โซเชียลโวยโครงการก่อสร้างถนนพระราม 2 ปล่อยปะละเลย ก่อสร้างล่าช้า ทำรถติดนานถึง 3 ชั่วโมง รองอธิบดีกรมทางหลวงแจงล่าช้า ติดขัดย้ายสาธารณูปโภค คาดอีก 3 เดือนทางขนานใช้ได้ แต่อีก 2-3 เดือนข้างหน้ามีทางด่วนมาลง แนะลงใต้ใช้ถนนบรมราชชนนีไปก่อน
วันนี้ (5 ก.ค.) จากกรณีที่เฟซบุ๊ก "Pairoj Jeerabun" ซึ่งเป็นของนายไพโรจน์ จีรบุณย์ สถาปนิกเพื่อสังคม ได้โพสต์ข้อความเรื่อง "ขอตำหนิและประณามผู้รับผิดชอบโครงการก่อสร้างบนถนนพระราม 2" ระบุว่า โครงการดังกล่าวปล่อยปะละเลยที่จะวางแผนบริหารจัดการ ทั้งขั้นก่อน และระหว่างการก่อสร้าง ทำให้การจราจรติดขัดตลอดเวลา ที่ผ่านมาจากทางด่วนดาวคะนองต้องใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งขึ้นไป จนถึง 3 ชั่วโมง เพราะรถติดจนหยุดนิ่ง ทำให้ประชาชนเสียเวลาและเสียสุขภาพจิต หนำซ้ำสภาพถนนและการก่อสร้างที่ไม่มีความคืบหน้า มีคนงานเพียงไม่กี่คน เห็นเครื่องจักรไม่กี่ชิ้น ไม่เห็นสภาพงานคืบหน้าอย่างที่ควรจะเห็น จึงขอถามไปยังผู้รับผิดชอบทุกระดับละเลยต่อหน้าที่ จนประชาชนต้องเดือดร้อนอย่างสาหัสด้วย
โดยได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า "ปกติผมจะไม่เคยตำหนิคนที่ต้องรับผิดชอบต้องทำงานในลักษณะที่ต้องเข้ามาทำ เพื่อแก้ปัญหาที่ถูกสะสมไว้ หรือทิ้งไว้จนปัญหาบานปลายแล้ว แต่กรณีโครงการบนถนนพระราม 2 นี้ นอกจากต้องตำหนิอย่างรุนแรง และสมควรประณามในการทำงานแบบที่ไร้ความรับผิดชอบต่อผู้อื่นอย่างหนักแล้ว ผู้รับผิดชอบทุกระดับยังสมควรต้องถูกพิจารณาให้ได้รับโทษในการละเลยต่อหน้าที่ จนประชาชนต้องเดือดร้อนอย่างสาหัสด้วย
ในช่วงหลายๆ ปีที่ผ่านมา จนกระทั่งเริ่มก่อสร้างในขณะนี้ ทั้งที่สภาพการจราจร ติดขัดอย่างสาหัส แทบจะตลอดเวลา แต่การดำเนินการในการทำโครงการนี้ กลับปล่อยปละละเลยที่จะวางแผนบริหารจัดการ ทั้งขั้นก่อน และระหว่างการก่อสร้างเพื่อแก้ปัญหาจราจรให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะ 1. การเพิ่มผิวการจราจรชั่วคราว ทดแทนส่วนที่ต้องปิดไป 2. การปรับสภาพผิวการจราจรเดิมที่เสียหายมาก ให้สภาพดีขึ้น 3. การแสดงสัญลักษณ์สภาพทางจราจรที่ถูกปิดกั้น ล่วงหน้า 4. การแสดงช่องจราจร สำหรับไปในจุดหมายต่างๆ ให้คนที่ไม่คุ้นพื้นที่ เลือกใช้ได้ถูก แต่เนิ่นๆ 5. การเตรียมไฟแสงสว่างตลอดช่วงก่อสร้าง และจุดทางเปลี่ยนทางแยกที่สำคัญ ให้เพียงพอ
6. การวางแผนงานก่อสร้าง ที่สะท้อนให้เห็นออกมาบนสถานที่จริง ถึงประสิทธิภาพ ที่ถูกคิดเตรียมการเอาไว้ 7. การระดมสรรพกำลัง บุคลากรและเครื่องจักร เพื่อให้มีปริมาณงานก่อสร้าง คุ้มกับเวลาที่ผู้คนต้องเดือดร้อน 8. การบริหารจัดการ แก้ปัญหาสภาพการจราจร ในช่วงระยะเวลา ที่มีปริมาณรถมากกว่าปกติ 9. ทั้งที่ พื้นที่บนถนนพระราม 2 มีที่ว่างมากพอ ที่จะใช้ในการบริหารจัดการในระหว่างดำเนินโครงการได้อย่างดี
