xs
xsm
sm
md
lg

“กรมบังคับคดี” พร้อมรับสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าสู่ระบบบังคับคดี-ใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“อธิบดีกรมบังคับคดี” แจง ยุคเทคโนโลยีเน้นปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ส่วนการบังคับคดีสินทรัพย์ดิจิทัล ต้องรวดเร็ว-โปร่งใส-ไร้พรมแดน

วันนี้ (26 เม.ย.) ณ ห้องริเวอร์ไซต์ 7 โรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน กรุงเทพฯ น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี เป็นประธานแถลงข่าวผลจัดการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยการบังคับคดีแพ่งในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างฉับพลัน ระหว่างวันที่ 25-26 เม.ย. 62 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ มุมมองเกี่ยวกับกฎหมาย กฎระเบียบ ระบบ และแนวปฏิบัติที่ดีเลิศด้านการบังคับคดีแพ่ง มุ่งเน้นเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว และนวัตกรรมดิจิทัลกับการบังคับคดีแพ่งในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างฉับพลัน เป็นการพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือ และความสัมพันธ์ที่ดีด้านการบังคับคดีแพ่ง ระหว่างหน่วยงานด้านการบังคับคดีภาครัฐและภาคเอกชนในกลุ่มประเทศอาเซียน ประเทศคู่เจรจา และองค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง

น.ส.รื่นวดี กล่าวว่า ผลการสัมมนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่มีความท้าทายและเป็นประเด็นที่มีความเป็นทันสมัยใน 3 หัวข้อที่สำคัญ ดังนี้ 1.การบังคับคดีกับสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นสินทรัพย์รูปแบบใหม่อยู่ในรูปอิเล็กทรอนิกส์และมีคุณค่าทางเศรษฐกิจ สามารถก่อให้เกิดรายได้มหาศาลในโลกปัจจุบัน รวมถึงฐานข้อมูลต่างๆ ซึ่งสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถบังคับคดีได้ โดยเป็นลักษณะของการอายัดสิทธิเรียกร้อง ทั้งนี้ กฎหมายที่ใช้บังคับกับสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ควรเป็นกฎหมายกลาง เนื่องจากลักษณะการทำธุรกรรมของสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นธุรกรรมที่ดำเนินการรวดเร็วและไร้พรมแดน โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain ซึ่งการ Blockchain ในภาครัฐ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชน สร้างความโปร่งใส สำหรับในเรื่องการออกกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล มีข้อที่ต้องพิจารณาในเรื่อง ความเสี่ยงที่เป็นระบบอันมีนัยยะถึงระบบการเงิน การคุ้มครองนักลงทุน ความโปร่งใส การป้องกันอาชญากรมการฟอกเงิน และไม่ควรจำกัดเพียง blockchain cryptocurrency การกำกับดูแลการผลิตสินทรัพย์ดิจิทัล

น.ส.รื่นวดี กล่าวอีกว่า 2.การเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิทัลและการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับกระบวนการบังคับคดี ภาพรวมของการบังคับคดีในแต่ละประเทศ เริ่มนำระบบเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบังคับคดีเพื่อความสะดวกรวดเร็ว ในการบังคับคดี เช่น ประเทศฝรั่งเศส สาธารณรัฐเกาหลี ประเทศญี่ปุ่น ยุโรปตะวันออกบางประเทศ และการบริหารจัดการข้อมูล ซึ่งฐานข้อมูลด้านการบังคับคดีของแต่ละประเทศจะเป็น Big Data ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ และมีการวิเคราะห์ข้อมูลโดย machine learning

“และ 3.ประเด็นความท้าทายในการนำเทคโนโลยีมาใช้กับการบังคับตามคำพิพากษาในคดีแพ่ง ซึ่งการบังคับคดีกับสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างครบวงจร ควรมีการจัดการอย่างเป็นระบบ เพื่อลดช่องว่างและความไม่สอดคล้องกับกฎหมาย ทั้งนี้ การบังคับคดีของบางประเทศ เช่น ประเทศสิงคโปร์ ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ตั้งแต่การยื่นฟ้อง มีกระบวนการเปิดเผยข้อมูลของทรัพย์สินของลูกหนี้และเจ้าหนี้ การเข้าถึงข้อมูลต่างๆ สามารถทำได้รวดเร็ว สำหรับการบังคับคดีในไทย ปัญหาคือการเข้าถึงข้อมูลของลูกหนี้ ที่ถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคล หน้าที่ในการติดตามทรัพย์สินเป็นหน้าที่ของเจ้าหนี้ เช่นเดียวกับในประเทศอื่นๆ”

น.ส.รื่นวดี กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการประชุมครั้งนี้ กรมบังคับคดีได้นำเสนอผลงานวิจัย เรื่อง “การบังคับคดีกับสินทรัพย์ดิจิทัล” ในที่ประชุมและได้รับการชื่นชมผลงานวิจัยดังกล่าว และกลุ่มประเทศยุโรปได้ขอนำงานวิจัยดังกล่าวไปศึกษาต่อไป อย่างไรก็ตาม การประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยด้วยการบังคับคดีแพ่งในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีถือเป็นการจัดประชุมครั้งแรกในหัวข้อนี้ และเพื่อให้เกิดการตระหนักรู้ และสร้างความรับรู้เพื่อศึกษาเพิ่มเติมต่อไป ทั้งนี้การประชุมอาเซียน จะมีการจัดขึ้นทุกปี โดยในปี 2563 จะเป็นเรื่องของการบังคับคดีล้มละลาย



กำลังโหลดความคิดเห็น