บรรดาศิษย์เก่า "โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์" วิจารณ์เละ ค่ายปรับพื้นฐาน ม.4 ไปฝึกวินัยทหารที่กองพันทหารราบ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ถามมีวัตถุประสงค์อะไร ซัดระเบียบสุดโต่งปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์
วันนี้ (10 พ.ค.) บรรดาศิษย์เก่าโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ตั้งขึ้นเพื่อสร้างนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ ได้วิจารณ์กรณีที่ทางโรงเรียนนำนักเรียนเข้าค่ายปรับพื้นฐานมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 4 ซึ่งจัดขึ้นที่กองพันทหารราบ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (พัน ร.รร.จปร.) ต.พรหมณี อ.เมืองฯ จ.นครนายก ระหว่างวันที่ 8-10 พ.ค. นี้ โดยพบว่าค่ายดังกล่าวทำกิจกรรมในลักษณะคล้ายกับการฝึกทหาร เช่น การเอามือไฝว้หลังก่อนรับประทานอาหาร การให้นักเรียนนั่งกลางแดดทั้งนักเรียนชายและนักเรียนหญิง ทำให้เกิดความไม่พอใจและได้แสดงความคิดเห็นผ่านทางเฟซบุ๊ก MWIT NewsBowl ของหนังสือพิมพ์ NewsBowl ชุมนุมหนังสือพิมพ์แห่งโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ มีตัวอย่างดังนี้
ความเห็นตัวอย่างที่ 1 "อยากทราบจุดประสงค์ของการพานักเรียนที่สร้างเพื่อการวิจัยและพัฒนาประเทศมาเข้าค่ายนี้ครับ ทั้งๆ ที่ในเวลาสองสามวัน หากจัดกิจกรรมดีๆ สามารถสร้าง Awareness (ความตระหนัก) ให้นักเรียนที่เข้ามาตระหนักถึงความสำคัญของการมีวิทยาศาสตร์ และการพัฒนาประเทศได้มากขึ้นอย่างมาก ไม่แน่นะครับ ถ้าจัดได้ดีจริงๆ เราอาจจะลดจำนวนคนที่อยากเรียนจบไปแล้วต่อเข้าคณะแพทย์ศาสตร์ แล้วหันมาเข้าคณะวิทยาศาสตร์มากขึ้นตามที่โรงเรียนต้องการก็ได้ ผมเชื่อว่า หากต้องการฝึกระเบียบวินัย ตลอดการใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนและกฏระเบียบหอพักทั้ง 3 ปีนั้น เพียงพอต่อการใช้ชีวิตแล้ว ไม่จำเป็นต้องฝึกระเบียบสุดโต่งอย่างการยืนตรงเข้าแถวขนาดนี้หรอกครับ หากทางอาจารย์ หรือบุคลากรโรงเรียนเห็นโพสต์นี้ของผม กรุณานำฟีดแบคนี้แจ้งให้กับทางโรงเรียนด้วยนะครับ"
ความเห็นตัวอย่างที่ 2 "ในฐานะศิษย์เก่าผมไม่เห็นด้วยกับกิจกรรมนี้ครับ สิ่งที่ทหารฝึกคือระเบียบวินัยให้เหมือนกันทุกคนเป็นระเบียบ ซึ่งมันค่อนข้างปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในวิทยาศาสตร์นะครับ รบกวนผู้จัดพิจารณาเป้าหมายของกิจกรรมนี้ใหม่ด้วยครับ"
ความเห็นตัวอย่างที่ 3 "เท่าที่ฟังมาจากรุ่นน้องนะครับ กิจกรรมนี้มีวัตถุประสงค์ที่ดีนะครับ แต่ว่าการจัดกิจกรรมเพื่อไปยังเป้าหมายนั้นอาจจะยังไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงเท่าที่ควร ประเด็นคือ สิ่งที่เขาแจ้งไว้เป็นวัตถุประสงค์คือการฝึกระเบียบวินัย แต่ทว่า การบังคับระเบียบวินัยในรูปแบบที่ทหารทำ (หรือการใช้การลงโทษเป็นการส่วนรวม) ในระยะเวลาอันสั้น มันค่อนข้างที่จะล้มเหลวครับ