และจากประสบการณ์ส่วนตัว ระยะทาง จากทางด่วน ดาวคะนอง ไปจนถึงประมาณกิโลเมตรที่ 80 ขาออก ผมใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งขึ้นไป ขาเข้า ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ถึง 3 ชั่วโมงขึ้นไป หรือมากกว่านั้นมากๆ ก็ยังเคยเจอมาแล้ว ระหว่างรถติด จนหยุดนิ่ง ผมเคยนั่งนึกถึงหัวอกของผู้ที่อาศัยแถวนั้น ผู้ที่ทำมาค้าขาย โดยต้องพึ่งพาคนที่อยากเดินทางไปมา ผ่านถนนนั้น หรือผู้ที่จำเป็นต้องเดินทางผ่านถนนพระราม 2 เป็นประจำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าพวกเขาต้องทนทรมานขนาดไหน สุขภาพจิตเป็นอย่างไร ไปพร้อมๆ กับที่เห็นสภาพ ถนนและการก่อสร้างที่คาราคาซัง ทำๆ ทิ้งๆ ไม่เคยเห็นคนทำงาน เห็นเครื่องจักรไม่กี่ชิ้น ไม่เห็นสภาพงานคืบหน้าอย่างที่ควรจะเห็นได้ชัดเอาเสียเลย ทั้งที่ผมเองกว่าจะผ่านไปแต่ละครั้ง ทิ้งช่วงหลายๆ เดือนก็ยังรู้สึก หดหู่ สังเวช และอนาถใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นขนาดนี้
ขณะเดียวกัน ก็เกิดคำถามขึ้นในใจ ในฐานะคนก่อสร้างคนหนึ่งว่าผู้มีอำนาจรับผิดชอบโครงการนี้ ในทุกระดับในทุกหน่วยงาน พวกเขาไม่เคยรู้สึกสำนึกผิด หรือละอายใจกันบ้างเลยหรือที่การทำงานอย่างไร้ความรับผิด
ชอบของพวกเขานั้น มันก่อกรรมทำเข็ญให้ผู้คนในทุกนาที เป็นระยะเวลาอันยาวนาน
สเตตัสนี้ ไม่ได้เขียนขึ้นด้วยความโกรธแค้น หรือชิงชังใคร แต่อยากสะท้อนจากประสบการณ์ตรง และมุมมองจากคนก่อสร้างถึงสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นในโครงการที่ถือว่าสภาพพื้นที่ไม่ได้มีข้อจำกัด อย่างเช่นพื้นที่หนาแน่นในเมืองที่อาจส่งผล ทำให้งานก่อสร้างต้องมีผลกระทบที่ยากลำบากหรือล่าช้าขนาดนี้ ยกเว้นคงมีเพียงข้อจำกัดทางด้านสำนึกความรับผิดชอบของทุกคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบต่อโครงการนี้เท่านั้น ที่ทำให้เกิดสภาพเช่นนี้"
ล่าสุด นายกมล หมั่นทำ รองอธิบดีกรมทางหลวง ฝ่ายดำเนินงาน ชี้แจงว่า ปัจจุบันกรมทางหลวงมีโครงการปรับปรุงทางหลวงหมายเลข 35 ตอน ทางแยกต่างระดับ บางขุนเทียน - เอกชัย ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 9+800 ถึง 21+500 ระยะทางประมาณ 11.7 กิโลเมตร แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 3 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 1 ทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน - แสมดำ ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร, ตอนที่ 2 แสมดำ - ซอยพันท้ายนรสิงห์ ระยะทางประมาณ 4.1 กิโลเมตร และตอนที่ 3 ระหว่างซอยพันท้ายนรสิงห์ – มหาชัยเมืองใหม่ ระยะทาง 4.1 กิโลเมตร โดยทั้งสามตอนจะก่อสร้างขยายคันทางขนาน (Frontage Road) จากเดิม 2 ช่องจราจรเป็น 3 ช่องจราจร โดยระดับก่อสร้างของทางขนานใหม่จะสูงขึ้นจากระดับของทางขนานเดิมโดยเฉลี่ยประมาณ 40 เซนติเมตร ส่วนทางหลัก (Main Road) จะก่อสร้างขยายคันทางจากเดิม 3 ช่องจราจรเป็น 4 ช่องจราจร โดยระดับก่อสร้างของทางหลักใหม่จะสูงขึ้นจากระดับของทางหลักเดิมโดยเฉลี่ยประมาณ 50-70 เซนติเมตร รวมช่องจราจรทั้งสิ้น 14 ช่องจราจร พร้อมก่อสร้างสะพานกลับรถ 2 แห่ง กิโลเมตรที่ 12+000 (แสมดำ) และ 16+000 (ก่อนถึงซอยพันท้ายนรสิงห์)
