ด้วยลุคน่ารัก สดใส ร่าเริง บวกกับน้ำเสียงใสๆ ที่เวลาร้องเพลงและเล่นดนตรีแต่ละทีทำเอาหลายคนต้องตกหลุมรัก จนทำให้ตอนนี้ Channel ใน YouTube ของเธอนั้นมีผู้ติดตามมากกว่า 5 แสนคน รวมถึงเพจเฟซบุ๊กก็มีผู้ติดตามมากกว่า 2 แสนคนเข้าไปแล้ว
สำหรับ ‘กมลรวี กอสัมพันธ์’ หรือ ‘เอ๋ยเอ้ย’ สาวนักกิจกรรมที่หลงใหลการร้องเพลงและเล่นดนตรีมาตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งเธอมักจะ Cover เพลงต่างๆ ลงบนสื่อโซเชียลมีเดียเป็นประจำจนทำให้คนรู้จักและติดตามเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดตอนนี้เธอยังมีซิงเกิลเป็นของตัวเองแล้ว กับเพลงชื่อว่า ‘ออมยิ้ม’ และ ‘หลับฝันดี’ (Good Dream) ซึ่งเธอมีโปรเจกต์ว่าภายในปีนี้อยากจะทำเพลงออกมาเรื่อยๆ เพราะเธอมีความสุขกับการร้องเพลง เลยอยากส่งต่อให้คนฟังมีความสุขเช่นเดียวกัน

• เส้นทางสายดนตรีของ "เอ๋ยเอ้ย"
ส่วนตัวเอ๋ยเรียนจบคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มาค่ะ ตอนนั้นด้วยความที่เราเป็นเด็กสายวิทย์ ที่บ้านก็อยากให้ไปทำงานในสายวิทย์ อยากให้เรียนเทคนิคการแพทย์ อยากให้ทำเกี่ยวกับพวกสาธารณสุข อยากให้ไปทางนั้นมากกว่า แต่เพราะเราชอบทำกิจกรรมมาตั้งแต่เด็ก ร้องเพลง เต้น เวลาโรงเรียนมีกีฬาสีก็เป็นดัมเมเยอร์บ้าง ถือป้ายบ้าง เป็นพิธีกรโรงเรียน เป็นกรรมการนักเรียน เป็นประธานนักเรียน คือเราทำมาหมด คนทั้งโรงเรียนรู้จักหมด เพราะเราบ้ากิจกรรมมาก ซึ่งเอ๋ยได้รางวัลเด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ ประจำปีการศึกษา 2553 ผลงานที่ทำมาเลยสามารถเอาพอร์ตไปยื่นได้ เอ๋ยเลยเอาพอร์ตนั้นไปยื่นที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตอนนั้นเขามีโครงการผู้มีความสามารถพิเศษทางการสื่อสารมวลชนด้วย ก็เลยคุยกับแม่ว่าถ้ายื่นพอร์ตไปแล้วติด ขอเรียนนะ แต่เราก็สอบคณะอื่นให้แม่ด้วยค่ะ ผลปรากฏว่าติด ก็ติดหลายคณะ แต่ที่บ้านก็ทำตามสัญญา ยอมให้เรียนคณะการสื่อสารมวลชน คือเหมือนเขาคิดว่าเราดูแลตัวเองได้ อยากทำอะไรก็ทำได้เลย เต็มที่ได้เลย
พอเข้ามหาวิทยาลัย เอ๋ยก็ยังทำกิจกรรมอยู่เรื่อยๆ นะคะ แต่ถ้าถามว่าแล้วมาเริ่มร้องเพลงตั้งแต่เมื่อไหร่ จริงๆ ตั้งแต่จำความได้เอ๋ยก็เริ่มร้องเพลงแล้วค่ะ แต่ถ้าร้องเพลงจริงจังจะเป็นช่วงมัธยมปลาย ตอนนั้นเอ๋ยได้เป็นนักร้องของโรงเรียน เพราะรุ่นพี่ที่เขาเป็นนักร้องอยู่ เรียนจบพอดี ครูจึงมาชวนเอ๋ย ซึ่งน่าจะเป็นเพราะดวงด้วย (หัวเราะ) เอ๋ยเลยได้มาเป็นนักร้องของโรงเรียน และก็เริ่มร้องเพลงเป็นหลัก แต่ยังไม่ได้เล่นดนตรีค่ะ
เวทีแรกที่ได้ร้องเพลงก็คือ “งานแต่งงาน” สมัยนั้นเพลงคุณลำไย ของพี่ลูกนก สุภาพร กำลังดัง เลยได้เอาเพลงนี้มาร้อง เป็นเพลงแรกที่ขึ้นเวทีเลยค่ะ
ถามว่าอาชีพนักร้อง นักดนตรี เป็นความฝันไหม แรกๆ ก็ไม่ใช่นะคะ ตอนเด็กๆ รู้แต่ว่าตัวเองชอบแสดงออก แล้วรู้สึกว่าอยากทำงานอะไรก็ได้ในวงการบันเทิง แต่พอโตขึ้นเราก็ยังไม่รู้ว่าอยากทำอะไร พอทำแบบหว่านแหไปปรากฏว่ามีคนชอบ แล้วบังเอิญก็เป็นสิ่งที่เราชอบเหมือนกัน เลยทำให้ต่อยอดไปได้
ความจริงก่อนหน้านี้พอเรียนจบมา เอ๋ยได้ไปทำงานประจำอยู่สักพักหนึ่ง งานประจำแรกเป็นก๊อบปี้ไรเตอร์อยู่ที่ค่ายเพลง จากนั้นบริษัทเขามีการเปลี่ยนแปลง แล้วเราทำงานเบื้องหลังมาก็รู้สึกอยากทำเบื้องหน้าบ้าง เอ๋ยเลยเปลี่ยนงานมาทำครีเอทีฟรายการทีวีแทน ซึ่งสายครีเอทีฟต้องทำงานตลอดเวลา เข้าเช้าเลิกดึก จนเรามาคิดกับตัวเองว่าเราไม่มีเวลาสานต่อความฝันของตัวเองเลย อีกห้าปีสิบปีข้างหน้าเราไม่ได้อยากจะเป็นผู้กำกับดีเด่น เป็นครีเอทีฟดีเด่น หรือโปรดิวเซอร์มือทองอะไรขนาดนั้น แล้วช่วงนั้นเป็นช่วงที่เอ๋ย Cover เพลงลงโซเชียลฯ แล้วด้วย ก็เลยคิดว่าเราน่าจะออกมาทำอะไรที่อยากทำดีกว่า

