xs
xsm
sm
md
lg

“วิชัย ศรีวัฒนประภา” คนไทยดังไกลระดับโลก ผู้จุดประกายความหวัง ผู้กล้าสานความฝันให้เป็นความจริง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ มีจุดกำเนิดมาจากร้านปลอดภาษีในเมือง รายแรกของประเทศไทย ที่อาคารมหาทุนพลาซ่า เมื่อ พ.ศ. 2532 โดยเป็นการร่วมทุนกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

จากกิจการเล็ก ๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก คิง เพาเวอร์ ค่อย ๆ เติบโต จากเล็กสู่ใหญ่ ก้าวขึ้นเป็น “แบรนด์” ค้าปลีกด้านร้านค้าปลอดอากรชั้นนำของประเทศไทยและของโลก ภายในเวลา 20 ปี และในเดือนมกราคมปีนี้ ก้าวขึ้นเป็น ผู้ประกอบการดิวตี้ฟรี สนามบิน อันดับ 1 ของโลก ด้วยการคว้ารางวัลชนะเลิศ “World's Leading Airport Duty Free Operator 2018” จากงาน 25th World Travel Awards ที่ เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส

ทั้งหมดนี้ ถูกขับเคลื่อนด้วยพลังแห่งความหวัง และความฝันของชายที่ชื่อ วิชัย ศรีวัฒนประภา ที่ทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เกิดขึ้น และเป็นจริงได้

คุณวิชัย เชื่อมั่นในคนไทย เชื่อมั่นในประเทศไทยว่า มีพลัง และศักยภาพ ไม่แพ้ชาติอื่นใดในโลกนี้ ขอเพียงแต่มีความหวัง มีความฝัน และมีโอกาส ก็จะสามารถทำสิ่งที่ไม่คิดว่าจะทำได้ ให้เป็นสิ่งที่เป็นไปได้

เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2553 คุณวิชัย ตัดสินใจซื้อกิจการสโมสรฟุตบอล เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งขณะนั้น ยังอยู่ในลีกแชมเปี้ยนชิป

คนไทย เป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอล ในพรีเมียร์ลีก ดูจะเป็นความฝันที่ไกลเกินเอื้อม
คนไทย เป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอล ที่เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก ยิ่งเป็นฝันที่เป็นไปไม่ได้
คุณวิชัย ทำให้ฝันที่ไกลเกินเอื้อม และฝันที่เป็นไปไม่ได้ กลายเป็นจริง ภายในเวลาเพียง 8 ปี


ภายในเวลาเพียง 4 ปี เลสเตอร์ ก็คว้าแชมป์แชมเปี้ยนชิปได้สำเร็จ เลื่อนชั้นมาเตะในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของอังกฤษ ลีกที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลก เป็นเป้าหมายที่ดาวดัง และกุนซือระดับโลก หมายปองจะร่วมเป็นหนึ่งในยี่สิบทีมของลีกนี้

การซื้อสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ทำให้ประเทศไทยได้ปักธงไตรรงค์บนสนามประลองแข้งที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลก จิ้งจอกสีน้ำเงิน กลายเป็น จิ้งจอกสยาม ที่ทำให้คนไทยทุกคนได้ภาคภูมิใจ

อีก 4 ปีต่อมา ในฤดูกาลแข่งขันปี 2558-2559 จิ้งจอกสยาม ก็ทำในสิ่งที่ไม่มีใครเชื่อว่า จะเป็นไปได้ คือ การคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่ก่อตั้งมา 132 ปี ชัยชนะของเลสเตอร์ ในครั้งนั้น ถูกเล่าขานว่า เป็นเทพนิยาย หรือเป็นความมหัศจรรย์ แต่สำหรับคุณวิชัยแล้ว มันคือผลพวงของการจุดประกายความหวัง การสานฝันให้เป็นจริง เป็นตัวอย่างว่า คนตัวเล็ก ๆ ก็สามารถประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ได้ ถ้ามีความหวัง และมีความฝัน

