ผศ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกมาโพสต์เตือนผู้ป่วยโรคไต อย่าเชื่อ "สูตรใบยอ-มะตูมแห้ง" ต้มรักษาโรคไต ยิ่งดื่มยิ่งอันตราย
เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ผศ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว "Jessada Denduangboripant" เตือนหลังมีชาวเน็ตจำนวนมากต่างหลงเชื่อสูตรใบยอ-มะตูมแห้ง ต้มเพื่อรักษาผู้ที่ป่วยเป็นโรคไต ที่มีการนำมาแชร์อย่างมากในโลกโซเชียล ชี้ ไม่ช่วยรักษาโรคแถมยิ่งเป็นอันตรายมากขึ้น
โดย ผศ.เจษฎา ได้ระบุข้อความว่า "ใบยอ เป็นพืชที่มีฟอสฟอรัสสูง และเป็นแร่ธาตุที่คนเป็นโรคไตต้องระวังให้มาก เท่ากับธาตุโพแทสเซียมและแคลเซียม การดื่มน้ำต้มใบยอจึงไม่สามารถรักษาโรคไตได้ ซ้ำร้าย อาจทำให้อาการโรคหนักขึ้นอีกด้วย
ที่เป็นเช่นนี้ เนื่องจากไตจะไม่สามารถขับแร่ธาตุดังกล่าวออกมาได้อย่างปกติ ส่งผลให้เกิดการสะสมตัวของแร่ธาตุในเลือดเพิ่มสูงขึ้น จนสามารถนำไปสู่อาการของโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมา เช่น โรคกระดูกพรุน โรคนิ่วในไต หรือหากร่างกายสะสมในปริมาณมากก็สามารถนำไปสู่อาการไตวายเฉียบพลันได้
ที่สำคัญ ยังไม่พบรายงานการนำใบยอกับมะตูมแห้งมาต้มดื่มเพื่อรักษาอาการไตเสื่อม รวมถึงไม่พบงานวิจัยเกี่ยวข้องกับการรักษาโรคไตของพืชทั้งสองชนิด ทั้งในรูปของพืชเดี่ยวและใช้ร่วมกัน
ดังนั้น ผู้ที่เป็นโรคไตจึงควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีแร่ธาตุฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และแคลเซียมสูง รวมทั้งควรดูแลรักษาไตตามข้อปฏิบัติ ดังนี้
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย 8-10 แก้ว (ประมาณ 2 ลิตร) ต่อวัน
- ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด โดยเฉพาะรสหวานและเค็ม
- ป้องกันการกระแทกบริเวณสีข้างเนื่องจากเป็นตำแหน่งของไต
- ควรตรวจสุขภาพเป็นประจำ
- งดบุหรี่ เครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของคาเฟอีน
- ใช้ยาอย่างระมัดระวัง เนื่องจากยาบางชนิดอาจส่งผลต่อการทำงานของไต"