พอร้องเพลงไปได้สักพักเอ๋ยก็ได้มาคัฟเวอร์เพลงบน YouTube ซึ่งส่วนตัวเอ๋ยเคยคัฟเวอร์อูคูเลเล่เอาไว้ แต่ไม่ได้จริงจัง ทำให้เราหายไปช่วงหนึ่งแล้วก็กลับมาอีกทีตอนเรียนจบ และเริ่มทำงานแล้ว ซึ่งพี่ๆ ที่ทำงานเขาก็บอกว่าทำไมไม่ลองร้องลงเพลงลงใน YouTube ไปเลยล่ะ เอ๋ยเลยได้ลองดูอีกครั้ง เพราะช่วงนั้นคนก็เริ่มติดตามเยอะแล้วด้วย
ช่วงแรกที่จะทำเพลงลง YouTube การเล่นของเราก็ยังก๊องแก๊งอยู่ เอ๋ยเลยลองปรับไปเรื่อยๆ ให้เป็นสไตล์เรา จนมีทักษะมากขึ้น แม่นเรื่องคอร์ดมากขึ้น หลังจากนั้นก็เลยตัดสินใจทำลง YouTube ค่ะ
เพลงแรกที่ลง YouTube คือเพลง “คู่ชีวิต” ของ Cocktail ฉบับอูคูเลเล่ ซึ่งเราก็เอามาปรับจังหวะให้น่ารักๆ ต่างจากต้นฉบับที่จะซึ้งๆ พอโพสต์ไปคนก็ชอบ ช่วงนั้นเพลงนี้กำลังดังด้วย คนเลยติดตามเยอะขึ้น ทำให้เรามีกำลังใจมากขึ้น หลังจากนั้นเอ๋ยก็ Cover เพลงลงเรื่อยๆ เลยค่ะ
• อะไรคือจุดเด่นที่ทำให้เอ๋ยเอ้ยแตกต่างจากนักร้อง Cover คนอื่น จนมีแฟนคลับมากมายขนาดนี้
เวลาที่เอ๋ย Cover เพลง เอ๋ยจะชอบเปลี่ยนให้เป็นแนวของตัวเอง และสื่อสารออกมาในแบบฉบับของเรา เอ๋ยจะชอบเอามาปรับใหม่ ทำใหม่ ให้สดใส ชิลๆ น่ารักๆ ฟังสบายๆ เพราะเอ๋ยคิดว่ามันเหมาะกับคาแรกเตอร์ของเสียงเราด้วย ซึ่งเอ๋ยจะทำเฉพาะเพลงที่ตัวเองชอบ ไม่ได้ทำไปตามกระแสว่าช่วงนี้เพลงไหนดัง ใน YouTube ช่อง ‘Aueyauey เอ๋ยเอ้ย’ ก็เลยจะมีทั้งเพลงใหม่และเพลงเก่าปะปนกันไป แนวตามใจฉันเลยค่ะ
เพลงที่ยากมากๆ ที่ Cover มา น่าจะเป็นเพลง ‘ธารารัตน์’ ของ ยังโอม ค่ะ คือเพลงเขาดังมากเลย ออกมาปุ๊บยอดวิวเป็นหลายสิบล้านวิวเลย เราเลยลองเข้าไปฟังดู แล้วรู้สึกชอบ คิดว่าถ้าเอามาทำเป็นเวอร์ชันน่ารักน่าจะดีนะ เพราะถ้าให้ไปแรปแบบน้องเขา คงไม่ใช่เลยเอามาทำใหม่เป็นเวอร์ชันชิลๆ อยากลองดูว่าถ้าเป็นเวอร์ชันเรา จะทำได้ไหม ซึ่งพอทำออกมาคนก็ชอบนะคะ เหมือนเขาเห็นว่าแปลกดี แต่ก็มีบางคนที่ไม่เข้าใจ ว่าทำไมร้องไม่เหมือนต้นฉบับ ร้องเพี้ยนหรือเปล่า ทำไมไม่ตรงจังหวะ ไม่ตรงคีย์เลย ซึ่งเอ๋ยก็จะเขียนไว้เหมือนกันค่ะว่าเอ๋ยเอามาเปลี่ยนโน้ต ให้เป็นสไตล์เอ๋ยนะ อะไรทำนองนี้ เพราะกลัวว่าเจ้าของเพลงเขาจะว่าเราเอาเพลงเขามาปู้ยี้ปู้ยำหรือเปล่าเหมือนกัน (หัวเราะ)

• มีคนยกให้เป็นเน็ตไอดอลไปแล้ว
‘เน็ตไอดอล’ เวลาที่ได้ยินคำนี้ก็เขินๆ นะคะ เราไม่รู้ว่าเราดังถึงขนาดเป็นเน็ตไอดอลไหม พอมีคนพูดมาแบบนี้ก็ดีใจ แล้วก็น้อมรับค่ะ แต่เอ๋ยไม่รู้ว่านิยามคำนี้คืออะไรนะคะ แค่รู้สึกว่าการที่เอ๋ยมาทำตรงนี้ทำให้เรามีคนรู้จักมากขึ้น มีคนชื่นชอบ เราคงเป็นอะไรสักอย่างที่ทำให้เขามีความสุขได้
อย่างมีน้องๆ บางคนบอกว่าเอ๋ยเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เขามาเล่นกีตาร์ ทำให้เขากลับมาร้องเพลง เล่นดนตรี แค่นี้เอ๋ยก็มีความสุข แฮปปี้กับการทำงานแล้วค่ะ
• นอกจากร้องเพลงยังเล่นเครื่องดนตรีได้หลายชนิด ทั้งอูคูเลเล่ กีตาร์ และคีย์บอร์ด
เอ๋ยเล่นเครื่องดนตรีจริงๆ อีกทีก็คงเป็นตอนมหาวิทยาลัยค่ะ ซึ่งเริ่มจากเล่นอูคูเลเล่ก่อนค่ะ เพราะช่วงนั้น น้องนท เดอะสตาร์ กำลังดัง และอูคูเลเล่กำลังดังด้วย ซึ่งเอ๋ยก็เล็งอูคูเลเล่มานานแล้ว เดินผ่านตามร้านเครื่องดนตรีเห็นแล้วน่ารักดีก็เลยอยากได้ แต่ช่วงนั้นยูทูปยังไม่มีคลิปสอนว่าต้องเล่นยังไง เลยไม่รู้จะเริ่มยังไง แต่พอน้องนทดังก็เริ่มมีพี่ๆ หลายคนทำคลิปออกมาสอนว่าคอร์ดเป็นยังไง ต้องจูนสายก่อนนะ แล้วก็มีพวกคอร์ดเฉพาะของอูคูเลเล่ เราก็เลยฝึกเล่นออนไลน์ ครูพักลักจำคนอื่นมาบ้างซึ่งนั่นก็เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เอ๋ยเล่นเครื่องดนตรีไปด้วยและร้องเพลงไปด้วยค่ะ
พอเล่นอูคูเลเล่ได้ เอ๋ยก็เลยสนุก เพราะมันง่ายสำหรับเราด้วย อย่างคอร์ด C จับแค่นิ้วเดียวเอง คอร์ด F ในกีตาร์มันต้องมีคอร์ดทาบ แต่อูคูเลเล่ไม่มี เลยง่ายกว่า เราเลยลองเล่นในคอร์ดอื่น ลองเล่นในจังหวะอื่นบ้าง พลิกแพลงไปเรื่อยๆ จึงได้มาอัดคลิปลงโซเชียลมีเดียค่ะ
ส่วนกีตาร์เอ๋ยเล่นหลังจากอูคูเลเล่ค่ะ แต่จริงๆ เอ๋ยมีโอกาสได้ลองเล่นกีตาร์โปร่งตัวใหญ่ๆ เมื่อตอน ม.4 เพราะเป็นวิชาเรียนด้วย แต่ตอนนั้นไม่ได้มีความรู้เท่าไหร่ แล้วพอเล่นไปเรื่อยๆ ก็ต้องเลิกเล่น และพักไป เพราะว่าเจ็บนิ้ว แต่จู่ๆ วันหนึ่งเอ๋ยก็นึกอยากเล่นกีตาร์ขึ้นมา จากที่ตอนมัธยมปลายเราท้อใจไปแล้ว ตั้งสายอะไรก็ทำไม่เป็น แต่พอผ่านอูคูเลเล่มาแล้วก็เลยรู้แล้วว่าจะต้องตั้งสายก่อน ไม่อย่างนั้นดีดคอร์ดแล้วจะแป้ก จะไม่เพราะ เหมือนเรามีพื้นฐาน รู้แล้วว่าต้องทำยังไงต่อ บวกกับที่เอ๋ยมีกีตาร์คลาสสิกอยู่ที่บ้าน สายจะนิ่มหน่อย เอ๋ยเลยลองเอากีตาร์กลับมาเล่น ดีดคอร์ดง่ายๆ ดูก่อน แต่ช่วงนั้นเอ๋ยยังเล่นอูคูเลเล่อยู่นะคะ ยังไม่ได้เล่นกีตาร์จริงจัง
เอ๋ยเพิ่งมาเล่นกีตาร์จริงจังเมื่อ 2-3 ปีนี้เองค่ะ เพราะเอ๋ยจัดรายการทางแอปพลิเคชันออนไลน์ แล้วอยากเล่นเครื่องดนตรีที่เล่นได้เต็มขึ้น หลังจากนั้นก็เล่นกีตาร์แทนยาวเลยค่ะ (หัวเราะ)
ส่วนคีย์บอร์ด ถ้าใครได้ดูในยูทูปจะเห็นเอ๋ยเล่นคีย์บอร์ดด้วย แต่ก็ไม่ได้เล่นเก่งอะไรขนาดนั้น แค่พอเล่นได้เพื่อให้เข้ากับเพลงของเรา อย่างบางเพลงถ้ามีคีย์บอร์ดเข้ามาเพลงจะน่ารักขึ้น เอ๋ยเลยจะหยิบมาเล่นในบางเพลงค่ะ

• มีผลงานเพลงของตัวเอง
ซิงเกิลแรกของเอ๋ยชื่อเพลงว่า ‘ออมยิ้ม’ ค่ะ เพลงนี้จะร้องเพลงและเล่นอูคูเลเล่ด้วย เป็นเพลงที่พี่ในแก๊งที่รู้จักกันเขาแต่งขึ้นมาเพื่อเป็นของขวัญวันแต่งงานให้กับเพื่อนในแก๊ง แล้วเขาก็ชวนเอ๋ยมาร้อง ซึ่งเอ๋ยฟังแล้วชอบก็เลยมาร้อง แล้วเอ๋ยก็รู้จักกับพี่ที่เขาแต่งงานด้วย มันเหมือนเป็นเพลงที่ส่งต่อความรักให้กัน อีกอย่างเรารู้สึกว่ามันเป็นเพลงที่เอามาร้องให้แฟนคลับได้ หรือมาร้องเล่นได้ ประมาณว่าเรามีความสุข เธอมีความสุขที่ได้เจอกันนะอะไรทำนองนี้ค่ะ
ส่วนซิงเกิลที่ 2 ที่เพิ่งปล่อยออกมาชื่อเพลงว่า ‘หลับฝันดี’ (Good Dream) ค่ะ อย่างหลับฝันดี จะเป็นเพลงที่ฟังแล้วเคลิ้ม ฟังแล้วจะได้หลับสบาย เพราะมีหลายคนบอกว่าฟังเสียงเราแล้วหลับฝันดี ก็เลยออกมาเป็นเพลงนี้ค่ะ (ยิ้ม)
• ฝากถึงคนที่มีความฝัน หรือมีเราเป็นไอดอลหน่อยค่ะ
ต้องบอกก่อนว่าเอ๋ยไม่ได้มองว่าตัวเองเก่งขนาดนั้นนะคะ แค่เราเป็นคนที่ร้องเพลงได้ เล่นกีตาร์ได้ และสื่อสารออกมาในแบบของตัวเอง มีบางคนมาถามว่าเราเล่นยังไงให้เก่ง เอ๋ยว่ามันอยู่ที่การซ้อมมากกว่า เหมือนเราโชคดีด้วยที่รู้จักกับนักดนตรีเก่งๆ เยอะ พอได้ไปเล่นกับเขา เราก็ซึมซับมา
อย่างพี่คนแรกที่เอ๋ยเล่นดนตรีด้วย คือ พี่ชิน ชินวุฒ พี่เขาเป็นทั้งนักร้อง นักแต่งเพลง และเขียนเพลงด้วย อีกคนก็คือ พี่เอ ภาดา ที่เป็นยูทูปเบอร์เหมือนกัน เราก็ได้ซึมซับวิธีเล่นจากพี่ๆ นี่แหละ เขาแนะนำเหมือนเป็นเพื่อนกันเลยค่ะ แต่ถามว่าเราได้นั่งเรียนจริงจังไหมก็ไม่ขนาดนั้น แต่ถ้าใครมีโอกาสได้ไปเรียน เอ๋ยว่าดีนะคะ จะได้รู้วิธีการที่ถูกต้องด้วย