คุณวิชัย ขอเป็นผู้สร้างความหวัง และสานความฝันนั้น

การซื้อสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ในด้านหนึ่งเป็นการลงทุนในธุรกิจกีฬาของคุณวิชัย แต่คุณวิชัย มองไกลไปกว่านั้น คือ การทำให้นักฟุตบอลไทย มีช่องทางที่จะพัฒนาฝีเท้าขึ้นไปอยู่ในระดับมาตรฐานโลกได้

ทั้งทีมเลสเตอร์ ซิตี้ และทีมโอเอช ลูเวิน ซึ่งเป็นทีมดิวิชั่น 2 ในเบลเยี่ยม เป็นอีกหนึ่งสโมสรที่คุณวิชัยเข้าไปลงทุน เป็น “ปลายน้ำ” ในโครงการ ปั้นแข้งไทยสู่ลีกยุโรปแบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ คือ เป็นที่รองรับเด็กไทย ในโครงการ “Fox Hunt” ตามล่าจิ้งจอกสายพันธุ์สยาม มอบทุนการศึกษา และโอกาสสำคัญในชีวิต ไปฝึกทักษะกีฬาฟุตบอล ระดับมืออาชีพที่สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ และเซ็นสัญญานักเตะไทย ไปเล่นกับสโมสรโอเอช ลูเวิน ซึ่งปัจจุบันมีนักฟุตบอลไทย 3 คน ค้าแข้งอยู่คือ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ตำแหน่งผู้รักษาประตู จิรัฐติกาล วาพิลัย กองกลาง และธาวิน มหจินดาวงษ์ กองกลาง

ส่วนที่เป็น “ต้นน้ำ” ของการปั้นแข้งไทยสู่ลีกยุโรปคือ โครงการล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย คือ การมอบลูกฟุตบอล จำนวน 1 ล้านลูก ให้กับเยาวชนไทยและชุมชน เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านกีฬา โดยเริ่มตั้งแต่เดือน กรกฎาคม ปี 2560 มีเป้าหมายว่าจะแจกให้ครบ 1 ล้านลูก ภายในปี 2565

“ต้นน้ำ” อีกสายหนึ่งคือ โครงการ 100 สนามพลังเยาวชนไทยที่สร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียม 100 สนามทั่วประเทศ ภายใน 5 ปี นับจากปี 2560 เพื่อให้เยาวชนมีพื้นที่ออกกำลังกาย ห่างไกลยาเสพติด

ปลายปี 2560 อาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม ทำโครงการ “ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ” วิ่งจากอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ไปอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ระยะทาง 2,191 กิโลเมตร เพื่อเชิญชวนประชาชนบริจาคเงินซื้ออุปกรณ์การแพทย์ ให้โรงพยาบาล 11 แห่งทั่ว ประเทศ

ตูน ชอบวิ่ง และมีความฝันว่า จะวิ่งจากปลายขวานใต้สุดไปเหนือสุดของประเทศไทย โดยไม่หยุดพัก นอกเหนือจากวิ่งเพื่อบรรลุความฝันของตัวเองแล้ว ยังต้องการใช้การวิ่งครั้งนี้ สร้างประโยชน์ให้ส่วนรวม และให้คนไทยได้มีส่วนร่วม

คุณวิชัย ไม่ลังเลที่จะให้การสนับสนุนโครงการ ก้าวคนละก้าว เพราะวิธีคิดของตูนนั้น ก็คือ ปรัชญาชีวิตที่คุณวิชัยยึดมั่นมาตลอด คือ กล้าที่จะหวัง กล้าที่จะฝัน เมื่อเห็นใครก็ตามที่มีความหวัง มีความฝัน และเป็นฝันที่ดีงาม เป็นประโยชน์กับส่วนร่วม ก็พร้อมจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

คุณวิชัย ให้การสนับสนุนตั้งแต่ตอนเริ่มโครงการ ที่ต้องมีการเตรียมการในด้านต่าง ๆ เป็นจำนวนเงิน 24 ล้านบาท เมื่อตูนเริ่มวิ่ง และวิ่งมาถึงกรุงเทพ ก็บริจาคเงินร่วมกับประชาชน รวมทั้งพันธมิตรธุรกิจ รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 100 ล้านบาท

