3 ไอดอลสาว BNK48 เตรียมเล่นละครไทยพีบีเอส ลูกเหล็ก เด็กชอบยก "อร" เป็นนางเอกนักกีฬายกน้ำหนัก รับบทสุดท้าทาย เตรียมซ้อมกับ "ไก่-ปวีณา" อดีตฮีโร่โอลิมปิค "ขมิ้น" สุดตื่นเต้นได้แสดงครั้งแรก "มินมิน" ดีใจหวนคืนจอตู้ เผยไม่ร้ายแบบสายวีน ด้าน "ปอนด์" พระเอก แย้มฝึกเทนนิสเพิ่ม ส่วน "นัท" บอกขำๆ คาแรคเตอร์ใกล้ตัวจริง ฝั่งผู้กำกับ ยันไม่ใช่คอกีฬาก็ดูได้
มาให้ชมกันอีกเรื่องในปีนี้สำหรับละครน้ำดี "ลูกเหล็ก เด็กชอบยก" ทางช่องไทยพีบีเอส ซึ่งได้ 3 สมาชิกจากวงไอดอลสาว BNK48 ทั้ง "อร-พัศชนันท์ เจียจิรโชติ" , "ขมิ้น-มณิภา รู้ปัญญา" และ "มินมิน-รชยา ทัพพ์คุณานนต์" ร่วมแสดงกับ 2 หนุ่มหล่ออย่าง "ปอนด์-พลวิชญ์ เกตุประภากร" และ "นัท-ณัชพล รัตนมงคล" โดยมี "ปู-ปวิตร ตรีเมฆ" กำกับการแสดง ซึ่งก็เริ่มเวิร์คช้อปนักแสดงไปครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งทาง MGR online ได้ไปเก็บบรรยากาศพร้อมสัมภาษณ์ทั้งผู้กำกับและนักแสดงแบบเอ็กซ์คลูซีฟให้ได้ทราบก่อนใคร
โดย "ปู-ปวิตร" เล่าถึงเนื้อหาของละครเรื่องนี้ว่า เป็นละครเกี่ยวกับชีวิตวัยรุ่น เกี่ยวกับกีฬายกน้ำหนัก เป็นเรื่องของเด็กผู้หญิงคนนึงที่รูปร่างหน้าตาก็เหมือนคนทั่วไป แล้วก็ดูมีลุคเป็นคุณหนูด้วยซ้ำ แต่ดันมีพรสวรรค์ และดีเอ็นเอของนักยกน้ำหนัก ธรรมชาติก็เลยเรียกร้องให้วันนึงเธออยากจะเป็นนักยกน้ำหนัก แต่ว่าถูกต่อต้านจากคุณย่าซึ่งเป็นคนที่ประมาณเหมือนเป็นซูสีไทเฮาในบ้าน คือควบคุมทุกอย่างในบ้าน เหตุผลลึกๆ ก็คือเพราะว่าเคยสูญเสียคนที่ตัวเองรักไปจากกีฬายกน้ำหนัก เพราะฉะนั้นประเด็นของเรื่องคือเธอต้องทำตามความฝันของตัวเองในขณะเดียวกันก็ต้องแอบคุณย่าเล่น ต้องทำให้คุณย่ายอมรับ ต้องทำให้คนอื่นยอมรับด้วยว่าเธอจะสู้กับกีฬานี้ได้จริงๆ
"คือเราจะเห็นว่านักยกน้ำหนักรูปร่างหน้าตามันจะมีฟอร์มของมันอยู่แล้วว่าจะต้องบึกบึนนิดนึง แต่ว่าด้วยรูปร่างประมาณแบบ "อร" หลายคนก็ยังไม่เชื่อว่าเธอจะทำได้ เธอก็ต้องพิสูจน์ตัวเองว่าเธอเข้ามาชมรมเนี่ยไม่ได้เพราะว่ามาแอบชอบผู้ชายที่เป็นหัวหน้าชมรมยกน้ำหนัก รวมทั้งไม่ได้มาเพราะว่าอารมณ์ชั่ววูบ แต่ว่ามันเป็นความฝันของเธอจริงๆ" ผู้กำกับละครกล่าว