ในขณะที่ทุกคนเข้าค่าย เหมือนถูกกดเอาไว้ให้กระทำสิ่งต่างๆ ตามที่ถูกสั่ง โดยให้ความเห็นไว้ว่า ฝึกระเบียบวินัย แต่ระเบียบวินัยที่ฝึกมีรูปแบบของทหารที่ไม่จำเป็นปนอยู่ด้วย (ไม่จำเป็นในที่นี้ ผมหมายถึงต่อการใช้ชีวิตในโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์โดยทั่วไปนะครับ เพราะผู้หญิงก็ไม่ต้องไปเรียน รด.) แถมสุดท้าย เมื่อทุกคนกลับมาจากค่ายได้ไม่นาน ก็จะกลับมาเป็นสภาพเดิมครับ เมื่อเราตัดส่วนนี้ออกไป ก็เห็นได้ว่ากิจกรรมที่เหลือสามารถจัดในโรงเรียนได้ ไม่มีปัญหา ซึ่งกลายเป็นว่ามันมีความจำเป็นที่ต้องไปฝึกถึงในค่าย จปร. จริงหรือ เพราะสุดท้ายถ้าจุดประสงค์หลักอย่างหนึ่งของระเบียบวินัย ไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปทำอะไรให้วุ่นวายถึงที่นู่น
บางคนอาจจะมองว่า การไปค่ายพวกนั้นทำให้ถูกกดดันและเข้ามารวมเป็นระเบียบกันได้ แต่ว่าเมื่อเรานำกลับมาไว้ในสังคมปกติ ไม่นานทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมครับ คนที่ทำผิดกฎอะไรก็ไม่ได้มีแนวโน้มที่จะลดลง (เท่าที่ผมสังเกตนะครับ ไม่มีหลักฐานแน่ชัด เพราะว่าในสมัน ม.4 ทุกคนก็จะค่อนข้างทำตามกฎครับ)
Solution ที่ผมว่าดีกว่าคือ การปล่อยให้นักเรียนได้ใช้ชีวิตในโรงเรียน เป็นค่ายสันทนาการปนวิชาการทั่วไป หรือการฟังบรรยายจะดีกว่าครับ เพราะว่าผมมองว่าการทำให้ทุกคนอยู่ในกฎได้คือการบังคับใช้กฎเท่านั้นแหละครับ ถ้าสภาพสังคมนั้นมีกฎที่หละหลวม มีการลงโทษน้อย ทุกคนก็จะปฎิบัติตามกฎน้อยลงครับ และสามารถให้เด็กใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอีก 3 วันด้วย
ป.ล. ปีที่แล้วมีอาจารย์ท่านหนึ่งเหมือนอินกับค่าย จปร. ครับ กลับมาสั่งเด็กลุกนั่งด้วย ผมก็รู้สึกไม่ค่อยดีกับการลงโทษแบบนี้ครับ"
ความเห็นตัวอย่างที่ 4 "อยากให้มีอาจารย์ที่จัดค่ายช่วยออกมาชี้แจงจุดประสงค์ของการจัดกิจกรรมนี้หน่อยครับ ในปีหน้าที่จะจัดกิจกรรมค่ายปรับพื้นฐานให้น้องๆ รุ่นถัดไป ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบันและอาจารย์จะได้ช่วยกันพิจารณาตามสมควรครับ แล้วก็เท่าที่ทราบมาเหมือนปีที่แล้วก็มีจัดกิจกรรมทำนองนี้ไปแล้ว เลยอยากทราบว่ามีตัวชี้วัดอะไรที่บ่งบอกถึงความเป็นระเบียบที่มากขึ้นเมื่อเทียบกับปีอื่นๆ หรือไม่ครับ จากศิษย์เก่ารุ่น 24"
ความเห็นตัวอย่างที่ 5 "ถ้าแอดมินเพจเป็นนักเรียน ไม่ต้องตกใจนะครับ ไม่มีใครที่นี่ว่านักเรียน กน หรืออะไรทั้งสิ้น แต่เรากำลังเรียกร้องให้คุณเอาความเห็นทั้งหมดนี้ส่งต่อให้กับกลุ่มผู้บริหารโรงเรียนครับ ให้พวกเขาตระหนักว่าการจัดกิจกรรมแบบนี้มันเป็นผลเสียกับตัวนักเรียนเอง และกับประเทศชาติโดยรวมขนาดไหน มีเหตุผลให้เชื่อได้ว่ากิจกรรมลักษณะนี้ขัดแย้งอย่างชัดเจนกับเป้าหมายหลักของโรงเรียนมหิดลฯ ในฐานะโรงเรียนที่ให้สัญญากับคนไทยทั้งชาติว่าจะผลิตนักวิทยาศาสตร์ที่มีความรู้และความคิดสร้างสรรค์ กล้านำความคิดที่มีประโยชน์มาพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าอย่างแท้จริงต่อไป หากต้องการทราบเหตุและผลของผมหรือคนอื่นๆ เพิ่มเติม ส่งข้อความมาหลังไมค์ได้เลยครับ ที่สำคัญฝากเรื่องนี้ให้ถึงผู้บริหารโรงเรียนด้วยนะครับ"
