสายกลาง ซึ่งเป็นเรือสายสำคัญ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่ง 4 ลำ มีเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ นอกจากนี้มีเรืออีเหลือง เป็นเรือกลองนอก เรือแตงโม ซึ่งเป็นเรือของผู้บัญชาการขบวนเรือ เป็นเรือกลองใน พร้อมด้วยเรือตำรวจนอก และเรือตำรวจใน 2.ริ้วสายใน ขนาบข้างสายเรือพระที่นั่ง มีเรือทองขวานฟ้าและเรือทองบ้าบิ่น เป็นเรือประตูหน้า เรือเสือทยานชล และเรือเสือคำรณสินธุ์ เป็นเรือพิฆาต เรือรูปสัตว์ 8 ลำ และปิดท้ายสายในด้วยเรือเอกไชยเหินหาว และเรือเอกไชยหลาวทอง ซึ่งเป็นเรือคู่ชัก 3.ริ้วสายนอก ประกอบด้วยเรือดั้ง และเรือแซง สายละ 14 ลำ รวมทั้งสิ้น 52 ลำทั้งนี้ เรือทุกลําทำจากไม้ มีอายุในการสร้างมาก โดยเฉพาะเรือพระที่นั่งทั้ง 3 ลํา กล่าวคือเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ สร้างในรัชกาลที่ 5 มีอายุกว่า 102 ปี เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ สร้างในรัชกาลที่ 5

นอกจากนี้พลเอกลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือในฐานะ ประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 กล่าวต่อว่า ในครั้งนี้ได้มีการประพันธ์บทเห่เรือใหม่ จำนวน 3 องค์ ด้วยกัน โดยนาวาเอกทองย้อย แสงสินชัย ศิลปินแห่งชาติ เป็นผู้ประพันธ์ ส่วน นาวาเอกณัฏวัฒน์ อร่ามเกลื้อ เป็นผู้เห่เรือ สำหรับเครื่องแต่งกายฝีพายตัดเย็บโดยสำนักพระราชวัง ซึ่งยึดถือรูปแบบเดิมตามโบราณราชประเพณี ในการนี้ เป็นเครื่องแบบที่มีในคลังและตัดเย็บเพิ่มเติมให้กำลังพลด้วย สำหรับเครื่องแต่งกายฝีพายเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์จัดสร้างใหม่ทั้งหมด

พล.ร.อ.ลือชัย กล่าวด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณว่า นับเป็นบุญของพวกเราเหล่าทหารเรือ ที่ได้รับความไว้วางพระราชหฤทัย ให้จัดขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารคถวายพระเกียรติท่านในครั้งนี้ และต้องขอบคุณรัฐบาลที่ได้มอบภารกิจอันยิ่งใหญ่นี้ให้แก่กองทัพเรือ ผมพูดแทนกำลังพลทุกนายของกองทัพเรือด้วยเลยว่า ทุกคนมีความภาคภูมิใจ จะทำให้ดีที่สุดให้ความเรียบร้อย สง่างาม สมพระเกียรติ เพื่อสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่เคารพและเทิดทูนยิ่งของ ประชาชนชาวไทยทุกคน ที่สำคัญคือจะเหน็ดเหนื่อยยากประการใด กำลังพลทุกคนไม่เคยท้อแท้ มีอย่างเดียวคือต้องทำเพื่อสถาบันที่รักยิ่งของเรา ที่ทุกคนเทิดไว้เหนือเกล้า สุดท้ายคือ อยากเชิญชวนประชาชนอีกครั้งหนึ่ง จงมาร่วมกันชื่นชมพระบารมี ชื่นชมความสวยงาม ชื่นชมอารยธรรมอันเก่าแก่ของประเทศไทย ขอย้ำว่า ไม่มีชาติใดในโลกเหมือนเราอีกแล้ว ขอเชิญชวนเยาวชนรุ่นใหม่จงมาศึกษาหาความรู้และจงภาคภูมิใจในความเป็นชาติไทยตั้งแต่ครั้งอดีตว่าประเทศไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกนี้ แรงบันดาลใจของลูกหลานเยาวชนจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้านี้

“ผมขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ร่วมกันแต่งกายด้วยชุดสุภาพ มาเฝ้าฯรับเสด็จและชื่นชมพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างพร้อมเพรียงกัน และชื่นชมความตระการตาของริ้วขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารค ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ของชาติไทย ซึ่งถูกถ่ายทอดด้วยศิลปกรรม ประติมากรรม ที่วิจิตรบรรจงในการสลักเสลาจนเป็นลำเรือที่อ่อนช้อย งดงาม เมื่อนำมาผนวกกับกาพย์เห่เรือที่ถูกร้อยเรียงด้วยถ้อยคำอันสละสลวยงดงามตามฉันทลักษณ์ ประกอบกับความพลิ้วไหว และพร้อมเพรียงของฝีพาย เมื่อสอดรับกับเสียงขับขานกาพย์เห่เรือที่ดังกังวานไปทั่วคุ้งน้ำ ทำให้บรรยากาศทั่วทั้งบริเวณที่ขบวนเรือแล่นผ่านประดุจดังเมืองสวรรค์ สายน้ำที่นิ่งสงบทอดยาวจากเหนือจรดใต้ ถูกทาบทาด้วยขบวนเรืออันงดงาม ยิ่งใหญ่ ตระการตาซึ่งภาพที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ถูกถ่ายทอดแก่สายตาของชาวไทยอีกครั้งหนึ่งในพระราชพิธี เสด็จพระราชดำเนินไปถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562ในวันที่ 24 ตุลาคม 2562 ซึ่งเป็นครั้งแรกในรัชกาลปัจจุบัน” ผู้บัญชาการทหารเรือกล่าวทิ้งท้าย













กำลังโหลดความคิดเห็น