เบื้องหลังงานนวดนาบที่เกาหลี อาชีพยอดนิยมเหล่าผีน้อย คิดว่าขายของสงวนแล้วปังๆ แต่แท้ที่จริงต้องทำทุกอย่างให้แขกพอใจ ถ้าไม่ได้ถูกทุบตี แทบต้องขายวิญญาณ หนำซ้ำนักเที่ยวกิมจิไม่ชอบใส่ถุงยางอนามัย ถ้าหนีจะถูกข่มขู่ให้อับอาย
วันนี้ (7 พ.ค.) ในโซเชียลมีเดียได้มีการเผยแพร่ข้อความจากเฟซบุ๊ก “ศูนย์คุ้มครองสตรีพลัดถิ่น ทูเรบัง” ศูนย์ช่วยเหลือและให้ความคุ้มครองผู้หญิงชาวต่างที่ถูกล่อลวงให้มาขายบริการทางเพศในเกาหลีใต้ ได้กล่าวถึงขบวนการค้ามนุษย์ว่า จากการทำงานที่ศูนย์ต้องเจอและช่วยเหลือเหยื่อที่หนีออกจากร้านนวดนาบ (ร้านนวดแฝงบริการทางเพศ) แม้เหตุจูงใจว่าทำแล้วเงินหาง่าย ไม่ต้องลำบาก มีเงินใช้จ่ายได้สบายมือ ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ แต่คนที่เข้ามาทำจริงจะถูกยึดหนังสือเดินทาง กักขัง หรือไม่มีสิทธิ์ไปไหนมาไหนจนกว่าจะใช้แทก (ทุนค่าจัดหางานและค่าตั๋วเครื่องบิน) จนหมด
ถ้างานนาบ (มีเพศสัมพันธ์กับลูกค้า) ต้องทำงานฟรีๆ ด้วยการหลับนอนกับแขก 75 คน สมมติค่าบริการที่ 1 แสนวอนต่อคน ร้านนวดจะได้ 7.5 ล้านวอน ซึ่งอาจจะมากกว่านี้ โดยนายหน้าจะได้ค่าหัว 2 ล้านวอน บอสได้ต่อหัว 7-10 ล้านวอน เป็นเหตุทำให้คนไทยเป็นที่ต้องการของร้านนวดนาบในเกาหลี ยิ่งช่วงนี้ตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้กวาดล้างหนัก ราคาค่านายหน้าก็สูงขึ้น กระตุ้นให้นายหน้าทำทุกวิถีทางให้ผู้หญิงไทยเข้ามาทำงานที่นี่แม้กระทั่งการล่อหลอกหรือหลอกลวง
“เหยื่อหลายคนเล่าว่า งานขายบริการทางเพศที่นี่ไม่ใช่แค่มีเพศสัมพันธ์กับแขกเท่านั้น ต้องทำทุกอย่างเพื่อกระตุ้นอารมณ์ทางเพศเพื่อให้แขกพอใจ ถ้าทำไม่ได้จะโดนทำร้ายหรือด่าทอ บางคนไม่ยอมจะถูกข่มขืนจากคนเกาหลีหลายคน ดังนั้น คนที่ทำงานแบบนี้ได้ไม่ใช่ขายแค่ร่างกาย ต้องขายจิตวิญญาณด้วย ต้องเอาสุขภาพไปเสี่ยงกับโรคที่เกิดจากการเพศสัมพันธ์ ทำงานไม่มีวันหยุด ให้พักรอบเดือน หลายคนยอมยัดลูกเจี๊ยบ (ฟองน้ำขนาดเล็ก) ใส่ช่องคลอดเพื่อไม่ให้รอบเดือนมา เป็นสิ่งที่อันตรายต่อสุขภาพมากแต่ก็ทำกันพอมดลูกอักเสบก็กินยาเอา เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจที่หลายคนเห็นแก่เงินที่จะได้มากกว่าสุขภาพ”
เพจดังกล่าวระบุอีกว่า สถานการณ์โรคเอดส์ในเกาหลีตอนนี้กำลังระบาดหนักขึ้น แต่ไม่มีข่าวแพร่เพราะคนรอบข้างช่วยกันปกปิด แอบไปรักษาเองบ้าง เป็นแล้วไม่รู้ว่าเป็นบ้าง นักเที่ยวเกาหลีก็ไม่ชอบใส่ถุงยางอนามัยป้องกันบ้าง เป็นภัยมืดที่อันตรายแต่หลายคนยังไม่ตระหนักหรือเตรียมตัว หรือหลายคนพร้อมตายไปกับอาชีพนี้เพื่อแลกกับเงินที่หาได้ ทั้งนี้ กรณีเหยื่อหนีออกจากขบวนการลักลอบส่งคนเข้ามาทำงานแล้ว ถ้าไม่อยากทำงาน หนีการจ่ายค่าแทก จะโดนเอเยนซี่ตามราวี จะถูกขู่ ถูกประจาน ให้อับอาย คนไม่รู้ทันก็จะกลัวและต้องจ่ายเงินตามคำขู่ ใครที่หนีกลับบ้านแล้วยังถูกนายหน้าเอเยนชี่ข่มขู่ให้ไปแจ้งความได้ที่ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และสายด่วนผ่านสื่อโซเชียลคนไทยในต่างแดน SMS ที่หมายเลข +66991301300 หรือไอดีไลน์ sac1300news