ทางด้าน "อร-พัศชนันท์" ก็เปิดเผยถึงการรับบท นุ่น ซึ่งเป็นนางเอกครั้งแรกและเป็นนักยกน้ำหนักว่า ได้ลองยกอุปกรณ์ยกน้ำหนักดูแล้ว ปรากฏว่ายกไม่ขึ้นเลย (หัวเราะ) แค่ 10 กว่ากิโลกรัมเอง ก็ค่อนข้างเป็นบทที่ท้าทายมาก ไม่เคยเล่น และปกติก็ไม่ค่อยจะมาในทางนี้สักเท่าไหร่ ในฐานะนักแสดงหญิง ตนก็จะไปฝึกมาภายใน 1 เดือน ตนจะยกให้ได้
เมื่อถามว่า ทำไมผู้กำกับถึงเลือก "อร-พัศชนันท์" มารับบทเป็นนักยกน้ำหนัก "ปู ปวิตร" กล่าวว่า จริงๆ เราก็คิดหลายทาง แต่ว่าตนต้องการให้การเล่นละครเรื่องนี้มันมีความแตะถึงความเป็นกีฬาจริงๆ ก็เลยคิดว่าอยากจะเล่นจริง ยกจริง แต่ยกจริงนี่หมายถึงบาร์เบลที่สร้างขึ้นมา แต่ว่ามันก็ต้องหนักระดับนึง ก็เลยอยากได้นักแสดงที่มีดีเอ็นเอของความเป็นนักกีฬาก็เลยคิดว่าคาแรคเตอร์ของสมาชิกวง BNK48 เด็กที่มันเต้นทุกวัน เต้นทั้งวัน แล้วก็มีความทะเยอทะยาน มันมีดีเอ็นเอที่ใกล้เคียงกับนักกีฬาที่สุด ประกอบกับ "อร" เป็นคนที่รูปร่างใกล้เคียงกับความเป็นนักยกน้ำหนักคนนึง ซึ่งจังหวะ "อร-พัศชนันท์" กล่าวตอบว่า ไม่เป็นไร ได้เป็นนางเอกก็โอเค พร้อมกับยิ้ม ก่อนที่ผู้กำกับจะกล่าวต่อว่า รวมทั้งการแสดงก็มีประสบการณ์มาบ้างก็เลยคิดว่าน่าจะเป็น "อร"
เมื่อถาม "อร" ว่า อย่างนี้ก็ต้องไปศึกษาเรื่องการยกน้ำหนักเพิ่มเติม "อร-พัศชนันท์" กล่าวว่า ใช่ ตนจะไปฝึกซ้อมกับพี่ไก่ ปวีณา ทองสุก อดีตนักยกน้ำหนักเหรียญทองโอลิมปิคด้วย แล้วก็จะไปคลุกคลีกับวงการยกน้ำหนัก ก็จะได้หุ่นที่ (หัวเราะ) ที่มีกล้ามเนื้อสวยงาม
ทางด้าน "ขมิ้น-มณิภา" เปิดเผยว่า ตนรับบทเป็นฝน ในเรื่องเป็นเพื่อนของ อร ขณะที่ "มินมิน-รชยา" กล่าวว่า ตนรับบทเป็นเกรซ ก็เป็นเพื่อนของ อร แต่ว่าก็จะเป็นคู่ปรับกันนิดหน่อย อาจจะต้องเป็นเหมือนคู่แข่งทางการเรียน ด้านกีฬา หรืออาจจะเรื่องปัญหาหัวใจนิดนึงแต่ว่าจริงๆ แล้วตัวละครเกรซก็มีความน่ารัก ไม่อยากให้รีบเกลียดกันไปก่อน (หัวเราะ)
เมื่อถามว่า "มินมิน" รับบทเป็นตัวร้ายของเรื่องหรือไม่ ผู้กำกับละคร กล่าวว่า ไม่ ความตั้งใจจริงๆ แล้ว คือตัวละครในเรื่องทุกตัวมันไม่ได้มีใครที่ดีสุด ร้ายสุด ก็จะมีมิติของมัน ซึ่งเกรซจริงๆ แล้วมันอาจจะมีความอยากแข่งขันโดยธรรมชาติของคนทั่วไปแต่ว่าเธอก็จะมีมิติด้านดีที่คนดูจะหลงรักเธอเหมือนกัน
ในส่วนพระเอกของเรื่อง "ปอนด์-พลวิชญ์" กล่าวว่า บทของ ตะลัน ก็มีคาแรคเตอร์ที่เป็นคนคูลๆ เท่ๆ นิดๆ แนวๆ ซงจุนกิ พระเอกชาวเกาหลี ผู้กำกับก็คงเห็นในตัวของตน พอมารับบทนี้ก็รู้สึกท้าทายนิดนึงก็อาจจะออกจากตัวละครของตัวเองนิดนึง แต่ก้ต้องไปฝึกด้านกีฬามาบ้าง เพราะว่าจะเป็นนักเทนนิสที่ตีเก่งมากๆ ซึ่งน่าจะต้องไปฝึกเพิ่มเติม แต่ก็เคยเล่นมาก่อนแล้ว
