xs
xsm
sm
md
lg

สวยๆ เก่งดนตรี “เมรี” ลูกสาวศิลปินเพื่อชีวิต “พงษ์สิทธิ์ คำภีร์”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ไม่ใช่แค่เป็น “ลูกสาวของพ่อ” ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต “ปู-พงษ์สิทธิ์ คำภีร์” แต่ “เม-เมรี คำภีร์” ยังบอกอีกด้วยว่าเธอคือ “ติ่งพี่ปู” ตัวยง เพราะพ่อนี่แหละที่เป็น “ไอดอล” ของเธอตัวจริง

นับว่าทักษะความสามารถทางด้านดนตรีไม่ธรรมดาเลยจริงๆ เพราะเธอฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก จนถึงขั้นเปิดคอร์สสอนพิเศษสำหรับน้องๆ ที่มีความสนใจทางด้านนี้ นอกจากนี้แล้วเธอยังมีความสนใจในเรื่องกฎหมาย โดยปัจจุบันเป็นนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ม.อัสสัมชัญด้วย

   • เส้นทางดนตรีของเมรี ลูกสาวของปู-พงษ์สิทธิ์


เมเริ่มเล่นดนตรีตั้งแต่อนุบาลเพราะพ่อบังคับให้ลูกทุกคนเรียน ที่บ้านจะมีกฎว่าจะต้องซ้อมเปียโนวันละ 1 ชั่วโมง ไม่อย่างนั้นจะห้ามเล่นอย่างอื่น เช่น ห้ามเล่นคอมพิวเตอร์ หรือห้ามออกไปปั่นจักรยานเล่นกับเพื่อน และเมก็จะเป็นลูกคนเดียวที่เอาดนตรีที่สุด ลูกคนอื่นๆ จะไม่สนใจเรื่องดนตรีเท่าไหร่

ตอน ป.1 เมขอพ่อเล่นกีตาร์ ซึ่งเมจะต้องซ้อมเปียโน 1 ชั่วโมง เล่นกีตาร์อีก 1 ชั่วโมง เป็นแบบนี้มาตลอด ตอนแรกก็ไม่ได้เลือกว่าจะเล่นแนวไหน แต่พ่อแนะนำให้เล่นแนวคลาสสิก ก็ฝึกมาตลอด สุดท้ายเมก็ชอบ เมจะถนัดเพลงคลาสสิก ซึ่งเพลงคลาสสิกช่วยให้การเล่นคอร์ดง่ายขึ้น

เมจึงสานต่อทางด้านดนตรีเรื่อยมา ส่วนพ่อก็จะสนับสนุนมาตลอดค่ะ โดยเมเล่นก็เล่นมาเรื่อยๆ

   • มีพ่อเป็นไอดอล เป็น “ติ่งพี่ปู” ตัวยง

เรียกได้ว่าเมเล่นกีตาร์เพราะพ่อเลยนะคะ พ่อโซโลกีตาร์เก่งมาก พ่อเป็นไอดอลของเมเลยค่ะ พูดง่ายๆ ว่าเมเป็น “ติ่งพี่ปู” คนหนึ่งเลย เพราะเมร้องเพลงของพ่อได้ทุกเพลง ชอบไปดูคอนเสิร์ตพ่อ เวลาไปเมก็ไปเต้นอยู่หน้าเวทีเหมือนติ่งวงอื่น แต่นี่เมเป็นติ่งพี่ปู ต้องไปทุกคอนเสิร์ต (หัวเราะ)

อีกอย่างเมจะโดนชมบ่อยว่ามือสวย นิ้วยาว ตอนเด็กๆ เลยคิดว่ามันอาจเป็นทางของเมก็เลยลองเรียนดู

   • เป็นครูสอนดนตรีด้วย?

ใช่ค่ะ มีช่วงหนึ่งที่เมร้อนเงิน เมเลยลองไปสมัครในเว็บติวเตอร์ดู ก็เริ่มมีนักเรียนเข้ามาเรียน ตอนแรกเมสอนแต่ทฤษฎี ต่อมาก็สอนกีตาร์ สอนเปียโนด้วย แต่จะสอนแค่พื้นฐานเบื้องต้นนะคะ เพราะเราก็ยังไม่สามารถสอนขั้นสูงไปกว่านั้นได้

โดยเทคนิคการสอนของเมจะไม่ใช้ภาษาทางการเท่าไหร่ เอกสารที่ใช้สอนก็จะเป็นลายมือตัวเองทั้งหมดเลย เมไม่อยากให้แบบที่เป็นตัวพิมพ์เหมือนในตำรา เพราะรู้สึกว่ามันน่าเบื่อ เมอยากให้เด็กเรียนกับเราแล้วสนุก

คนที่มาเรียนส่วนใหญ่จะเป็นเด็กๆ ชั้นประถมศึกษาค่ะ เรียนตั้งแต่พื้นฐาน อ่านโน้ต ฯลฯ หรือมีนักเรียนมาเรียนเพื่อทบทวนทฤษฎีเอาไว้สอบเข้ามหาวิทยาลัยก็มี

