xs
xsm
sm
md
lg

ทส. มั่นใจเตรียมพร้อมป้องกันและแก้ไขวิกฤตภัยแล้งปีนี้ได้

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรน้ำบาดาล บูรณาการข้อมูลระหว่างศูนย์เมขลา ของกรมทรัพยากรน้ำ และหน่วยนาคราช ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ในการกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้ประชาชนสามารถมีน้ำใช้ในช่วงหน้าแล้งปีนี้



วันนี้ (9 เม.ย.) นายโสภณ ทองดี ผู้ตรวจราชการกระทรวง ในฐานะโฆษกประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ที่อาจจะเกิดปัญหาภัยแล้งขึ้นในปีนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทส. ได้สั่งการให้กรมทรัพยากรน้ำ จัดเตรียมชุดผลิตน้ำประปาเคลื่อนที่จากน้ำผิวดินและใต้ดิน จำนวน 2 ชุด ระบบผลิตน้ำประปาชนิด RO จำนวน 2 ชุด เครื่องสูบน้ำ 311 เครื่อง รถบรรทุกน้ำ 63 คัน นอกจากนี้ ได้จัดตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์น้ำ 12 แห่ง ทั่วประเทศเพื่อติดตาม รายงาน และให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ สำหรับการเตรียมความพร้อมในการจัดการแหล่งน้ำและระบบกระจายน้ำ ทางกรมทรัพยากรน้ำได้ดำเนินการโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูและพัฒนาแหล่งน้ำ เพิ่มน้ำต้นทุน 17,827 แห่ง และระบบกระจายน้ำ 751 แห่ง เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาวิกฤตภัยแล้ง


นายโสภณ เผยอีกว่า สำหรับการเตรียมการของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้สนับสนุนน้ำต้นทุนหรือจุดจ่ายน้ำถาวรจำนวน 132 จุด พร้อมชุดเจาะบ่อน้ำบาดาล จำนวน 85 ชุด ชุดปรับปรุงคุณภาพน้ำเคลื่อนที่ จำนวน 18 ชุด และชุดซ่อมระบบประปาและเครื่องสูบ (หน่วยนาคราช) จำนวน 37 ชุด นอกจากนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมมือกับกองทัพบก การประปาส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และ ปตท. ดำเนินการโครงการ “ราษฎร์รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง 62” โดยได้เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2562 โดยมีศูนย์ดำเนินการใน 8 แห่ง ได้แก่ มณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี จ. ลำปาง, มณฑลทหารบกที่ 33 ค่ายกาวิละ จ.เชียงใหม่, กองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ จ.พิษณุโลก, มณฑลทหารบกที่ 23 จ.ขอนแก่น, สโมสรร่วมเริงไชย จ.นครราชสีมา, กองทัพภาคที่ 4 จ.นครศรีธรรมราช, มณฑลทหารบกที่ 42 ค่ายเสนาณรงค์ จ.สงขลา และกองบัญชาการกองทัพบก แขวงบางขุนพรหม กรุงเทพมหานคร


"หากประชาชนต้องการทราบและติดตามสถานการณ์น้ำและสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับน้ำบาดาลในพื้นที่ สามารถติดต่อสายด่วน 1310 กด 5 หรือทาง website กรมทรัพยากรน้ำ www.dwr.go.th และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล www.dgr.go.th ได้ตลอด 24 ชั่วโมง"


นายโสภณ เผยต่อว่า จากนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ได้มอบให้นายสุวัจ เปี่ยมปัจจัย อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ และ น.ส.จงจิตร์ นีรนาทเมธีกุล อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล นำไปปฏิบัตินั้น ทำให้มั่นใจได้ว่าสถานการณ์ภัยแล้งที่อาจจะเกิดขึ้นในปีนี้นั้น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้จัดสรรพกำลังทุกอย่างเตรียมรับมือไว้พร้อมแล้ว จึงขอเรียนยืนยันกับพี่น้องประชาชนให้มีความมั่นใจว่าจะผ่านสถานการณ์นี้ไปได้อย่างแน่นอน





กำลังโหลดความคิดเห็น