ความเห็นตัวอย่างที่ 6 "การพานักเรียนมาอยู่ภายใต้วินัยที่ปราศจากคำถามมันเป็นสิ่งที่อยู่ตรงกันข้ามกับจิตวิญญาณนักวิทยาศาสตร์เป็นอย่างมากเลย วินัยที่ดีควรเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติและต้องตั้งคำถามได้ฉุกคิดได้ แต่ระบบทหารมันทำลายหลักการเหล่านี้"
ความเห็นตัวอย่างที่ 7 "เราไม่เห็นว่าการทำสิ่งนี้จะช่วยให้เด็กทำตามกฎมากขึ้นเลย ออกจากค่าย ความรู้สึกมันก็ค่อยๆ หายไป ระเบียบมันอยู่ได้ด้วยเหตุและผล ไม่ใช่อำนาจนิยม โดยเฉพาะในโรงเรียนวิทยาศาสตร์ และที่สำคัญระเบียบวินัยไม่ได้ผูกขาดโดยทหาร หรือเป็นการมาจัดแถว ไม่เห็นว่ากิจกรรมแบบนี้จะบรรลุวัตถุประสงค์หรืออุดมการณ์ของโรงเรียน"
ความเห็นตัวอย่างที่ 8 "อยากทราบรายละเอียดและจุดประสงค์ของการจัดค่ายจากโรงเรียนครับ ตัดสินจากเท่าที่เห็น ผมคิดว่าไม่มีความจำเป็นที่นักเรียนจะต้องผ่านค่ายนี้ และการฝึกระเบียบวินัยแบบทหารไม่น่าจะสอดคล้องกับการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ พัฒนา Critical Thinking (การคิดวิเคราะห์) และพัฒนาตรรกะทางวิทยาศาสตร์ เกรงว่าจะสวนทางกับอุดมการณ์ของโรงเรียนครับ ผมเป็นนักเรียนเก่ารุ่นที่ 22 ตอนนั้นยังไม่มีค่ายนี้ ค่ายอุดมการณ์ยังไม่มีอีกด้วยซ้ำ เข้าหอวันอาทิตย์เช้าวันถัดไปเรียนเลยครับ ผมเลยคิดว่าระเบียบในโรงเรียนประจำและการอบรมของครูน่าจะดีพอครับ"
ความเห็นตัวอย่างที่ 9 "คือจริงๆ การสร้างวินัยและความเข้มแข็งทางด้านร่างกายมันมีวิธีอื่นเยอะแยะเลยนะ การพาไปเข้าค่ายทหารมันก็แสดงถึงการติดอยู่ในกรอบเดิมๆ ของโรงเรียนไทยอยู่มาก เราจำได้ว่าเมื่อตอนปีที่แล้วเราไปค่ายนี้มีช่วงหนึ่งที่เด็กๆ ต้องไปฟังประวัติศาสตร์ชาติไทยที่บรรยายโดยทหารคนนึง เราก็เข้าใจแหละว่าโรงเรียนคงอยากปลูกฝังความรักชาติ แต่นี่โรงเรียนวิทยาศาสตร์แห่งแรกในประเทศไทยนะ คุณคิดได้แค่นี้จริงๆ หรอ ยังมีวิธีอื่นเช่น ให้เด็กๆ นั่งลอมวงแล้วถกประเด็นทางประวัติศาสตร์กับพี่ๆ ทหาร เอา Fact (ข้อเท็จจริง) มาคุยกันมันไม่เป็นวีธีการเรียนรู้ที่ดีกว่าการนั่งฟังเฉยๆ เหรอ
ส่วนกิจกรรม เราก็เข้าใจนะว่าอยากให้เด็กรู้จักกัน มีความสามัคคี ทำงานร่วมกันได้ แต่ความเห็นส่วนตัวเราคิดว่าในฐานะที่เป็นโรงเรียนที่สนับสนุนวิทยาศาสตร์ก็น่าจะจัดกิจกรรมที่บูรณาการกับ STEM (สะเต็มศึกษา) ด้วย ไม่ใช่แค่ให้คลานตรงโคลน ต่อตัวกันไปเขียนชื่อเพื่อนบนกระดาษที่แขวนอยู่บนต้นไม้ ช่วยกันเติมน้ำให้เต็มถังที่มีรูเติมไปหมด คือเราคิดว่าถ้าจะทำไมไม่ทำให้ดีไปเลย แบบค่าย สสวท. ประถมอะไรอย่างนี้ สรุปสั้นๆ มันเป็นการคิดที่น้อยเกินไปสำหรับการพาเด็กไปเข้าค่ายทหาร"
ความเห็นตัวอย่างที่ 10 "เตรียมพร้อมเยาวชน ก่อนจะต้องมาเจอกับทหาร ที่จะทำทุกวิถีทางให้ได้เป็นผู้นำประเทศและครอบครองอำนาจ ดีครับ"
ชมภาพและอ่านความเห็นจากเฟซบุ๊ก MWIT NewsBowl คลิกที่นี่