ช.ส.ท. จัดคาราวานแรลลี่ท่องเที่ยว “More Fun สีสันตะวันออก เฉลิมพระเกียรติ” ครั้งที่ 1/2562 สมุทรปราการ-ฉะเชิงเทรา เพื่อประชาสัมพันธ์และส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวผ่านสื่อมวลชนจากประสบการณ์ที่ลงสัมผัสพื้นที่จริง
เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา ณ สยามนิรมิต กรุงเทพฯ ชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว (ชสท.) จัดคาราวานรถยนต์ท่องเที่ยว ช.ส.ท. ครั้งที่ 1/2562 สมุทรปราการ-ฉะเชิงเทรา ภายใต้คอนเซ็ปต์ “More Fun สีสันตะวันออก เฉลิมพระเกียรติ” โดยได้รับเกียรติจาก นายเธนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้เกียรติเป็นประธานปล่อยขบวน ณ สยามนิรมิต กรุงเทพฯ นางวรางคณา สุเมธวัน ประธานชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้การต้อนรับและกล่าวขอบคุณ ที่สนับสนุนกิจกรรมเพื่อประชาสัมพันธ์อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย มีสมาชิกให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมากถึง 15 คัน 40 คน สำหรับกิจกรรมคาราวาน แรลลี่ ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 - 28 เมษายน 2562
จุดหมายแรกขบวนคาราวาน แรลลี่ “More Fun สีสันตะวันออก เฉลิมพระเกียรติ” นำโดย นางวรางคณา สุเมธวัน ประธานชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว เข้าเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ สังกัดกองประวัติศาสตร์ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ต.ปากน้ำ จ.สมุทรปราการ พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ มี นาวาโท สงวน เกลียวรุ่งสวัสดิ์ หัวหน้าพิพิธภัณฑ์ กปศ.ยศ.ทร. ให้การต้อนรับ สำหรับ พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ เป็นแหล่งรวบรวมและอนุรักษ์ อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ อาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ในกิจการทหารเรือ ที่เคยใช้งานจริงในกองทัพเรือไทย ทั้งยังจัดแสดงข้อมูลทางประวัติศาสตร์ เรือจำลองสมัยต่างๆ เพื่อเป็นการให้ความรู้ บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
จุดหมายที่สองชมความงามอลังการของศิลปกรรมแบบจีน ไหว้เทพเจ้าขอพรที่ “ศาลเจ้าเสียนหลอไต้เทียนกง” มูลนิธิธรรมกตัญญู สักการะเทพเจ้า 5 องค์ที่ศักดิ์สิทธิ์ จ.สมุทรปราการ “เสียนหลอไต้เทียนกง” มีชื่อเรียกเป็นภาษาไทยว่า “มูลนิธิธรรมกตัญญู” เป็นศาลเจ้าขนาดใหญ่ บนเนื้อที่ประมาณ 26 ไร่ “ศาลเจ้าเสียนหลอไต้เทียนกง” เป็นศาลเจ้าของมูลนิธิหนานคุณเซินไต้เทียนฟู่ ซึ่งมีความศรัทธาในเรื่องเทพเจ้าโหงว มีผู้มาสร้างศาลเจ้าแห่งนี้ขึ้นในปี พ.ศ.2534 สร้างโดยศิลปกรรมแบบจีนที่เน้นสีสันงดงาม รวมทั้งการแกะสลักไม้ หิน ปูนปั้นเป็นรูปเทพเจ้าและสัตว์ต่างๆ ทำได้สวยสดงดงามประณีตและมีความใหญ่โตโอ่โถง