ทางด้าน "นัท-ณัชพล" กล่าวถึงตัวละครปอนด์ หัวหน้าชมรมยกน้ำหนักว่า ก็น่าจะเป็นตัวละครที่หลายๆ คนชอบ หล่อ รวย กล้ามใหญ่เหมือนตัวจริงเป๊ะ เป็นคาแรคเตอร์ที่ใกล้เคียงตัวจริงที่สุด ไม่ต้องดัดแปลงอะไร เพราะว่าตนหล่ออยู่แล้ว ตนล้อเล่นนะ (หัวเราะ) ก็คือเป็นหัวหน้าชมรมยกน้ำหนัก พ่อเป็นเจ้าของโรงพยาบาลมันก็มีคีย์อยู่คียหนึ่งที่เราต่อต้านพ่อ เพราะว่าเราอยากจะทำตามความฝันมันก็จะมีเรื่องราวของเขาอยู่และวันนึงไปเจอ "อร" และเราเห็นว่ามีความสามารถในการยกน้ำหนัก เราก็ต้องการจะให้เขาเข้ามาในชมรม หลังจากนั้นก็อาจจะเกิดความรู้สึกที่ดีต่อกันประมาณนี้
เมื่อถามว่า ในบทเราต้องจีบนางเอก "นัท-ณัชพล" กล่าวว่า ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง (หัวเราะ) บทมันมาแบบนั้น (หัวเราะ) แต่เขาน่าจะผิดหวัง ส่วนใหญ่แล้วหล่อ รวย มักจะไม่ค่อยได้ พระรองดีแค่ไหนก็แพ้เสมอ
เมื่อถามถึงวันนี้ที่มีการเวิร์คช้อปครั้งแรก เป็นอย่างไรบ้าง "นัท-ณัชพล" กล่าวว่า สนิทกันแล้ว (หัวเราะ)
ขณะที่ "อร-พัศชนันท์" กล่าวถึงการเล่นละครครั้งแรกว่า ตนก็เอาเทคนิคจากการที่ใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์มา แต่ตนดีใจที่เหมือนตนได้เรียนรู้ตลอดเวลา ตรงนี้เป็นเรื่องที่ชอบมากๆ และดีใจที่ได้เล่นเรื่องนี้มากๆ
ด้าน "ขมิ้น-มณิภา" กล่าวถึงการชิมลางงานแสดงครั้งแรกว่า ตนตื่นเต้นมาก ตนชอบ การได้มาทำตรงนี้เป็นประสบการณ์ใหม่ของตนมากๆ และตนชอบเวลาได้ทำอะไรใหม่ๆ แล้วก็ขอบคุณด้วยที่เลือกตนเข้ามา โดย "ขมิ้น-มณิภา" ยังได้เล่าถึงการเตรียมตัวก่อนมาเวิร์คช้อปด้วยว่า ตนดูซิทคอม ซีรี่ย์มาว่าเขาเล่นกันยังไง และเดี๋ยวคิดว่าจะต้องไปเล่นกีฬาด้วยสักหน่อย ซึ่งก็มีการซ้อมบทหน้ากระจก ก็เขินมากเลยเวลาพูดกับตัวเองในกระจก ตนดูอะไรก็พูดตามเขาว่าพูดอะไร แล้วก็ทำหน้าทำตาตาม แต่ตนอายมากเลย
ส่วน "มินมิน-รชยา" กล่าวว่า จริงๆ ตนเคยมีผลงานซีรีย์มาบ้าง แต่ว่ามันก็ผ่านมาหลายปีแล้วเหมือนกันมันก็เหมือนห่างหายไปแล้ว พอครั้งนี้ได้มีโอกาสกลับมาเล่นอีกก็ดีใจมากๆ เลยที่ให้โอกาสตน ตนว่าบทนี้เป็นอะไรที่ท้าทายมากเพราะว่าปกติตนจะเคยเล่นแบบแว้ดๆ อยู่ดีๆ ก็ร้าย แต่ว่าอันนี้เหมือนตัวละครมีมิติมากกว่านั้น คือ เขาผ่านอะไรมาถึงได้เป็นแบบนั้น เหมือนเราจะต้องรู้จักตัวละครนั้นจริงๆ ว่าทำไมเขาเจออะไรมาถึงแสดงออกแบบนั้น หรือว่าเจออะไรมาถึงต้องการการยอมรับจากสังคมแบบนั้น