ตั้งแต่ที่เอ๋ยทำ YouTube มา มีทั้งคนชื่นชม ชื่นชอบ และคนที่ไม่ชอบ อย่างน้องๆ บางคนร้องเพลงแล้วอาจโดนด่าว่าร้องไม่เพราะเลย หรือทำไมเล่นกีตาร์กากจังเลย เอ๋ยอยากบอกว่าเราอย่าเอาคำที่คนอื่นว่าเรา หรือติเตียนเรามาทำให้เราเลิกร้องเพลง อย่าเอาคำที่ทุกคนว่าเรามาหยุดยั้งสิ่งที่เราชอบ หรือสิ่งที่เราเป็น อย่างเอ๋ยจะไม่ค่อยคิดมากเท่าไรนะคะ แค่จะอ๋อเราน่าจะปรับหน่อยนะ หรือเพลงนี้เราร้องแบ๊วไปไหม คือเราจะเอาคำติมาฝึกฝน พัฒนาต่อยอดให้ดีขึ้น ดีกว่าที่เราจะเอามากดตัวเองให้ต่ำลงแล้วเลิกทำไป
อย่างช่วงตอนที่เปิดช่อง YouTube ใหม่ๆ ตอนนั้นยังเด็กอยู่ เอ๋ยก็เคยโดนคอมเมนต์เรื่องสำเนียง เรื่องเสียงร้องเหมือนกัน แต่ตอนนั้นเอ๋ยว่าเรายังเด็กเลยยังควบคุมเสียงตัวเองไม่ได้ อีกอย่างเราไม่ได้เรียนร้องเพลงมา ไม่รู้ว่าจะต้องร้องยังไงให้ถูกต้องหรือถูกใจทุกคน เราก็เลยเอามาปรับ ซึ่งช่วงนั้นที่เลิกทำ YouTube ไป เรื่องนี้ก็มีส่วนเหมือนกันนะคะ เหมือนเราเบื่อๆ แต่สุดท้ายเราก็จัดการกับความรู้สึกของตัวเองได้ด้วยการคิดบวก ต้องคิดบวกค่ะ อย่าไปคิดลบ เอ๋ยมองว่าการคิดลบมันไม่ได้ช่วยให้ชีวิตดีขึ้นเลย และต้องไม่หลอกตัวเองด้วย อันนี้สำคัญมาก เราต้องกำหนดจิตตัวเองว่าอย่าไปสนใจเลย แต่ไม่สนใจเลยก็ไม่ได้ อันไหนที่เขาติแล้วเป็นเรื่องจริงก็ต้องเอามาปรับ แต่อันไหนที่ไม่จริงก็ปล่อยไป ทุกอย่างมีทั้งคนชอบและคนที่ไม่ชอบ เอ๋ยจะลงมือทำให้มากกว่าคิด ไม่ใช่ห้ามคิดนะคะ คิดได้แต่ต้องลงมือทำให้มากกว่าด้วย ฉะนั้นปล่อยวาง แล้วก็ลงมือทำดีที่สุดค่ะ

เอ๋ย Cover เพลง ใน YouTube มาประมาณ 4-5 ปีแล้ว ตอนนี้เอ๋ยก็ลาออกจากงานประจำมาทำงานเป็นฟรีแลนซ์เต็มตัว หลักๆ เอ๋ยจะเป็นยูทูปเบอร์ แล้วก็มีรับงานร้องเพลงตามอีเวนต์ ตามร้านอาหารต่างๆ เป็นวีเจทางแอปพลิเคชันออนไลน์ และมีถ่ายแบบบ้างค่ะ
ส่วนงานเพลงเป้าหมายของเอ๋ย คือ ทำเพลงของตัวเองออกมาเรื่อยๆ อนาคตเป็นยังไงค่อยว่ากัน แค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เล่นไปเรื่อยๆ หาอะไรใหม่ๆ มาทำให้คนฟังสนุก มีความสุข แค่นี้ก็โอเคแล้วค่ะ
เอ๋ยมีโปรเจกต์ของตัวเองว่าภายในปีนี้เราอยากปล่อยเพลงที่เป็นเพลงของตัวเองให้แฟนคลับได้ฟัง ซึ่งเอ๋ยมีข้อกำหนดไว้ว่าอยากมีเพลงที่บ่งบอกตัวตนของเรา อยากมีเพลงที่ส่งทุกคนเข้านอน อยากมีเพลงเศร้า อยากมีเพลงหลายๆ แนว ซึ่งเดี๋ยวก็จะมีตามออกมาอีกเรื่อยๆ
ท้ายนี้เอ๋ยขอฝากผลงานเพลง ‘ออมยิ้ม’ และ ‘หลับฝันดี’ (Good Dream) และอย่าลืมกดติดตามใน YouTube ช่อง ‘Aueyauey เอ๋ยเอ้ย’ ด้วยนะคะ หวังว่าทุกคนจะมีความสุขกับการฟังเพลงค่ะ

รู้จัก เอ๋ยเอ้ย-กมลรวี
นิยามความเป็น...เอ๋ยเอ้ย
พูดถึงเอ๋ยเอ้ยน่าจะเป็นช่องที่สร้างความสุข ให้ความสบายใจแก่ผู้คนที่เข้ามาฟัง ถ้าเปรียบเทียบเป็นสิ่งของอาจจะเป็นวันหยุดที่ทุกคนนอนสบายๆ แล้วฟังเพลง หรือวันธรรมดาที่ทุกคนเหนื่อยล้าจากการทำงานแล้วมาฟังเพลงของเราแล้วก็หลับไปด้วยกัน
สิ่งที่เอ๋ยเอ้ยขาดไม่ได้
สิ่งที่ขาดไม่ในชีวิตประจำวันก็คงจะเป็นการเล่นดนตรีค่ะ ทุกวันนี้เอ๋ยเล่นดนตรีทุกวัน ไม่ใช่ว่าเล่นในร้านอย่างเดียวนะคะ แต่รวมถึงเราต้องเล่นใน Live หรือเล่นเฉยๆ ก็ได้ แต่ต้องเล่นทุกวัน ถ้าวันไหนไม่ได้เล่นดนตรี เราจะรู้สึกว่าเหมือนมันขาดอะไรในชีวิตไป เหมือนมันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้วค่ะ
ไอดอลของเอ๋ยเอ้ย
ไอดอลของเอ๋ยจะมีพี่อะตอม ชนกันต์ เอ๋ยชอบที่เขาเล่นกีตาร์ได้ ร้องเพลงได้ แต่งเพลงได้ด้วย แล้วเนื้อหาเพลงก็โดนใจด้วย นอกจากนี้ก็มีพี่ๆ วง Lipta และน้องนท เดอะสตาร์ ที่เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เอ๋ยเล่นอูคูเลเล่ค่ะ