จุดหมายต่อไปคือ เมืองโบราณ พิพิธภัณฑ์จำลองสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในประเทศกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก บนพื้นที่กว่า 800 ไร่ โดย นายสุวัฒน์ สุขสัมฤทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) และคณะให้การต้อนรับนำชม พร้อมบรรยายบนรถรางนำชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ภายในเมืองโบราณด้วยตนเอง สำหรับเมืองโบราณนั้น ตั้งอยู่ติดถนนสุขุมวิท ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2506 โดยนายเล็ก วิริยะพันธุ์ นักธุรกิจเจ้าของบริษัทวิริยะประกันภัยและเครือธนบุรีพานิช จำกัด เมืองโบราณ เปิดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2515 ภายในถูกจัดวางเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศไทยในทุกภาค ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และ ภาคอีสาน ซึ่งแต่ละภาคยังมีการพัฒนาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ ภายในเมืองโบราณ ยังมีพื้นที่สำหรับเปิดบริการเป็นตลาดน้ำ กาดมั่วของภาคเหนือ จำหน่ายอาหารและบริการของที่ระลึกต่างๆ ตลอดจน โรงแรมที่พัก ชื่อว่า “ค่ายริมขอบฟ้า” ซึ่งทางคณะยังได้พักรับประทานหารมื้อกลางวัน พร้อมรับของที่ระลึก จากตัวแทนฝ่ายสื่อสารองค์กรวิริยะประกันภัยอีกด้วย
จากนั้นเดินทางไปสักการะหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดวรวิหาร วัดโสธรวรารามวรวิหาร เดิมชื่อว่า วัดหงษ์ สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อพุทธโสธร” พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของฉะเชิงเทรา เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิ
หลังจากนั้นในช่วงเย็นขบวนคาราวาน ช.ส.ท. เดินทางเข้าร่วมงาน “แปดริ้วฟู้ดเฟส” เทศกาลอาหารถิ่นจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 2 ตรงข้ามสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดฉะเชิงเทรา ถนนมรุพงษ์ อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา มีบูธอาหารถึง 40 บูธ พร้อมด้วย Food Truck รถบริการความอร่อยแบบหลากหลายจำนวน 10 คัน และ Chef’s Table เมนูสุดพิเศษโดยเชฟชาวฉะเชิงเทราที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ เป็นครั้งแรกในฉะเชิงเทรา นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมบันเทิงต่างๆ บรรเลงบทเพลงแนวเพลงสบายๆ ท่ามกลางบรรยากาศริมแม่น้ำบางปะกง ร่วมช้อป ชิม ชิล แชะ กับบรรยากาศเทศกาลอาหารที่รวบรวมของดีเมืองแปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา ไว้ที่นี่ในงานนี้อย่างจุใจ มีทั้งปลากะพงยักษ์ที่มีที่นี่เพียงแห่งเดียวเท่านั้น นำมาสร้างสรรค์เมนูได้น่ารับประทานหลากหลาย เช่น สเต็กปลากะพงยักษ์ แกงเขียวหวานปลากะพงกับขนมจีนและไข่ต้มยางมะตูม ลวกจิ้ม และอาหารที่ทำจากนมควายมูร่าห์ ขนมปังปิ้ง ไอศกรีม รวมถึงผลิตภัณฑ์จากพื้นที่การเกษตรหลากหลาย อาหารอร่อยขึ้นชื่อของเมืองแปดริ้วต่างๆ จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 26-28 เมษายน 2562