เมื่อถามว่า ในฐานะที่เคยแสดงละครมาก่อนมีให้คำแนะนำอะไรเพื่อนบ้างมั้ย "มินมิน-รชยา" กล่าวว่า โอ้โห จริงๆ ตนก็ไม่ได้เก่งอะไรแล้วมันก็นานแล้ว ตอนนี้ตนก็ต้องมาขอคำแนะนำจากทุกคนแทน
ขณะที่ผู้กำกับละครเรื่องลูกเหล็กฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า ก็คือถ้าพูดถึงในแง่ของละครกีฬายกน้ำหนักสนุกกว่าที่คิด การยกย้ำหนักถ้าเกิดดูเผินๆ มันจะเหมือนกับเป็นกีฬาที่ใครมีกำลังมากกว่าก็ชนะไป แต่ว่าถ้าเกิดเราดูรายละเอียดของการแข่งขันแต่ละครั้งจริงๆ แล้วเราฟังเสียงคนบรรยาย การยกน้ำหนักมันจะมีทั้งบู๊และบุ๋น มันมีทั้งการวางแผน การเรียกน้ำหนักหลอกคู่ต่อสู้ การข่มขวัญคู่ต่อสู้ เหมือนการเกทับ การเล่นไพ่ การวางแผนจัดลำดับ การเรียกตัวเลขเหมือนการเล่นตลาดหุ้น การเล่นหมากรุก การใช้พละกำลัง โดยรวมๆ แล้วการยกน้ำหนักมันเป็นกีฬาที่ดูนิ่งๆ แต่ว่าสนุกกว่าที่คิด
"แต่คนขณะเดียวกันคนที่ไม่ใช่คอกีฬาก็สามารถดูละครเรื่องลูกเหล็กได้ เพราะว่ามันก็เป็นละครที่นอกจากจะพูดในเรื่องของกีฬาแล้ว มันยังพูดถึงชีวิตวัยรุ่น ชีวิตวุ่นๆ ที่ตัวละครมันจะต้องเรียนหนักมาก ต้องมีการบริหารเวลา ต้องเรียนให้ดีเล่นกีฬาให้เด่น และเป็นการค้นหาความฝันของตัวเอง ไล่ตามความฝันของตัวเอง สุดท้ายมันก็คือการเห็นคุณค่าของคนที่รักเรา คนในครอบครัวเรา ไม่ว่าจะยังไงก็ตามกำลังใจจากคนที่เรารัก มันจะทำให้เรามีพลังในการแบก ยกน้ำหนักอะไรก็ตามในชีวิตเราได้ด้วยคนรักที่มาจากคนรอบข้างเรา" ปู-ปวิตร กล่าว
ทั้งนี้ละครเรื่อง ลูกเหล็ก เด็กชอบยก เป็นละครแนวโรแมนติค คอเมดี้ โดยยังมีนักแสดงดังอย่าง "ลีโอพุฒ-พุฒิพงศ์ ศรีวัฒน์" รับบทเป็นพ่อ และ "จิ๊ก-เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์" รับบทเป็นย่าของนุ่นด้วย เขียนบทโดย "ปู-ปวิตร" มีการพัฒนาบทร่วมกับสมาคมกีฬายกน้ำหนักแห่งประเทศไทย และสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ผลิตโดย บ.ดีโอดู มัลติมีเดีย จะเริ่มเปิดกล้องในวันที่ 14 พ.ค. และออกอากาศราวๆ เดือนตุลาคมนี้ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส