การรถไฟแห่งประเทศไทย เตรียมยกเลิกพ่วงตู้เสบียงจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ในขบวนรถด่วนและรถเร็ว รวม 26 ขบวน เหตุผู้เช่าไม่ต่อสัญญาอีก แถมสภาพรถชำรุดทรุดโทรม พบขาดทุนเดือนละเกือบ 3 หมื่นบาท
วันนี้ (24 พ.ค.) รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย แจ้งว่า ในวันที่ 1 มิ.ย. 2562 เป็นต้นไป จะยกเลิกการพ่วงตู้เสบียง (ตู้โดยสารจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม) ในขบวนรถด่วนที่ 67, 68 (อุบลราชธานี) และขบวนรถเร็วทั้งภาคเหนือ (เชียงใหม่, เด่นชัย) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (หนองคาย, อุบลราชธานี) และภาคใต้ (ยะลา, นครศรีธรรมราช, กันตัง และสุไหงโก-ลก) 24 ขบวน โดยการรถไฟฯ แนะนำให้ผู้โดยสารจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มสำหรับรับประทานขณะเดินทางไว้ล่วงหน้า
สำหรับสาเหตุที่มีการยกเลิกการพ่วงตู้เสบียง เนื่องจากปัจจุบันสัญญาเช่าสิทธิ์รถเสบียงได้หมดลงมานานแล้ว ผู้เช่าไม่ประสงค์จะต่อสัญญาเช่าอีก ขณะที่การรถไฟฯ มีค่าใช้จ่ายทั้งค่าน้ำมันเชื้อเพลิง และค่าซ่อมบำรุงรถเสบียงเดือนละประมาณ 49,000 บาท แต่ทางผู้เช่าจ่ายค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ที่เดือนละประมาณ 20,000 บาท ทำให้การรถไฟฯ ขาดทุนเดือนละ 29,000 บาทต่อคันต่อเดือน ขณะที่รถเสบียงในปัจจุบันมีสภาพชำรุดทรุดโทรม เนื่องจากผ่านการใช้งานมานาน ถ้าจะให้ดำเนินการต่อไป จำเป็นต้องปรับปรุงใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลาและงบประมาณอีกจำนวนมาก
อีกทั้งรูปแบบการให้บริการของรถเสบียงในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก ทั้งด้านคุณภาพการบริการและราคา ซึ่งได้รับการร้องเรียนจากผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก และจากการสอบถามผู้โดยสาร ส่วนใหญ่เห็นควรให้การรถไฟฯ ปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการให้สะอาดในราคาที่เหมาะสมมากขึ้น ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงจำเป็นต้องยกเลิกพ่วงรถเสบียงในส่วนของรถเร็วที่หมดสัญญาไปก่อน จนกว่าจะมีการปรับปรุงทั้งตัวรถและรูปแบบการบริการให้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับรถเสบียงในรถไฟรุ่นใหม่ ได้แก่ รถด่วนพิเศษอุตราวิถี, อีสานมรรคา, อีสานวัตนา และทักษิณารัถย์ ยังคงให้บริการตามปกติ