xs
xsm
sm
md
lg

สุขกับชีวิตคิดบวก แบบ “หมอมน” สัตวแพทย์หญิง วารีย์ ลิ้มรุ่งสุโข

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เธอคือ “หมอมน” หรือ “สัตวแพทย์หญิง วารีย์ ลิ้มรุ่งสุโข” โดย “หมอมน” เป็นเจ้าของคลินิก “หมอมนรักสัตว์” และเป็นสัตวแพทย์มากว่า 10 ปี อีกทั้งยังเป็นเจ้าของแฟนเพจ “เพื่อนซี้สี่ขา ประสาหมอมน” ที่มีคนติดตามมากกว่า 2 แสนคน

มาทำความรู้จักหมอมน สัตวแพทย์หญิงที่ไม่ได้มีดีแค่ฝีมือในการรักษาสัตว์ แต่เธอยังเป็นหมอคิดบวกที่มีความสุขกับการใช้ชีวิต และมีจิตใจอ่อนโยนมากๆ ด้วย


• ก่อนอื่นช่วยเล่าถึงเหตุการณ์ที่ช่วยทำคลอดทารกน้อยในวันนั้นหน่อยค่ะ

จากเหตุการณ์ที่ต้องเป็น “หมอสูติฯ เฉพาะกิจ” เพื่อช่วยชีวิตทารกน้อยคลอดก่อนกำหนด ตื่นเต้นมากๆ ค่ะ ซึ่งไม่นึกไม่ฝันว่าจะมีเหตุการณ์ที่ต้องมา “ทำคลอดคน” แต่ตามจริงแล้วการทำคลอดคนกับสัตว์ก็ไม่ได้ต่างกันและใช้หลักการเดียวกัน แต่จะต่างกันที่ขนาดและกายภาพภายนอกนิดหน่อย ดังนั้น ไม่ว่าจะตื่นเต้นแค่ไหนอย่างไร ก็ทำไปตามหลักการที่เรียนมา และสุดท้ายพอรู้ว่าเราสามารถช่วยชีวิตหนูน้อยไว้ได้อย่างปลอดภัย ก็ดีใจและสุขใจมากๆ ค่ะ ต้องขอบคุณทุกคนที่เข้ามาชื่นชม หมอก็จะขอทำหน้าที่หมอที่ดีต่อไป

ดูเหมือนว่าหมอมนจะเป็นคนที่จิตใจดีมีเมตตาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

ปกติแล้วหมอเป็นคนที่ค่อนข้างมีความสุขกับชีวิต เป็นคนมองมุมบวก และเป็นคนติดดิน จะชอบใช้ชีวิตง่ายๆ ใส่เสื้อตัวละ 100 กว่าบาท มือสองก็ซื้อ เพราะมองว่าเสื้อผ้าก็คือปัจจัย 4 เรารู้สึกว่าสิ่งของภายนอกไม่ได้สำคัญ หมอจะไม่ชอบการปรุงแต่งเยอะ เพราะหมอรู้สึกว่าความสุขเกิดขึ้นจากใจ และหมอมองว่าคนที่มีความสุขจากตัวเองได้ง่าย คนคนนั้นก็จะสามารถส่งต่อความสุขให้แก่ทุกๆ คนได้

หมอเป็นคนที่คิดว่าตัวเองมองโลกในแง่บวก แล้วก็มองหาสิ่งดีๆ จากทุกจุดที่เข้ามานะคะ มีหลายคนถามหมอเหมือนกันว่า จุดประสงค์ของชีวิตหมอคืออะไร หมอก็จะตอบไปว่า “เราขอมีความสุขในทุกๆ วัน” แค่นั้นพอ

โดยวิธีทำให้ตัวเองมีความสุขของหมอก็คือ การได้เล่นและได้อยู่กับน้องหมาน้องแมว ได้ดูแลเขา หรือเราทำให้เขาดีขึ้น ความสุขมันล้นแล้ว หรือบางทีหมอก็จะนั่งเฉยๆ หายใจยาวๆ ความสุขมันก็มาแล้ว

คือเราจะมองทุกมุมในแง่ดี เราจะขอบคุณที่สถานการณ์ต่างๆ ที่เข้ามาเป็นประสบการณ์ที่สอนเราได้ดีเสมอ ถึงแม้ว่าเรื่องที่ผ่านมาทุกคนจะมองไม่ดีแต่เราจะมองในมุมดี ซึ่งหมอไม่ได้มาสอนนะคะเพียงแต่หมออยากแชร์ให้ทุกคนได้รู้ว่าหมอใช้ชีวิตยังไงถึงจะมีความสุข หมอมองว่าความน่ารักกุ๊กกิ๊กต่างๆ มันอยู่ที่มุมมองความคิดของแต่ละคนค่ะ

