มาทำความรู้จักกับ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย หนึ่งเดียวที่ตัดสินใจงดออกเสียง ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี พบเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจังหวัด และเป็นนายทุนให้กับภาพยนตร์ "ไทบ้านเดอะซีรีส์" ที่มีชื่อเสียงไปทั่วภาคอีสาน
ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อลงมติเลือกบุคคลขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จากพรรคพลังประชารัฐ และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จากพรรคอนาคตใหม่ ปรากฎว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย ด้วยคะแนน 500 ต่อ 244 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง
โดยพบว่านอกจากนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ที่งดออกเสียงตามมารยาททางการเมืองแล้ว ที่สร้างเซอร์ไพร์สก็คือ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย ประกาศงดออกเสียง สร้างความฮือฮาแก่สังคม
ภายหลังการลงมติงดออกเสียง รายงานข่าวแจ้งว่า นายสิริพงศ์ได้นั่งร้องไห้อยู่ภายในห้องประชุม โดยมีเพื่อน ส.ส. อาทิ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ คอยตบไหล่ปลอบใจ ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ลงมติเลือก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ยอมรับไม่ทราบมาก่อนว่า นายสิริพงศ์จะงดออกเสียง แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบการพูดคุยเก้าอี้ร่วมรัฐบาล ย้ำว่าถือเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. ซึ่งเบื้องต้นนายสิริพงษ์ออกมาขอโทษแล้ว
สำหรับนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ หรือ เสี่ยโต้ง เกิดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2519 ปัจจุบันอายุ 43 ปี จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต, ปริญญาโท สาขาการจัดการระบบสารสนเทศ (MIS) มหาวิทยาลัยโคโลราโด เดนเวอร์ สหรัฐอเมริกา ล่าสุด ปริญญาเอก สาขาเกษตรเขตร้อน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
แต่เดิมครอบครัวทำอาชีพโรงสีไฟ แต่เมื่อปี 2534 ประสบภาวะขาดทุน จึงหันมาประกอบธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้าง จำหน่ายคอนกรีตผสมเสร็จ รายเดียวในจังหวัดศรีสะเกษ กิจการเติบโตตามลำดับ ครอบครัวมีฐานะดีขึ้น ก่อนที่บิดาจะสนับสนุนให้นายสิริพงศ์เรียนทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
หลังเรียนจบ นายสิริพงศ์ทำงานที่บริษัทที่ปรึกษาออกแบบถนนของกรมทางหลวงชนบทและกรมโยธาธิการ ก่อนตัดสินใจไปเรียนปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกา หลังเรียนจบ กลับมาสานต่อโครงการบ้านจัดสรรของครอบครัวในจังหวัดศรีสะเกษ กระทั่งปิดโครงการสำเร็จ บิดาจึงนำกำไรมาซื้อที่ดินอีกแปลงหนึ่งให้เป็นสมบัติเพื่อต่อยอดธุรกิจ
นายสิริพงศ์จึงได้ก่อตั้ง ห้างหุ้นส่วนจำกัด สิริมงคลพร๊อพเพอร์ตี้ ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านเดี่ยว ทั้งหมด 7 โครงการ รวมกว่า 1 พันยูนิตในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ รวมทั้งทาวน์โฮมและอาคารพาณิชย์ ก่อนขยายธุรกิจบ้านจัดสรรไปยังพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี
นอกจากนี้ นายสิริพงศ์ ยังเคยทำธุรกิจอื่นอีก อาทิ โรงเรียนกวดวิชา ธุรกิจรถนำเข้า ร้านอาหารญี่ปุ่น ธุรกิจเฟรนส์ไชส์ ร้านกาแฟ รวมทั้งเป็นนายทุนให้กับภาพยนตร์เรื่อง ไทบ้านเดอะซีรีส์ ซึ่งมีนายสุรศักดิ์ ป้องศร เป็นผู้กำกับ โดยใช้จังหวัดศรีษะเกษเป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำ
นายสิริพงศ์ก้าวสู่การเมือง เป็น ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคชาติไทย เมื่อปี 2550 และเป็นกรรมการบริหารพรรคชาติไทย แต่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี ในคดียุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ปี 2551 (บ้านเลขที่ 109) กระทั่งพ้นโทษ ถูกวางตัวเป็นถึงเลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา
แต่แล้ว นายสิริพงศ์ก็ย้ายสังกัดมาอยู่พรรคภูมิใจไทย ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2561 ก่อนที่จะลงสมัคร ส.ส. ศรีสะเกษ เขต 1 พรรคภูมิใจไทย ชนะนายธเนศ เครือรัตน์ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย กว่า 9.6 พันคะแนน เป็น ส.ส. สมัยที่ 2 ได้เป็นผลสำเร็จ
ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา นายสิริพงศ์ หาเสียงเลือกตั้งโดยชูการเป็นหัวหน้าทีมนำเสนอ ของจังหวัดศรีสะเกษ ในการเสนอตัวขอเป็นเมืองกีฬาและได้รับคัดเลือก เป็นคณะผู้ริเริ่มในการโปรโมตทุเรียนศรีสะเกษ เป็นทุเรียนภูเขาไฟ เคยเป็นประธานหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษตั้งแต่อายุ 32 ปี อายุน้อยที่สุดในประเทศไทยและได้รับรางวัล 4 ปีซ้อน
เป็นคนศรีสะเกษคนแรกที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นบอร์ดการกีฬาแห่งประเทศไทยในฐานะนายกสมาคมกีฬา เป็นผู้มีส่สนสำคัญในการผลักดันงบประมาณสร้างสนามกีฬาที่เกาะกลางน้ำและส่งเสริมด้านการกีฬาต่างๆ อย่างมากมาย
นอกจากนี้ ยังสร้างความฮือฮาในโลกโซเชียล ด้วยการเปิดรับสมัครผู้ช่วย ส.ส. ในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการ และผู้ช่วยดำเนินงาน จำนวน 4 คน จากทั้งหมด 8 คน โดยมีคุณสมบัตินอกจากเป็นคนบุคลิกภาพและทัศนคติดี เห็นเหมือนหรือต่างกันได้ แต่ต้องคุยกันรู้เรื่องแล้ว หนึ่งในนั้นคือ "ไม่รับเด็กฝาก ถ้าฝากใครมา ตัดชื่อทิ้ง" ทำเอาหลายฝ่ายยกย่องมาแล้ว