หลังจากโครงการ ก้าวคนละก้าว จบลง ตูนยังมีโครงการภาพยนตร์เรื่อง “2215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” ซึ่งเป็นเรื่องราว การวิ่ง ของตูน จากเบตงถึงแม่สาย คุณวิชัย อยากให้คนไทยได้ดูหนังเรื่องนี้ให้มากที่สุด เพราะเชื่อว่า เนื้อหาในภาพยนตร์ จะเป็นแรงบันดาลใจให้คนที่ได้ชม มีความหวัง มีกำลังใจ ที่จะลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ ซึ่งไม่จำเป็นต้อง วิ่ง แต่เป็นเรื่องอะไรก็ได้ที่ดีงาม เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นในสังคม จึงสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการฉายภาพยนตร์ ให้คนไทยได้ชม “2215 เชื่อบ้า กล้า ก้าว” ฟรีอีก 750,000 ที่นั่ง เป็นเงิน 27 ล้านบาท

กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ มีช่องทางขายปลีก ที่เข้าถึงลูกค้าหลายล้านคนทั่วโลก ทั้งที่เป็นร้านดิวตี้ฟรีในสนามบินในเมือง และที่เป็นช่องทางออนไลน์ คุณวิชัย มองเห็นว่าเป็นโอกาสที่จะใช้ช่องทางเหล่านี้ นำสินค้าโอทอป ที่สร้างสรรค์จากภูมิปัญญาชุมชน ไปเผยแพร่ให้ชาวต่างขาติได้รู้ว่า คนไทยก็มีสินค้าดี นอกจากจะเป็นการสร้างรายได้ให้ผู้ผลิตในท้องถิ่น ยังจะเป็นการสร้างความมั่นคง ยั่งยืน ให้กับผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าโอทอปด้วย

“แก้วเป่า” เป็นสินค้า OTOP ที่ขายดีที่สุดในหมวดสินค้าของที่ระลึกจาก คิง เพาเวอร์ ผู้อยู่เบื้องหลังผลงานชิ้นเอกนี้คือ ภพต์ เทภาสิต ประธานสหกรณ์บริการผลิตภัณฑ์คนพิการไทย ชายหนุ่มผู้ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา

“INDIGO” เป็นชื่อ คอลเลคชั่น สินค้า เสื้อผ้า หมวก กระเป๋า ผ้าพันคอ ที่ทำจากผ้าย้อมคราม ภูมิปัญญาของชุมชนบ้านนาขาม จังหวัดสกลนคร ที่คิง เพาเวอร์ ร่วมพัฒนา กับทีมช่างศิลปะหัตถกรรมของ ศูนย์ส่งเสริมศลปาชีพระหว่างประเทศ เปิดตัวเป็นครั้งแรกที่ เดอะซิตี้ สโตร์ ร้านขายของที่ระลึก สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ และมีวางขายที่คิง เพาเวอร์ ทุกแห่ง

สินค้าประเภทผลไม้ไทยอบแห้ง เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ คิง เพาเวอร์ ได้ช่วยเหลือชุมชนภาคการเกษตรทั่วประเทศด้วยการไปซื้อในแหล่งผลิตและนำมาแปรรูป ทำบรรจุภัณฑ์ ให้สวยงาม เป็นของฝาก “เมดอิน ไทยแลนด์” เกรดพรีเมี่ยม

คุณวิชัย ยังทำโครงการอีกจำนวนมาก ทั้งในด้านการศึกษา สาธารณสุข ศิลปวัฒนธรรมดนตรี เป็นการทำหน้าที่ของคนไทยคนหนึ่ง ที่เห็นว่าตัวเองมีกำลัง ความสามารถที่จะสร้างประโยชน์ให้กับสังคมได้ โดยไม่เคยหวังว่าจะต้องได้ผลตอบแทนใด ๆ กลับคืนมา

หวังเพียงแต่ว่า โครงการเหล่านี้ จะจุดประกายความหวัง สานฝันของไทยให้เป็นจริง