• ทราบมาว่าที่เลือกเป็น “สัตวแพทย์” เพราะรักสัตว์มากๆ

ก่อนจะมาเลือกเรียนสัตวแพทย์ หมอเริ่มมาจากหมอรักน้องหมา แต่หมอก็รักน้องแมวด้วยนะคะ ซึ่งหมอเลี้ยงน้องหมาที่บ้าน พอเราเลี้ยงเขา เหมือนเราก็อยากให้เขาอยู่กับเราได้นานๆ เลยรู้สึกว่าเราอยากจะทำอาชีพอะไรก็ได้ที่ให้ได้อยู่กับน้องหมาน้องแมวบ่อยๆ เพราะทุกครั้งที่ได้สัมผัสและใกล้ชิดกับบรรดาน้องหมาน้องแมว หมอรู้สึกมีความสุขมาก พวกเขาเหล่านั้นก็ดูเหมือนจะให้ความรักกลับมาด้วยจริงๆ ก็มีหลายอาชีพนะที่จะได้คลุกคลีกับน้องหมาน้องแมว เช่น ช่างตัดขน แต่หมอไม่เก่งศิลปะ อาจจะตัดขนได้ไม่สวย หรือรับฝากน้องหมาน้องแมวก็ได้อยู่กับเขาบ่อยๆ เป็นได้หลายอาชีพมากๆ เลย ถึงแม้จะไม่ได้เรียนสัตวแพทย์ คนรักสัตว์ถ้าได้อยู่กับสัตว์ก็มีความสุขแล้วค่ะ

อีกอย่างโดยส่วนตัวแล้วหมอไม่กลัวสัตว์ชนิดไหนเลย หมอคิดว่าสัตว์ทุกตัวน่ารัก และยิ่งพอได้เรียนสัตวแพทย์แล้ว นอกจากที่เราได้เรียนรู้ในตำรา เรียนรู้อยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยแล้ว เรายังได้เรียนรู้การฝึกงานตามฟาร์มต่างๆ ได้เรียนรู้วิชาชีวิต ได้ไปคลุกคลี ได้ไปสัมผัสกับสัตว์ กับคนงานที่เขาน่ารักและเป็นกันเองด้วย ก็รู้สึกว่าตัวเองชอบ

แต่ต้องบอกก่อนเลยว่าเรียนเครียดมาก ตอนเรียนเครียดมากจริงๆ ไม่มีเวลามานั่งสวย ถ้าดูรูปตอนหมอเรียนกับตอนนี้คนละคนกันเลยนะ ตอนเรียนแทบไม่ได้นอนเลย เคยไม่นอน 5 วันติดต่อกันเพราะต้องอ่านหนังสือ ทำวิทยานิพนธ์ เครียดมาก สมัยเรียนเพื่อนเรียก “ป้า” แต่ก็ต้องขอบคุณเราในวันนั้นที่ตั้งใจเรียน

ปัจจุบันหมอเป็นสัตวแพทย์มา 10 ปีแล้วค่ะ ทำงานอยู่ที่คลินิก “หมอมนรักสัตว์” ทุกวันนี้มีความสุขในการทำงานมากๆ เหมือนเราไม่ได้ทำงานเลยค่ะ


• นอกจากเปิดคลินิกแล้ว ยังแชร์ความรู้และความบันเทิงผ่านเพจ “เพื่อนซี้สี่ขา ประสาหมอมน” ด้วย

“เพื่อนซี้สี่ขา ประสาหมอมน” เพจนี้เปิดขึ้นมาเพราะว่าเกิดจากความตั้งใจให้ความรู้แก่ผู้รักสัตว์เลี้ยงเหมือนกันกับหมอ หมออยากส่งต่อความรู้ดีๆ ไปสู่คนที่เลี้ยงสัตว์ทั้งหลาย อยากให้เขามีความรู้ หรือแม้กระทั่งหากเขารู้อยู่แล้วแต่อยากเข้ามาส่องความน่ารักของเจ้าสี่ขา ก็สามารถเข้ามาได้ ซึ่งหมอก็จะอธิบายให้ความรู้ด้วยภาษาง่ายๆ และนำไปใช้ได้จริงค่ะ

หรืออย่างอากาศร้อนๆ ให้ระวังน้องหมาเป็นฮีตสโตรก หมายถึงหอบแดด หรือเป็นลมแดด ซึ่งน้องหมาต้องเติมน้ำบ่อยๆ ทางที่ดีใส่น้ำแข็งไปเลย ห้ามขาดน้ำเด็ดขาด ขาดแล้วตาย นอกจากนี้ ให้เปิดพัดลมโดยเอาผ้าชุบน้ำวางไว้ด้านหน้าเพื่อเป่าลมเย็นให้ แม้กระทั่งหาที่ร่มให้ ซึ่งอาการเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้หมออยากให้ความรู้ค่ะ