ติดตามผลงานของ “เอ๋ยเอ้ย” ได้ที่
เพจ : Aueyauey เอ๋ยเอ้ย
เรื่อง : วรัญญา งามขำ
ภาพ : ปัญญพัฒน์ เข็มราช
สำหรับ ‘กมลรวี กอสัมพันธ์’ หรือ ‘เอ๋ยเอ้ย’ สาวนักกิจกรรมที่หลงใหลการร้องเพลงและเล่นดนตรีมาตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งเธอมักจะ Cover เพลงต่างๆ ลงบนสื่อโซเชียลมีเดียเป็นประจำจนทำให้คนรู้จักและติดตามเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดตอนนี้เธอยังมีซิงเกิลเป็นของตัวเองแล้ว กับเพลงชื่อว่า ‘ออมยิ้ม’ และ ‘หลับฝันดี’ (Good Dream) ซึ่งเธอมีโปรเจกต์ว่าภายในปีนี้อยากจะทำเพลงออกมาเรื่อยๆ เพราะเธอมีความสุขกับการร้องเพลง เลยอยากส่งต่อให้คนฟังมีความสุขเช่นเดียวกัน
• เส้นทางสายดนตรีของ "เอ๋ยเอ้ย"
ส่วนตัวเอ๋ยเรียนจบคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มาค่ะ ตอนนั้นด้วยความที่เราเป็นเด็กสายวิทย์ ที่บ้านก็อยากให้ไปทำงานในสายวิทย์ อยากให้เรียนเทคนิคการแพทย์ อยากให้ทำเกี่ยวกับพวกสาธารณสุข อยากให้ไปทางนั้นมากกว่า แต่เพราะเราชอบทำกิจกรรมมาตั้งแต่เด็ก ร้องเพลง เต้น เวลาโรงเรียนมีกีฬาสีก็เป็นดัมเมเยอร์บ้าง ถือป้ายบ้าง เป็นพิธีกรโรงเรียน เป็นกรรมการนักเรียน เป็นประธานนักเรียน คือเราทำมาหมด คนทั้งโรงเรียนรู้จักหมด เพราะเราบ้ากิจกรรมมาก ซึ่งเอ๋ยได้รางวัลเด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ ประจำปีการศึกษา 2553 ผลงานที่ทำมาเลยสามารถเอาพอร์ตไปยื่นได้ เอ๋ยเลยเอาพอร์ตนั้นไปยื่นที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตอนนั้นเขามีโครงการผู้มีความสามารถพิเศษทางการสื่อสารมวลชนด้วย ก็เลยคุยกับแม่ว่าถ้ายื่นพอร์ตไปแล้วติด ขอเรียนนะ แต่เราก็สอบคณะอื่นให้แม่ด้วยค่ะ ผลปรากฏว่าติด ก็ติดหลายคณะ แต่ที่บ้านก็ทำตามสัญญา ยอมให้เรียนคณะการสื่อสารมวลชน คือเหมือนเขาคิดว่าเราดูแลตัวเองได้ อยากทำอะไรก็ทำได้เลย เต็มที่ได้เลย
พอเข้ามหาวิทยาลัย เอ๋ยก็ยังทำกิจกรรมอยู่เรื่อยๆ นะคะ แต่ถ้าถามว่าแล้วมาเริ่มร้องเพลงตั้งแต่เมื่อไหร่ จริงๆ ตั้งแต่จำความได้เอ๋ยก็เริ่มร้องเพลงแล้วค่ะ แต่ถ้าร้องเพลงจริงจังจะเป็นช่วงมัธยมปลาย ตอนนั้นเอ๋ยได้เป็นนักร้องของโรงเรียน เพราะรุ่นพี่ที่เขาเป็นนักร้องอยู่ เรียนจบพอดี ครูจึงมาชวนเอ๋ย ซึ่งน่าจะเป็นเพราะดวงด้วย (หัวเราะ) เอ๋ยเลยได้มาเป็นนักร้องของโรงเรียน และก็เริ่มร้องเพลงเป็นหลัก แต่ยังไม่ได้เล่นดนตรีค่ะ
เวทีแรกที่ได้ร้องเพลงก็คือ “งานแต่งงาน” สมัยนั้นเพลงคุณลำไย ของพี่ลูกนก สุภาพร กำลังดัง เลยได้เอาเพลงนี้มาร้อง เป็นเพลงแรกที่ขึ้นเวทีเลยค่ะ
ถามว่าอาชีพนักร้อง นักดนตรี เป็นความฝันไหม แรกๆ ก็ไม่ใช่นะคะ ตอนเด็กๆ รู้แต่ว่าตัวเองชอบแสดงออก แล้วรู้สึกว่าอยากทำงานอะไรก็ได้ในวงการบันเทิง แต่พอโตขึ้นเราก็ยังไม่รู้ว่าอยากทำอะไร พอทำแบบหว่านแหไปปรากฏว่ามีคนชอบ แล้วบังเอิญก็เป็นสิ่งที่เราชอบเหมือนกัน เลยทำให้ต่อยอดไปได้
ความจริงก่อนหน้านี้พอเรียนจบมา เอ๋ยได้ไปทำงานประจำอยู่สักพักหนึ่ง งานประจำแรกเป็นก๊อบปี้ไรเตอร์อยู่ที่ค่ายเพลง จากนั้นบริษัทเขามีการเปลี่ยนแปลง แล้วเราทำงานเบื้องหลังมาก็รู้สึกอยากทำเบื้องหน้าบ้าง เอ๋ยเลยเปลี่ยนงานมาทำครีเอทีฟรายการทีวีแทน ซึ่งสายครีเอทีฟต้องทำงานตลอดเวลา เข้าเช้าเลิกดึก จนเรามาคิดกับตัวเองว่าเราไม่มีเวลาสานต่อความฝันของตัวเองเลย อีกห้าปีสิบปีข้างหน้าเราไม่ได้อยากจะเป็นผู้กำกับดีเด่น เป็นครีเอทีฟดีเด่น หรือโปรดิวเซอร์มือทองอะไรขนาดนั้น แล้วช่วงนั้นเป็นช่วงที่เอ๋ย Cover เพลงลงโซเชียลฯ แล้วด้วย ก็เลยคิดว่าเราน่าจะออกมาทำอะไรที่อยากทำดีกว่า