เมื่อโครงการฯ ทั้ง 3 ตอนดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับปริมาณจราจรที่มีอยู่ในปัจจุบันและคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต อีกทั้งยังลดระยะเวลาการเดินทางของโครงข่ายถนนโดยรอบ ส่งผลให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางได้รับความสะดวกสบาย และมีความปลอดภัยในการใช้เส้นทางเพิ่มมากขึ้น ผลงานรวมของแต่ละตอนในปัจจุบัน ถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2562 คาดว่าอีกประมาณ 3 เดือน งานก่อสร้างทางขนาน ช่วงแสมดำ – มหาชัยเมืองใหม่ จาก 2 ช่องจราจร เป็น 3 ช่องจราจร ทั้งขาออกและขาเข้าจะแล้วเสร็จ เนื่องจากการรื้อย้ายสาธารณูปโภคที่ติดขัดใกล้แล้วเสร็จ ซึ่งก่อนการก่อสร้างกรมทางหลวงได้ตระหนักมาโดยตลอดว่า ผู้ใช้เส้นทางจะต้องได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการจราจรติดขัด ปัญหาฝุ่นละอองซึ่งเป็นผลพวงจากการก่อสร้าง
นายกมล กล่าวว่า กรมทางหลวงไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เตรียมแผนการไว้ตั้งรับกับสถานการณ์ต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะปัญหาการจราจรติดขัดระหว่างการก่อสร้าง โดยกรมทางหลวงได้จัดให้มีการประชุมวางแผนการบริหารการจราจรระหว่างการก่อสร้างทั้งในส่วนกลาง และส่วนย่อยในระดับพื้นที่ รวมทั้งร่วมประชุมกับกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ก่อนที่จะลงมือทำการก่อสร้างและระหว่างการก่อสร้างมาโดยตลอด โดยรูปแบบการจัดการจราจรจะต้องได้รับความเห็นชอบก่อนลงมือทำการก่อสร้างอีกทั้งได้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ รวมทั้งแนะนำเส้นทางเพื่อเลี่ยงใช้ถนนเส้นนี้สำหรับผู้ที่ไม่มีจำเป็นหากใช้เป็นทางผ่าน ทั้งนี้ กรมทางหลวงขออภัยผู้ใช้ทางที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้าง เนื่องจากถนนพระราม 2 เป็นถนนสายหลักที่มีการจราจรหนาแน่นและรถบรรทุกขนาดใหญ่มากกว่า 2 แสนคัน
อีกทั้งในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า จะมีงานก่อสร้างสะพานยกระดับในช่วงเดียวกัน กรมทางหลวงขอแนะนำเส้นทางเลี่ยง ได้แก่ จากถนนกาญจนาภิเษกใช้ถนนปิ่นเกล้า - นครชัยศรี สำหรับเดินทางลงภาคใต้ หรือใช้ถนนเพชรเกษม สามารถเข้าถนนเศรษฐกิจแล้วเข้าสู่ถนนพระราม 2 ที่ทางแยกต่างระดับสมุทรสาคร จากถนนกาญจนาภิเษกใช้ถนนเอกชัย - บางบอน สามารถเข้าถนนพระราม 2 ที่บริเวณมหาชัยเมืองใหม่ได้ สำหรับประชาชนที่พบปัญหา อยากให้กรมทางหลวงแก้ไขสามารถติดต่อสายด่วน 1586 ตลอด 24 ชั่วโมง และขอความร่วมมือผู้ใช้ทาง ได้ปฏิบัติตามกฎ ป้ายเตือน ป้ายแนะนำ อย่างเคร่งครัดด้วย