ยกตัวอย่างมีลูกศิษย์คนหนึ่งที่เมภูมิใจมากคนหนึ่ง เขาสอบกีตาร์คลาสสิกในสถาบันทรินิตี้คอลเลจลอนดอนของอังกฤษได้ที่ 1 (Trinity College London : บอร์ดสอบดนตรีมาตรฐานสากล ครอบคลุมเครื่องดนตรีคลาสสิกเกือบทุกชนิด รวมถึงการร้องและทฤษฎีด้วย) เมภูมิใจมากที่เราสอนเขามากับมือ (ยิ้ม)

   • ชอบดนตรี แต่เห็นว่าเลือกเรียนคณะนิติศาสตร์

ใจจริงเมอยากเรียนดนตรีนะคะ แต่พ่อไม่สนับสนุนให้เรียนดนตรีในระดับมหาวิทยาลัย เพราะพ่อมองว่าเราสามารถศึกษาในชีวิตประจำวันได้ เลยอยากให้เรียนอย่างอื่นแทน เมจึงเลือกเรียนคณะนิติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญค่ะ ซึ่งพอได้มาเรียนกฎหมาย ก็เริ่มรู้แล้วว่าตัวเองชอบ เราจะสนุกทุกครั้งเวลาที่ได้เรียนค่ะ

   • ในฐานะที่เรียนกฎหมาย คิดว่ากฎหมายไทยเป็นอย่างไร

จากข่าวทุกวันนี้ที่คนทำความผิดเดิมซ้ำๆ จะว่ากฎหมายไทยอ่อนแอก็ได้ ก็อ่อนแอจริงๆ แหละ แต่เมคิดว่าสิ่งที่อ่อนแอกว่าคือคนที่ใช้กฎหมาย จิตใจเขาทนเงินไม่ไหว ทุกวันนี้ไม่กลัวกฎหมายเลย ฆ่ากันง่ายมาก เมมองว่ากฎหมายพลิกแพลงง่ายไป มันไม่เจาะจง เลยแถไปได้เรื่อยๆ มันก็เลยอ่อนแอ ถ้าคนใช้กฎหมายแข็งแกร่งหรือเข้มแข็งกว่านี้ ข่าวฆ่ากันตายน่าจะน้อยลง

   • แล้วถ้าต้องเลือกระหว่างสิ่งที่ชอบ (ดนตรี) กับที่สิ่งเรียนมา (กฎหมาย) จะเลือกอะไร

เมเลือกดนตรีนะ (ตอบเร็ว) แต่คงไม่ได้อยากทำเป็นอาชีพ อยากเล่นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ดีกว่า

ดนตรีคือความสุข เป็นเหมือนเพื่อน อย่างกีตาร์เมก็มีชื่อนะคะ เขาชื่อ “มีมี่" ซึ่งเมจะไม่ได้เอาเขาไว้หาเงิน เพราะเวลาทุกข์ เมก็จะเล่นดนตรี หรือไม่ก็วาดรูปเพื่อบำบัดจิตใจเรา

อนาคตจริงๆ เมอยากเปิดสถาบันสอนดนตรีกับพี่สาว แต่มองแล้วก็ไม่ง่าย อีกใจเมก็อยากเป็นนักกฎหมายเหมือนกัน ซึ่งพ่อจะพูดแทบทุกวันว่าอยากให้เมเป็นอัยการ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าเรียนจบแล้วจะยังไงต่อไป ต้องขอดูอีกทีค่ะ

   • สวยและเก่งแบบนี้ พ่อ “หวง” ไหม ผู้ชายแบบไหนถึงชนะใจพ่อ

พ่อจะห้ามคบคนแก่ ห้ามมีแฟนเป็นนักดนตรี ดารา ข้าราชการ แต่ก็ไม่บอกเหตุผลนะคะ แต่ส่วนตัวแล้วเมชอบผู้ชายเล่นดนตรีนะ เห็นแล้วแพ้ทาง (หัวเราะ)

พ่อจะชอบผู้ชายขยัน เป็นคนเก่ง ทำงานสร้างตัวเอง สามารถดูแลเราได้ ล่าสุดพ่อบอกว่า “ลูกพ่อต้องโตไปแล้วไม่นั่งมอเตอร์ไซค์วินไปทำงานสิวะ” พ่อไม่อยากได้เงินทองอะไร ไม่ใช่อยากให้คบกับคนรวยนะคะ เพราะพ่อไม่ต้องการสินสอด ไม่ต้องการให้แต่งงาน แต่เขาไม่อยากให้ใครมาทำให้เราลำบาก และไม่ต้องการให้เขามาทำให้ลูกเสียใจเหมือนกันประมาณนี้ค่ะ




กำลังโหลดความคิดเห็น