หมอเลยอยากฝากเพจเพื่อที่จะได้เป็นทั้งความรู้ หรือแม้กระทั่งความบันเทิง ใครที่เครียดๆ จากงาน อยากจะมาดูความน่ารักของสัตว์ หรือใครที่อยากเข้ามาดูความฮาของหมอก็เข้ามาได้เช่นกัน ซึ่งก็มีหลายคนเหมือนกันนะคะที่อยากให้หมอทำเกี่ยวกับเรื่องแรงบันดาลใจ เวลาที่เขาทำงานเครียดๆ เขามาดูหมอแล้วเขาได้รับพลังงานบวก ปัจจุบันนี้คนเป็นโรคซึมเศร้าเยอะมากนะคะ แต่พอเขาเข้ามาดูเพจหมอ เขาตลก เขารู้สึกได้รับความสุข และมีความสุข แค่นี้หมอก็ดีใจแล้วค่ะ

ขอพูดถึงการทำงานหรือการทำหน้าที่ของหมอแล้วกันนะคะ คือเราจะเป็นกันเองมากๆ เพราะหมอรู้สึกว่าเราก็คือเพื่อนกัน อยากให้เป็นมุมเพื่อนคุยกับเพื่อน หมอจะดูแลน้องหมาน้องแมวที่คลินิกทุกตัวเหมือนเป็นของเราเอง เราอยากให้สัตว์เลี้ยงของคนอื่นคุณภาพชีวิตดีขึ้น ให้เขามีความสุข อยากให้เขาอยู่กับเจ้าของได้นานๆ เราไม่อยากเป็นหมอที่ดูแลแค่เพียงผิวเผินค่ะ แต่จริงๆ แล้วไม่จำเป็นต้องมารักษากับหมอนะคะ จะบอกว่าสัตวแพทย์หลายท่านน่ารัก จริงๆ ทุกคนมีมุมที่น่ารักของตัวเอง เพียงแต่เขาไม่ได้ออกสื่อก็เท่านั้นเองค่ะ

• แล้วถ้าอยากเป็นสัตวแพทย์แบบหมอมน ต้องทำอย่างไร?


น้องๆ หลายคนอยากเป็นสัตวแพทย์แต่ไม่เข้าใจว่าเราจะต้องทำงานด้านไหน เราต้องอยู่กับอะไร ซึ่งหมออยากให้คนได้เห็นว่าการเรียน การใช้ชีวิต หรือการจะเป็นสัตวแพทย์จริงๆ ต้องเป็นยังไง คือหมออยากบอกว่า ถ้าเขารักสัตว์จริงๆ ก็อยากให้มาเรียนสัตวแพทย์ค่ะ เพราะจะได้ทำให้สัตว์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและอยู่ได้นานขึ้นค่ะ


อย่างเมื่อวานมีสายจากน้องนักเรียนโทร.มาถามว่า “พี่หมอมนคะ ถ้าจะเป็นสัตวแพทย์จะต้องเรียนสายอะไรคะ” หมอเลยตอบไปว่า “สายวิทย์ค่ะ” น้องเลยบอกมาว่า "หนูจะเรียนสายวิทย์ตามพี่หมอนะคะ"

จริงๆ ไม่เพียงแค่สายวิทย์นะคะ ถ้าน้องๆ อยากเรียนสายศิลป์ก็ดีเหมือนกัน ก่อนหน้านี้จริงๆ หมอก็เคยคิดอยากเรียนสถาปัตยกรรมศาสตร์อยู่เหมือน แต่เผอิญว่าการวาดรูปฝีมือเราไม่ถึง เราเป็นคนที่ชอบอะไรที่จรรโลงใจ อย่างงานศิลปะเวลามองแล้วสวยจังเลย ถึงแม้ว่าเราจะวาดรูปไม่สวยก็ตาม หรือแม้กระทั่งตกแต่งบ้านหมอก็ชอบมากๆ ถ้าวันนี้ไม่ได้เป็นสัตวแพทย์ก็คงไปสายตกแต่งบ้านนี่แหละค่ะ (หัวเราะ)

เอาเป็นว่าไม่ว่าจะอยากจะเรียนอะไรก็ตาม หมออยากให้น้องๆ ตั้งใจเรียนหนังสือเพราะเมื่อเราตั้งใจเรียนเราจะมีโอกาสเลือกในสิ่งที่ชอบ

หมอดีใจและต้องขอบคุณนะคะ ที่ทำให้หมอได้รับกำลังใจดีๆ และหมอเองก็อยากส่งต่อกำลังใจดีๆ ให้แก่ทุกคนเหมือนกัน ทุกวันนี้หมอมีความสุขที่ได้เป็นแรงบันดาลใจให้แก่ใครหลายๆ คนที่เขาอยากเป็นสัตวแพทย์ รู้สึกภูมิใจในวิชาชีพนี้มากๆ ค่ะ



เรื่อง : วรัญญา งามขำ
ภาพ : วชิร สายจำปา
กำลังโหลดความคิดเห็น