นางสาวบุญยานุช วรรณยิ่ง ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานฉะเชิงเทรา กล่าวต้อนรับเขิญชวนชิม เที่ยวชมพื้นที่ สร้างประสบการณ์ More Fun สีสันตะวันออก พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน บรรยากาศริมน้ำบางปะกง “อยากจะเชิญชวนทุกท่าน เข้ามาสัมผัสงาน “เทศกาลอาหารถิ่น แปดริ้วฟู้ดเฟส” ซึ่งครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยร่วมกับจังหวัดฉะเชิงเทรา และเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา จัดงานนี้ขึ้นมาเพื่อให้ทุกท่านได้มาสัมผัสกับบรรยากาศเดินเล่นชมวิวริมแม่น้ำบางประกง ช้อป ชิม ชิล กับอาหารอร่อยๆ ที่นำมาจากท้องถิ่นของเมืองแปดริ้วที่มีความอร่อย สด สะอาด ที่จัดขึ้นในงานนี้ถึง 40 บูธด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นกุ้งเผา เป็ดพะโล้ ปลากะพงยักษ์ ฯลฯ สามารถซื้อมาและนั่งรับประทานกันได้เลยพร้อมฟังเพลงในบรรยากาศ มินิออร์เคสตร้า ชมวิวบรรยากาศของฝั่งแม่น้ำบางปะกง งานนี้มีเพียง 3 วัน ยินดีต้องรับเข้าสู่งานแปดริ้วฟู้ดเฟสค่ะ
สำหรับใครที่มาไม่ทันก็สามารถมาเที่ยวที่แปดริ้วได้ ซี่งตอนนี้เราจะเน้นการท่องเที่ยววันธรรมดา คือมาพักค้างโรงแรมในจังหวัดฉะเชิงเทราคืนวันอาทิตย์ถึงวันพฤหัสบดี จะได้รับของที่ระลึกจาก (ททท.) คือองค์หลวงพ่อโสธรองค์เล็กๆ นำกลับไปบูชา ส่วนสมุทรปราการช่วงนี้มีคู่มือแจกในเรื่องของการปั่นจักรยาน เที่ยวบางน้ำผึ้ง หรือคุ้งบางกะเจ้า ที่นั่นมีจักรยานให้เช่าเพียง 50 บาทต่อคันเท่านั้นสามารถปั่นได้ทั้งวัน ชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และสามารถร่วมกิจกรรมได้ด้วย ตามคู่มือที่แจกให้ สำหรับสมุทรปราการเราขายริมแม่น้ำเจ้าพระยาริมปากอ่าว ส่วนฉะเชิงเทราเราขายริมแม่น้ำบางประกงและของที่เกิดจากแม่น้ำบางประกง เช่น กุ้งแม่น้ำ ปลากะพงยักษ์ เรามีให้ได้ช้อป ชิม ชิล แชะกันค่ะ
หรือถ้ามาไม่ทันงงานนี้เราก็มีการท่องเที่ยวแบบชุมชม สามารถไปเที่ยวชมและเรียนรู้ทำกิจกรรมที่ สวนมะม่วง สวนมะพร้าว เพราะที่นั่นชาวสวนเตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยรอยยิ้ม เช่น สวนมะพร้าวน้ำหอมต้นเตี้ยๆ 20 วันเก็บครั้งหนึ่งได้เลย ซึ่งชาวสวนก็จะมีรายได้เป็นกอบเป็นกำที่จะเลี้ยงตัวเองด้วย เพราะว่าสวนมะพร้าวที่นี่ ส่งห้างโรตัส แมคโคร และส่งออกต่างประเทศด้วย เช่นที่ เกาหลี ญี่ปุ่น ต้องไปชมว่าสวนมะพร้าวคลองเขื่อนมีวิธีการปลูกอย่างไร มีการ “ขยำขยะ” ให้เป็นทองอีกด้วยโดยนำขยะจากเปลือกมะพร้าวที่ชาวบ้านต้องปลอกทิ้ง นำมาแปรรูปและต่อยอดในการเกษตรจนเป็นรายได้เสริม สร้างอาชีพเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งจบ งานแปดริ้วฟู้ดเฟส ก็ยังสามารถมาเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำได้ค่ะ” นางสาวบุญยานุช กล่าว
ด้านนางวรางคณา สุเมธวัน ประธานชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว กล่าวว่า “สำหรับการจัดคาราวาน แรลลี่ ท่องเที่ยว “More Fun สีสันตะวันออก เฉลิมพระเกียรติ” ซึ่งเราต้องการผสมผสานนำเอาทั้งคาราวานและแรลรี่มาไว้ด้วยกัน ในจุดที่หา RC ในแรลลี่ี่ เราจะช่วยกันมาทำการสืบค้นวัฒนธรรม สืบค้นวิถีชีวิต ของคนในพื้นที่ ซึ่งวันนี้เรามาในจังหวัดสมุทรปราการ และ จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นโอกาสอันดีที่เราได้มาร่วมงานนี้ก็ คือ งานอาหารดี ของดี แปดริ้ว “แปดริ้วฟู้ดเฟส” ได้เห็นบรรยากาศแล้วเชื่อว่าต้องดีจริงๆ เพราะได้เดินไปชิมมาแล้ว บรรยากาศที่จัดเป็นแบบกระทัดรัดน่ารักแต่ว่าพร้อมสมบูรณ์ไม่ว่าจะเป็น สายน้ำ สายลม เสียงเพลง อาหารอร่อยบรรยากาศน่ารักๆ ไม่ใหญ่มาก แต่ว่ารวมทุกสิ่งทุกอย่างมาไว้ที่นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้มาเห็น ขอบคุณ ผอ.