xs
xsm
sm
md
lg

สถาปนา 'สมเด็จพระราชินีสุทิดา' (Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7

(สรุปข่าวประจำวันที่ 27 เม.ย. ถึง 3 พ.ค. 2562)

โปรดเกล้าฯ สถาปนา 'สมเด็จพระราชินีสุทิดา'

เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2562 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ สถาปนา พลเอกหญิง สุทิดา วชิราลงกรณ์ ณ อยุธยา เป็น สมเด็จพระราชินีสุทิดา โดยที่ทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสถูกต้องตามกฎหมาย และราชประเพณีโดยสมบูรณ์ทุกประการ ทั้งนี้ ผู้อำนวยการเขตดุสิต เฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายสมุดจดทะเบียนราชาภิเษกสมรส ทรงลงพระปรมาภิไธย และพระนามาภิไธย ในสมุดทะเบียนราชาภิเษกสมรส โดยมี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นสักขีพยาน และ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ในฐานะสักขีพยาน

สมเด็จพระราชินีสุทิดา ประสูติเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 2521 มีพระนามเดิมว่า สุทิดา ติดใจ ทรงสำเร็จการศึกษาหลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต จากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เมื่อปี 2543 ก่อนที่ทรงเข้าทำงานเป็นพนักงานต้อนรับของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ต่อมาทรงดำรงตำแหน่งเป็น นายทหารปฏิบัติการพิเศษ สำนักงานนายทหารปฏิบัติการพิเศษในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ สำนักผู้บัญชาการทหารสูงสุด (อัตรา พลตรี) และยังทรงเคยดำรงตำแหน่งเป็นรองผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ (อัตรา พลเอกพิเศษ)

รวมทั้งได้รับพระกรุณาให้เป็นราชองครักษ์เวรในพระองค์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ ทั้งนี้ ทรงเข้ารับการศึกษา โรงเรียนเสนาธิการทหารบก รุ่น 91 ในปี 2556-2557 และ วิทยาลัยการทัพบก (วทบ.) รุ่น 59 อันเป็นหลักสูตรการศึกษาสำหรับนายทหารระดับที่จะเป็นผู้บังคับหน่วย ทรงพระปรีชาด้านการทหาร ผ่านหลักสูตรการฝึกต่างๆ มีความแข็งแรงและแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ ทรงตั้งพระทัยในการฝึกจนได้รับคำชมเชยจากครูฝึกในทุกหลักสูตร ที่ทรงมีความมุ่งมั่น และใส่ใจในการฝึกจนสำเร็จ

ประวัติศาสตร์ 'ญี่ปุ่น' เปลี่ยนรัชสมัย จาก 'เฮเซ' สู่ 'เรวะ'

เป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ต่างแดน เมื่อวันที่ 30 เม.ย. มีพระราชพิธีประกาศการสละราชบัลลังก์ สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ ซึ่งเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิองค์ที่ 125 พระชนมายุ 85 พรรษา ณ พระราชวังอิมพีเรียล กรุงโตเกียว โดยทรงเข้าพระราชพิธีสละราชสมบัติ พร้อมด้วยสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ เบื้องหน้าเครื่องราชกกุธภัณฑ์ อันรวมถึงพระขรรค์โบราณและสังวาลย์ศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นการสิ้นสุด 'รัชศกเฮเซ' ซึ่งยืนยาวนาน 30 ปี และเริ่ม 'รัชศกเรวะ' ในวันรุ่งขึ้น ยาวนานไปตลอดรัชสมัยของสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ

จากนั้นวันที่ 1 พ.ค. มีพระราชพิธีสืบราชสมบัติ ของสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ พระชนมพรรษา 59 พรรษา เป็นสมเด็จพระจักรพรรดิองค์ที่ 126 โดยมีพระปฐมบรมราชโองการ ความว่า "ข้าพเจ้าให้คำมั่นว่า ข้าพเจ้าจะระลึกถึงประชาชนอยู่เสมอ พร้อมกันกับการยืนหยัดเคียงข้างพวกเขาและปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นและความเป็นเอกภาพของประชาชนญี่ปุ่นตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ" ทรงให้คำมั่นจะสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระราชบิดา ที่ปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชน และจะสืบสานอย่างจริงจัง

สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ จะเสด็จออกสีหบัญชรเพื่อให้พสกนิกรเข้าเฝ้าฯ เป็นครั้งแรกในวันที่ 4 พ.ค. ส่วนพระราชพิธีฉลองบรมราชาภิเษก จะจัดขึ้นในวันที่ 22 ต.ค. โดยสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ จะฉลองพระองค์เครื่องทรงโบราณตามราชประเพณีในพระราชพิธีที่จัดภายในพระราชวัง จากนั้นพระองค์จะเสด็จในขบวนพยุหยาตราผ่านท้องถนนในกรุงโตเกียว และรับการถวายพระพรจากผู้นำประเทศและสมาชิกราชวงศ์จากทั่วโลก

อันดับ 3 : 'ธนาธร' แจงหุ้นสื่อ โวยไม่จบไม่สิ้น ขู่พรรคอื่นก็มี-ถ้าใช้บรรทัดฐานนี้ทุกพรรคหายหมด

หลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติแจ้งข้อกล่าวหา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กรณีถือครองหุ้น บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจสื่อ อาจเข้าข่ายขัดคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส. เมื่อวันที่ 30 เม.ย. นายธนาธรนำหลักฐาน 26 รายการมาชี้แจง ย้ำว่าการโอนหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย ให้นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดา สำเร็จตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. แต่มีสำนักข่าวแห่งหนึ่งไม่จบไม่สิ้น หาก กกต.เลือกปฏิบัติจะฟ้องกลับมาตรา 157 ระบุ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอื่นมีลักษณะเดียวกัน ถ้าใช้บรรทัดฐานนี้ทุกพรรคคงหายไปหมด

ด้านนายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. ชี้แจงกลับไปในวันต่อมา ว่า ถ้า กกต.ทำไม่ถูกต้องก็ฟ้องได้ เรื่องดังกล่าวมีผู้ร้องมาตั้งแต่ เดือน มี.ค. ขณะนี้ผ่านไปเดือนกว่าแล้วถ้าคิดว่าเร่งรัดก็ลองพิจารณาดูว่าจริงหรือไม่ และที่นายธนาธรกล่าวหาว่าว่าถูกแทรกแซงทางการเมือง หรือกระบวนการไต่สวนของ กกต. ถูกแทรกแซง หลักฐานคืออะไร กกต. บอกได้แค่ว่าอาจจะเข้าข่ายเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้าม แต่คณะกรรมการสืบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ แล้วนำเสนอต่อ กกต.พิจารณา

ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นคำร้องต่อ กกต.ขอให้ตรวจสอบนายชาญวิทย์ วิภูศิริ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 15 พรรคพลังประชารัฐ, พล.ต.ต.ลัทธสัญญา เพียรสมภาร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และนายนพชัย ศรีสุวนันท์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยเป็นกรรมการบริษัทธุรกิจสื่อ เช่นเดียวกับ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ, นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ และนายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย

อันดับ 4 : คึกคะนอง-ไร้วุฒิภาวะ! พนักงาน "เคอร์รี่ เอ็กซ์เพรส" แกะ "เซ็กซ์ทอย" ลูกค้า

เรื่องอื้อฉาวในบริษัทขนส่งชื่อดัง แกะพัสดุประจานลูกค้าครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 เม.ย. ในโซเชียลมีเดียได้ประณามพฤติกรรมพนักงานบริษัทรับส่งพัสดุและสินค้า "เคอรี่ เอ็กซ์เพรส" แกะพัสดุของลูกค้าอ้างว่าชำรุด แล้วเจอเป็นเซ็กซ์ทอย จึงโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัวในเชิงล้อเลียนว่า "เดี๋ยวจะรีบไปส่งให้นะครับ สงสัยของขาดจริงๆ" นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยที่อยู่ของลูกค้า หลังเพื่อนคอมเมนต์ถาม ทำให้ผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้หญิงเมื่อทราบข่าวได้รับความอับอาย และถึงขั้นมีปัญหาครอบครัว เหตุเกิดที่ อ.สามพราน จ.นครปฐม

ต่อมา บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด ออกแถลงการณ์ระบุว่า ผู้กระทำความผิดเป็นพนักงาน 4 คน ในศูนย์กระจายสินค้าแห่งหนึ่งที่จังหวัดนครปฐม บริษัทฯ ได้เลิกจ้างพนักงานทันที และหัวหน้าเขตถูกดำเนินการทางวินัย วันเดียวกันมีการเจรจาระหว่างผู้เสียหาย กับพนักงานทั้ง 4 คน ที่สาขาสามพราน พบว่าเป็นพนักงานคัดแยกสินค้า ยอมรับว่าคึกคะนอง ไร้วุฒิภาวะ และไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบว่า จะบานปลายขนาดนี้ บทสรุปก็คือ ผู้เสียหายได้รับการชดเชยและให้อภัย โดยมีเงื่อนไขว่าพนักงานจะไม่มีการคุกคามใดๆ ทั้งสิ้น

อันดับ 5 : วัดดังแทบแตก! แจกทุเรียนฟรีวันแรงงาน รถติดพินาศ-จวกยับหลอกให้บริจาคเงิน

สร้างความฮือฮาอย่างต่อเนื่องสำหรับวัดดัง อย่างวัดท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ซึ่งเป็นวันแรงงานแห่งชาติ ประชาชนจากทั่วสารทิศแห่เดินทางกันไปที่วัดตั้งแต่เช้า เพื่อหวังทานทุเรียนฟรี 5,000 กิโลกรัม ที่ศิษยานุศิษย์และคณะกรรมการวัดท่าไม้ นำมาแจกให้กับประชาชน ทำเอาการจราจรติดขัดบนถนนเพชรเกษม และถนนเศรษฐกิจ 1 หลังเสร็จสิ้นการแจกทุเรียนพบว่าในโลกโซเชียลมีคนแฉว่า วัดเก็บค่าจอดรถ ต้องทำบุญ 100 บาทขึ้นไปถึงจะได้กินทุเรียนคนละพู และวิจารณ์ว่าเป็นเพียงการตลาดของวัดเท่านั้น

เรื่องนี้ทำเอาพระญาณวิกรม (พระอาจารย์อุเทน สิริสาโร) เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ ต้องแถลงข่าวขอโทษในความผิดพลาด ความไม่เป็นระเบียบและจราจรติดขัด และจะรับปรับปรุงแก้ไข ยืนยันว่าทางวัดไม่เคยเก็บค่าจอดรถ และไม่เคยบังคับให้ทำบุญ 100 บาทเพื่อแลกกับทุเรียน ทางคณะกรรมการเห็นว่าญาติโยมมากันจำนวนมาก จึงให้ทานคนละพูก่อน ใครไม่อิ่มก็ทานเพิ่มได้ รวมทั้งจะขอแก้มือใหม่ จัดมหกรรมกินทุเรียนครั้งที่ 2 ยิ่งใหญ่กว่าเดิม และจะให้ญาติโยมได้ทานแบบอิ่มไม่อั้นดังเจตนาที่ตั้งไว้แต่แรก โดยจะรีบดำเนินการในช่วงหน้าทุเรียนนี้

อันดับ 6 : ทางเท้าเจ้าปัญหา! กทม. ทุบฟุตปาธโรงแรมดังย่านสุขุมวิท แจงกลัวลื่น-เจ้าของให้รื้อ

กลายเป็นเรื่องที่คนกรุงฯ วิจารณ์อย่างหนัก เมื่อวันที่ 27 เม.ย. เฟซบุ๊ก "กลุ่มคนไทยขอทวงคืนทางเท้า" ได้โพสต์ภาพทางเท้าบริเวณหน้าโรงแรมเจ ดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ ปากซอยสุขุมวิท 2 ถนนสุขุมวิท แขวงและเขตคลองเตย กรุงเทพฯ ถูกผู้รับเหมาทำการรื้อทางท้าซึ่งบุด้วยกระเบื้องสีดำ ที่ทางโรงแรมเป็นผู้ทำเองเมื่อสิบปีก่อน ทั้งที่ยังมีสภาพดี สวยงาม ไม่ผุ ไม่พัง ทำให้เป็นสาธารณะสมบัติแก่ชาวกรุงเทพฯ เชื่อว่าจะเอาแผนปูที่เราเห็นมาใส่แทน ทำแบบหลวมๆ ลวกๆ ข้างล่างอัดทรายง่ายๆ เดินแล้วน้ำกระเด็นดีดแบบเดิม