พอร้องเพลงไปได้สักพักเอ๋ยก็ได้มาคัฟเวอร์เพลงบน YouTube ซึ่งส่วนตัวเอ๋ยเคยคัฟเวอร์อูคูเลเล่เอาไว้ แต่ไม่ได้จริงจัง ทำให้เราหายไปช่วงหนึ่งแล้วก็กลับมาอีกทีตอนเรียนจบ และเริ่มทำงานแล้ว ซึ่งพี่ๆ ที่ทำงานเขาก็บอกว่าทำไมไม่ลองร้องลงเพลงลงใน YouTube ไปเลยล่ะ เอ๋ยเลยได้ลองดูอีกครั้ง เพราะช่วงนั้นคนก็เริ่มติดตามเยอะแล้วด้วย
ช่วงแรกที่จะทำเพลงลง YouTube การเล่นของเราก็ยังก๊องแก๊งอยู่ เอ๋ยเลยลองปรับไปเรื่อยๆ ให้เป็นสไตล์เรา จนมีทักษะมากขึ้น แม่นเรื่องคอร์ดมากขึ้น หลังจากนั้นก็เลยตัดสินใจทำลง YouTube ค่ะ
เพลงแรกที่ลง YouTube คือเพลง “คู่ชีวิต” ของ Cocktail ฉบับอูคูเลเล่ ซึ่งเราก็เอามาปรับจังหวะให้น่ารักๆ ต่างจากต้นฉบับที่จะซึ้งๆ พอโพสต์ไปคนก็ชอบ ช่วงนั้นเพลงนี้กำลังดังด้วย คนเลยติดตามเยอะขึ้น ทำให้เรามีกำลังใจมากขึ้น หลังจากนั้นเอ๋ยก็ Cover เพลงลงเรื่อยๆ เลยค่ะ
• อะไรคือจุดเด่นที่ทำให้เอ๋ยเอ้ยแตกต่างจากนักร้อง Cover คนอื่น จนมีแฟนคลับมากมายขนาดนี้
เวลาที่เอ๋ย Cover เพลง เอ๋ยจะชอบเปลี่ยนให้เป็นแนวของตัวเอง และสื่อสารออกมาในแบบฉบับของเรา เอ๋ยจะชอบเอามาปรับใหม่ ทำใหม่ ให้สดใส ชิลๆ น่ารักๆ ฟังสบายๆ เพราะเอ๋ยคิดว่ามันเหมาะกับคาแรกเตอร์ของเสียงเราด้วย ซึ่งเอ๋ยจะทำเฉพาะเพลงที่ตัวเองชอบ ไม่ได้ทำไปตามกระแสว่าช่วงนี้เพลงไหนดัง ใน YouTube ช่อง ‘Aueyauey เอ๋ยเอ้ย’ ก็เลยจะมีทั้งเพลงใหม่และเพลงเก่าปะปนกันไป แนวตามใจฉันเลยค่ะ
เพลงที่ยากมากๆ ที่ Cover มา น่าจะเป็นเพลง ‘ธารารัตน์’ ของ ยังโอม ค่ะ คือเพลงเขาดังมากเลย ออกมาปุ๊บยอดวิวเป็นหลายสิบล้านวิวเลย เราเลยลองเข้าไปฟังดู แล้วรู้สึกชอบ คิดว่าถ้าเอามาทำเป็นเวอร์ชันน่ารักน่าจะดีนะ เพราะถ้าให้ไปแรปแบบน้องเขา คงไม่ใช่เลยเอามาทำใหม่เป็นเวอร์ชันชิลๆ อยากลองดูว่าถ้าเป็นเวอร์ชันเรา จะทำได้ไหม ซึ่งพอทำออกมาคนก็ชอบนะคะ เหมือนเขาเห็นว่าแปลกดี แต่ก็มีบางคนที่ไม่เข้าใจ ว่าทำไมร้องไม่เหมือนต้นฉบับ ร้องเพี้ยนหรือเปล่า ทำไมไม่ตรงจังหวะ ไม่ตรงคีย์เลย ซึ่งเอ๋ยก็จะเขียนไว้เหมือนกันค่ะว่าเอ๋ยเอามาเปลี่ยนโน้ต ให้เป็นสไตล์เอ๋ยนะ อะไรทำนองนี้ เพราะกลัวว่าเจ้าของเพลงเขาจะว่าเราเอาเพลงเขามาปู้ยี้ปู้ยำหรือเปล่าเหมือนกัน (หัวเราะ)
• มีคนยกให้เป็นเน็ตไอดอลไปแล้ว
‘เน็ตไอดอล’ เวลาที่ได้ยินคำนี้ก็เขินๆ นะคะ เราไม่รู้ว่าเราดังถึงขนาดเป็นเน็ตไอดอลไหม พอมีคนพูดมาแบบนี้ก็ดีใจ แล้วก็น้อมรับค่ะ แต่เอ๋ยไม่รู้ว่านิยามคำนี้คืออะไรนะคะ แค่รู้สึกว่าการที่เอ๋ยมาทำตรงนี้ทำให้เรามีคนรู้จักมากขึ้น มีคนชื่นชอบ เราคงเป็นอะไรสักอย่างที่ทำให้เขามีความสุขได้
อย่างมีน้องๆ บางคนบอกว่าเอ๋ยเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เขามาเล่นกีตาร์ ทำให้เขากลับมาร้องเพลง เล่นดนตรี แค่นี้เอ๋ยก็มีความสุข แฮปปี้กับการทำงานแล้วค่ะ
• นอกจากร้องเพลงยังเล่นเครื่องดนตรีได้หลายชนิด ทั้งอูคูเลเล่ กีตาร์ และคีย์บอร์ด
เอ๋ยเล่นเครื่องดนตรีจริงๆ อีกทีก็คงเป็นตอนมหาวิทยาลัยค่ะ ซึ่งเริ่มจากเล่นอูคูเลเล่ก่อนค่ะ เพราะช่วงนั้น น้องนท เดอะสตาร์ กำลังดัง และอูคูเลเล่กำลังดังด้วย ซึ่งเอ๋ยก็เล็งอูคูเลเล่มานานแล้ว เดินผ่านตามร้านเครื่องดนตรีเห็นแล้วน่ารักดีก็เลยอยากได้ แต่ช่วงนั้นยูทูปยังไม่มีคลิปสอนว่าต้องเล่นยังไง เลยไม่รู้จะเริ่มยังไง แต่พอน้องนทดังก็เริ่มมีพี่ๆ หลายคนทำคลิปออกมาสอนว่าคอร์ดเป็นยังไง ต้องจูนสายก่อนนะ แล้วก็มีพวกคอร์ดเฉพาะของอูคูเลเล่ เราก็เลยฝึกเล่นออนไลน์ ครูพักลักจำคนอื่นมาบ้างซึ่งนั่นก็เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เอ๋ยเล่นเครื่องดนตรีไปด้วยและร้องเพลงไปด้วยค่ะ