บุญยานุช วรรณยิ่ง ที่แนะนำที่นี่ของดีแปดริ้วจริงๆ ดีทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ สีสัน ความชื่นใจ เห็นแล้วนึกถึงเพลงเก่าๆ เพลงแม่น้ำบางปาประกง อันนี้เรามาถึงที่นี่แล้วจริงๆ ใครที่ยังไม่เคยมาที่นี่ไม่ต้องจัดเป็นคาราวานหรือแรลรี่ อะไรก็ได้แปดริ้วเมืองใกล้ๆ บ้าน ขับรถมาแป๊บเดียว มาไหว้พระ มาไหว้เทพ มาทานอาหารอร่อย มาสัมผัสวิถีชีวิตของคนแปดริ้วที่ยังรอพี่น้องชาวไทยมาเที่ยวกันค่ะ”
นอกจากนี้ คณะผู้สื่อข่าวและสมาชิกชมรม (ช.ส.ท.) ยังได้เข้าเที่ยวชม “เทวสถานอุทยานพระพิฆเนศ” คลองเขื่อน พระพิฆเนศองค์ใหญ่นี้มีชื่อเรียกว่า “ปางยืน องค์ใหญ่ที่สุดในโลก รุ่นเนื้อสำริด สำเร็จ สมปรารถนา” นับได้ว่าเป็นองค์พระพิฆเนศที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีขนาดสูงถึง 39 เมตร เนื้อองค์ทำจากสำริด พระหัตถ์ทั้ง 4 นั้นถือ ดอกบัว มะม่วง กล้วย อ้อย และขนุน และที่พระบาทมีหนูกอดลูกมะพร้าว ซึ่งมีความหมาย คือ ความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน พระพิฆเนศปางสำริด สำเร็จสมปรารถนานี้จะประดิษฐาน ณ ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา
เยี่ยมชม ศูนย์เรียนรู้เกษตรชุมชน บ้านบางค้างคาวโมเดล Smile Lemon ชม ชิม ช้อป มะพร้าวน้ำหอมแปดริ้ว ผลิตภัณฑ์ชุมชน ขนมจาก ไอครีมกะทิสด COCO COWBOY เกษตรเพื่อการท่องเที่ยว สุดฟิน สะพานไม้ไผ่ที่สูงเกือบเท่ายอดมะพร้าว ชมสวนมะพร้าวน้ำหอมคุณราตรี และวิถิชุมคนทำสวนมะพร้าว สนุกสนานเรียนรู้ดูวิถีเกษตรของชุมชนบ้านบางค้างคาว “ขยำขยะให้เป็นทอง” ดื่มน้ำมะพร้าวน้ำหอมอร่อยที่สุดในประเทศไทยที่สวนคุณราตรี
ก่อนกลับแวะชมโบสถ์สีทอง “วัดปากน้ำโจ้โล้” ตั้งอยู่ อ. บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ชมพระอุโบสถหนึ่งเดียวในประเทศไทย ที่ทาสีทองทั้งหลัง ทั้งภายในและภายนอก งดงามตะการตาดั่งมาบนสรวงสวรรค์ ภายในอุโบสถยังสามารถลอดใต้ฐานพระประธานเพื่อความเป็นสิริมงคล แต่เดิม วัดปากน้ำโจ้โล้เป็นสำนักสงฆ์ ในอดีตบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของทัพพม่า ซึ่งยกทัพบกทัพเรือไปปะทะกับกองทัพ สมเด็จพระเจ้าตากสินต่อมาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงมีชัยจึงโปรดฯ ให้สร้างเจดีย์ไว้เป็นอนุสรณ์
และซื้อของฝากของที่ระลึกจากร้านขนมเปี๊ยตั้งเซ่งจั๊วและตลาดมะม่วงคุณภาพส่งออก โดย นางวรางคณาฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ขอขอบคุณหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่สนับสนุนโครงการนี้ ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), ททท.สำนักงานฉะเชิงเทรา รับผิดชอบพื้นที่ ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ บริษัทวิริยะประกันภัย จำกัด(มหาชน) เที่ยวไทย ฯลฯ และสื่อมวลชนทุกสำนักที่เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้”
เรื่อง : อรวรรณ เหม่นแหลม