อย่างไรก็ตาม นายศักดิ์ชัย บุญมา ผู้อำนวยการสำนักการโยธา ชี้แจงว่า ทางเท้าดังกล่าวประชาชนร้องเรียนว่าฝนตกแล้วพื้นลื่น เพราะใช้พื้นแกรนิต อีกทั้งมีรอยปริแตก เมื่อ กทม. มีโครงการปรับปรุงทางเท้าตั้งแต่ใต้ทางด่วนเพลินจิตถึงแยกอโศก กทม. จึงได้พูดคุยกับเจ้าของโรงแรม จึงให้ กทม. รื้อทางเท้าเดิมแล้วปรับปรุงให้เหมือนกันในคราวเดียว ส่วนวัสดุปูทางเท้าจะคงทนหรือไม่อยู่ที่การใช้งาน เมื่อใช้งานผิดประเภท มีรถจักรยานยนต์ รถใหญ่มาใช้ทางเท้า ก็ทำให้กระเบื้องทางเท้าหลุดร่อนแล้วแตกได้

อันดับ 7 : โป๊ะแตก! หนุ่มกางเกงเจเจนั่งรถเมล์ ถือไอโฟน 8 พลัส ที่แท้ขโมยมา พลเมืองดีช่วยจับ

เรื่องราวพลเมืองดีที่ช่วยจับคนร้ายลักทรัพย์รายนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 เม.ย. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก JibJib Pongpakkittikul ซึ่งเป็นผู้โดยสารรถเมล์สาย 180 อู่สาธุประดิษฐ์-มหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 (บางนา) ระบุว่า พบชายคนหนึ่งแต่งตัวเสื้อยืด กางเกงเจเจ ยืนถือโทรศัพท์ไอโฟน 8 พลัส เมื่อมีสายเข้าก็ตัดสายทิ้งเป็นสิบรอบ และไม่มีพาสเวิร์ดเข้าเครื่อง ทันใดนั้นผู้ชายนั่งเบาะหลังสังเกตเบอร์โทรเข้า จึงโทร.ไปที่เบอร์ดังกล่าว พบว่าเป็นเจ้าของเครื่องตัวจริง แจ้งว่าโทรศัพท์หายพร้อมรถจักรยานยนต์ จึงแจ้งพนักงานเก็บค่าโดยสารและเรียกตำรวจจับกุม

ผู้ก่อเหตุคือ นายบอย ดีมาเลิศ อายุ 25 ปี ชาว จ.ศรีสะเกษ ล้วงเอาโทรศัพท์ของนายวีรชาติ ภนาดร อายุ 26 ปี จอดรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 125 สีน้ำเงิน ไว้ที่หน้าลานคนเมือง ตรงข้ามไปรษณีย์ปากลัด อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 03.30 น. นั่งดื่มเบียร์อยู่ริมเขื่อนจนหลับ ตื่นขึ้นมาพบว่ารถจักรยานยนต์และโทรศัพท์มือถือหาย จึงแจ้งความไว้ที่ สภ.พระประแดง ผู้ก่อเหตุสารภาพเห็นผู้เสียหายเมาหลับ จึงหยิบโทรศัพท์และกุญแจรถจักรยานยนต์ ขับขี่หลบหนีไปทางตลาดคลองเตย ก่อนทิ้งรถแล้วขึ้นรถเมล์ แต่ถูกจับเสียก่อน

อนึ่ง พ.ต.อ.สุรชัย เจ็ดพี่น้องร่วมใจ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ และ พ.ต.อ.สุทธิโรจน์ ไกรวชิรสิทธิ์ ผกก.สภ.พระประแดง ได้มอบประกาศเกียรติคุณให้กับพลเมืองดีทั้ง 3 คน คือ นายคาเล็ด ฮัสซัน อายุ 27 ปี ผู้โดยสารที่นั่งเบาะหลัง ที่พยายามชำเลืองเบอร์โทรเข้าครั้งละ 3 ตัว แล้วโทรกลับหาผู้เสียหาย, นางณฤดี อุสาห์ดี พนักงานเก็บผู้โดยสาร ที่รับแจ้งจากนายคาเล็ด แล้วไปบอกนายไชยรัตน์ ศรีสวัสดิ์ พนักงานขับรถประจำทาง กระทั่งจอดรถที่ป้อมตำรวจ ด่านสุขุมวิท 62 เพื่อนำตัวคนร้ายให้ตำรวจดำเนินคดี