พอเล่นอูคูเลเล่ได้ เอ๋ยก็เลยสนุก เพราะมันง่ายสำหรับเราด้วย อย่างคอร์ด C จับแค่นิ้วเดียวเอง คอร์ด F ในกีตาร์มันต้องมีคอร์ดทาบ แต่อูคูเลเล่ไม่มี เลยง่ายกว่า เราเลยลองเล่นในคอร์ดอื่น ลองเล่นในจังหวะอื่นบ้าง พลิกแพลงไปเรื่อยๆ จึงได้มาอัดคลิปลงโซเชียลมีเดียค่ะ
ส่วนกีตาร์เอ๋ยเล่นหลังจากอูคูเลเล่ค่ะ แต่จริงๆ เอ๋ยมีโอกาสได้ลองเล่นกีตาร์โปร่งตัวใหญ่ๆ เมื่อตอน ม.4 เพราะเป็นวิชาเรียนด้วย แต่ตอนนั้นไม่ได้มีความรู้เท่าไหร่ แล้วพอเล่นไปเรื่อยๆ ก็ต้องเลิกเล่น และพักไป เพราะว่าเจ็บนิ้ว แต่จู่ๆ วันหนึ่งเอ๋ยก็นึกอยากเล่นกีตาร์ขึ้นมา จากที่ตอนมัธยมปลายเราท้อใจไปแล้ว ตั้งสายอะไรก็ทำไม่เป็น แต่พอผ่านอูคูเลเล่มาแล้วก็เลยรู้แล้วว่าจะต้องตั้งสายก่อน ไม่อย่างนั้นดีดคอร์ดแล้วจะแป้ก จะไม่เพราะ เหมือนเรามีพื้นฐาน รู้แล้วว่าต้องทำยังไงต่อ บวกกับที่เอ๋ยมีกีตาร์คลาสสิกอยู่ที่บ้าน สายจะนิ่มหน่อย เอ๋ยเลยลองเอากีตาร์กลับมาเล่น ดีดคอร์ดง่ายๆ ดูก่อน แต่ช่วงนั้นเอ๋ยยังเล่นอูคูเลเล่อยู่นะคะ ยังไม่ได้เล่นกีตาร์จริงจัง
เอ๋ยเพิ่งมาเล่นกีตาร์จริงจังเมื่อ 2-3 ปีนี้เองค่ะ เพราะเอ๋ยจัดรายการทางแอปพลิเคชันออนไลน์ แล้วอยากเล่นเครื่องดนตรีที่เล่นได้เต็มขึ้น หลังจากนั้นก็เล่นกีตาร์แทนยาวเลยค่ะ (หัวเราะ)
ส่วนคีย์บอร์ด ถ้าใครได้ดูในยูทูปจะเห็นเอ๋ยเล่นคีย์บอร์ดด้วย แต่ก็ไม่ได้เล่นเก่งอะไรขนาดนั้น แค่พอเล่นได้เพื่อให้เข้ากับเพลงของเรา อย่างบางเพลงถ้ามีคีย์บอร์ดเข้ามาเพลงจะน่ารักขึ้น เอ๋ยเลยจะหยิบมาเล่นในบางเพลงค่ะ
• มีผลงานเพลงของตัวเอง
ซิงเกิลแรกของเอ๋ยชื่อเพลงว่า ‘ออมยิ้ม’ ค่ะ เพลงนี้จะร้องเพลงและเล่นอูคูเลเล่ด้วย เป็นเพลงที่พี่ในแก๊งที่รู้จักกันเขาแต่งขึ้นมาเพื่อเป็นของขวัญวันแต่งงานให้กับเพื่อนในแก๊ง แล้วเขาก็ชวนเอ๋ยมาร้อง ซึ่งเอ๋ยฟังแล้วชอบก็เลยมาร้อง แล้วเอ๋ยก็รู้จักกับพี่ที่เขาแต่งงานด้วย มันเหมือนเป็นเพลงที่ส่งต่อความรักให้กัน อีกอย่างเรารู้สึกว่ามันเป็นเพลงที่เอามาร้องให้แฟนคลับได้ หรือมาร้องเล่นได้ ประมาณว่าเรามีความสุข เธอมีความสุขที่ได้เจอกันนะอะไรทำนองนี้ค่ะ
ส่วนซิงเกิลที่ 2 ที่เพิ่งปล่อยออกมาชื่อเพลงว่า ‘หลับฝันดี’ (Good Dream) ค่ะ อย่างหลับฝันดี จะเป็นเพลงที่ฟังแล้วเคลิ้ม ฟังแล้วจะได้หลับสบาย เพราะมีหลายคนบอกว่าฟังเสียงเราแล้วหลับฝันดี ก็เลยออกมาเป็นเพลงนี้ค่ะ (ยิ้ม)
• ฝากถึงคนที่มีความฝัน หรือมีเราเป็นไอดอลหน่อยค่ะ
ต้องบอกก่อนว่าเอ๋ยไม่ได้มองว่าตัวเองเก่งขนาดนั้นนะคะ แค่เราเป็นคนที่ร้องเพลงได้ เล่นกีตาร์ได้ และสื่อสารออกมาในแบบของตัวเอง มีบางคนมาถามว่าเราเล่นยังไงให้เก่ง เอ๋ยว่ามันอยู่ที่การซ้อมมากกว่า เหมือนเราโชคดีด้วยที่รู้จักกับนักดนตรีเก่งๆ เยอะ พอได้ไปเล่นกับเขา เราก็ซึมซับมา
อย่างพี่คนแรกที่เอ๋ยเล่นดนตรีด้วย คือ พี่ชิน ชินวุฒ พี่เขาเป็นทั้งนักร้อง นักแต่งเพลง และเขียนเพลงด้วย อีกคนก็คือ พี่เอ ภาดา ที่เป็นยูทูปเบอร์เหมือนกัน เราก็ได้ซึมซับวิธีเล่นจากพี่ๆ นี่แหละ เขาแนะนำเหมือนเป็นเพื่อนกันเลยค่ะ แต่ถามว่าเราได้นั่งเรียนจริงจังไหมก็ไม่ขนาดนั้น แต่ถ้าใครมีโอกาสได้ไปเรียน เอ๋ยว่าดีนะคะ จะได้รู้วิธีการที่ถูกต้องด้วย
ตั้งแต่ที่เอ๋ยทำ YouTube มา มีทั้งคนชื่นชม ชื่นชอบ และคนที่ไม่ชอบ อย่างน้องๆ บางคนร้องเพลงแล้วอาจโดนด่าว่าร้องไม่เพราะเลย หรือทำไมเล่นกีตาร์กากจังเลย เอ๋ยอยากบอกว่าเราอย่าเอาคำที่คนอื่นว่าเรา หรือติเตียนเรามาทำให้เราเลิกร้องเพลง อย่าเอาคำที่ทุกคนว่าเรามาหยุดยั้งสิ่งที่เราชอบ หรือสิ่งที่เราเป็น อย่างเอ๋ยจะไม่ค่อยคิดมากเท่าไรนะคะ แค่จะอ๋อเราน่าจะปรับหน่อยนะ หรือเพลงนี้เราร้องแบ๊วไปไหม คือเราจะเอาคำติมาฝึกฝน พัฒนาต่อยอดให้ดีขึ้น ดีกว่าที่เราจะเอามากดตัวเองให้ต่ำลงแล้วเลิกทำไป
อย่างช่วงตอนที่เปิดช่อง YouTube ใหม่ๆ ตอนนั้นยังเด็กอยู่ เอ๋ยก็เคยโดนคอมเมนต์เรื่องสำเนียง เรื่องเสียงร้องเหมือนกัน แต่ตอนนั้นเอ๋ยว่าเรายังเด็กเลยยังควบคุมเสียงตัวเองไม่ได้ อีกอย่างเราไม่ได้เรียนร้องเพลงมา ไม่รู้ว่าจะต้องร้องยังไงให้ถูกต้องหรือถูกใจทุกคน เราก็เลยเอามาปรับ ซึ่งช่วงนั้นที่เลิกทำ YouTube ไป เรื่องนี้ก็มีส่วนเหมือนกันนะคะ เหมือนเราเบื่อๆ แต่สุดท้ายเราก็จัดการกับความรู้สึกของตัวเองได้ด้วยการคิดบวก ต้องคิดบวกค่ะ อย่าไปคิดลบ เอ๋ยมองว่าการคิดลบมันไม่ได้ช่วยให้ชีวิตดีขึ้นเลย และต้องไม่หลอกตัวเองด้วย อันนี้สำคัญมาก เราต้องกำหนดจิตตัวเองว่าอย่าไปสนใจเลย แต่ไม่สนใจเลยก็ไม่ได้ อันไหนที่เขาติแล้วเป็นเรื่องจริงก็ต้องเอามาปรับ แต่อันไหนที่ไม่จริงก็ปล่อยไป ทุกอย่างมีทั้งคนชอบและคนที่ไม่ชอบ เอ๋ยจะลงมือทำให้มากกว่าคิด ไม่ใช่ห้ามคิดนะคะ คิดได้แต่ต้องลงมือทำให้มากกว่าด้วย ฉะนั้นปล่อยวาง แล้วก็ลงมือทำดีที่สุดค่ะ
เอ๋ย Cover เพลง ใน YouTube มาประมาณ 4-5 ปีแล้ว ตอนนี้เอ๋ยก็ลาออกจากงานประจำมาทำงานเป็นฟรีแลนซ์เต็มตัว หลักๆ เอ๋ยจะเป็นยูทูปเบอร์ แล้วก็มีรับงานร้องเพลงตามอีเวนต์ ตามร้านอาหารต่างๆ เป็นวีเจทางแอปพลิเคชันออนไลน์ และมีถ่ายแบบบ้างค่ะ
ส่วนงานเพลงเป้าหมายของเอ๋ย คือ ทำเพลงของตัวเองออกมาเรื่อยๆ อนาคตเป็นยังไงค่อยว่ากัน แค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เล่นไปเรื่อยๆ หาอะไรใหม่ๆ มาทำให้คนฟังสนุก มีความสุข แค่นี้ก็โอเคแล้วค่ะ
เอ๋ยมีโปรเจกต์ของตัวเองว่าภายในปีนี้เราอยากปล่อยเพลงที่เป็นเพลงของตัวเองให้แฟนคลับได้ฟัง ซึ่งเอ๋ยมีข้อกำหนดไว้ว่าอยากมีเพลงที่บ่งบอกตัวตนของเรา อยากมีเพลงที่ส่งทุกคนเข้านอน อยากมีเพลงเศร้า อยากมีเพลงหลายๆ แนว ซึ่งเดี๋ยวก็จะมีตามออกมาอีกเรื่อยๆ
ท้ายนี้เอ๋ยขอฝากผลงานเพลง ‘ออมยิ้ม’ และ ‘หลับฝันดี’ (Good Dream) และอย่าลืมกดติดตามใน YouTube ช่อง ‘Aueyauey เอ๋ยเอ้ย’ ด้วยนะคะ หวังว่าทุกคนจะมีความสุขกับการฟังเพลงค่ะ
รู้จัก เอ๋ยเอ้ย-กมลรวี
นิยามความเป็น...เอ๋ยเอ้ย
พูดถึงเอ๋ยเอ้ยน่าจะเป็นช่องที่สร้างความสุข ให้ความสบายใจแก่ผู้คนที่เข้ามาฟัง ถ้าเปรียบเทียบเป็นสิ่งของอาจจะเป็นวันหยุดที่ทุกคนนอนสบายๆ แล้วฟังเพลง หรือวันธรรมดาที่ทุกคนเหนื่อยล้าจากการทำงานแล้วมาฟังเพลงของเราแล้วก็หลับไปด้วยกัน
สิ่งที่เอ๋ยเอ้ยขาดไม่ได้
สิ่งที่ขาดไม่ในชีวิตประจำวันก็คงจะเป็นการเล่นดนตรีค่ะ ทุกวันนี้เอ๋ยเล่นดนตรีทุกวัน ไม่ใช่ว่าเล่นในร้านอย่างเดียวนะคะ แต่รวมถึงเราต้องเล่นใน Live หรือเล่นเฉยๆ ก็ได้ แต่ต้องเล่นทุกวัน ถ้าวันไหนไม่ได้เล่นดนตรี เราจะรู้สึกว่าเหมือนมันขาดอะไรในชีวิตไป เหมือนมันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้วค่ะ
ไอดอลของเอ๋ยเอ้ย
ไอดอลของเอ๋ยจะมีพี่อะตอม ชนกันต์ เอ๋ยชอบที่เขาเล่นกีตาร์ได้ ร้องเพลงได้ แต่งเพลงได้ด้วย แล้วเนื้อหาเพลงก็โดนใจด้วย นอกจากนี้ก็มีพี่ๆ วง Lipta และน้องนท เดอะสตาร์ ที่เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เอ๋ยเล่นอูคูเลเล่ค่ะ
ติดตามผลงานของ “เอ๋ยเอ้ย” ได้ที่
เพจ : Aueyauey เอ๋ยเอ้ย
เรื่อง : วรัญญา งามขำ
ภาพ : ปัญญพัฒน์ เข็มราช