สลด! ครูสาวรักษาหลาย รพ.แพทย์วินิจฉัยโรคไม่ซ้ำ สุดท้ายดับเพราะ “เยื่อหุ้มสมองอักเสบ”

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เผยเรื่องราวของครูสาวที่มีอาการป่วย 10 วัน จากนั้นเสียชีวิตลงด้วยโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และเข้าโรงพยาบาลหลายแห่งในจังหวัดชัยนาท และกรุงเทพฯ หมอต่างโรงพยาบาลวินิจฉัยเจอโรคต่างไม่ซ้ำกัน

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Chandra Channary” ได้เผยแพร่เรื่องราวอุทาหรณ์ที่เกิดขึ้นกับข้าราชการครูรายหนึ่ง ที่เสียชีวิตด้วยอาการภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ หลังจากที่ป่วยได้ประมาณ 10 วัน แต่ในระยะแรกๆ ที่ป่วยและเข้ารับการรักษา แพทย์ได้ระบุว่า เป็นเพียงไมเกรนเท่านั้น โดยเผยว่า วันที่ 2 ก.พ. มาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยนาท ด้วยอาการมีไข้, ปวดศีรษะ แพทย์วินิจฉัยเป็นไมเกรน ให้ยานอนหลับ กับยาแก้ปวดศีรษะ

วันที่ 4 ก.พ. กลับมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลดังกล่าวอีกครั้ง ด้วยอาการปวดศีรษะ, มีไข้, ถ่ายเหลว แพทย์วินิจฉัย เป็นโรคท้องเสีย

วันที่ 5 ก.พ. ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลอีกแห่งในจังหวัดเดียวกัน เพื่อขอเจาะเลือดและเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ แพทย์บอกติดเชื้อไวรัส

ต่อมา วันที่ 6 ก.พ. มีอาการปวดศีรษะมาก ไข้ 39.5-40 องศา จึงไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งแรก ขอนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล แพทย์วินิจฉัยอีกว่าเป็นไมเกรน ฉีดยาแก้ปวดให้ และให้กลับบ้าน

วันที่ 7 ก.พ. มีอาการปวดศีรษะรุนแรง มีไข้สูง ชักเกร็ง ที่บ้านติดต่อรถโรงพยาบาลแห่งที่ 3 มารับไป จากนั้นได้เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ จนพบว่าเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ จากนั้นได้ส่งมารับการรักษาต่อที่ โรงพยาบาลแห่งแรก

วันที่ 8 ก.พ. ได้สอบถามแพทย์เจ้าของไข้ว่าคนไข้เป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบใช่ใหม แพทย์ตอบว่า “ยังไม่บอกว่าเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เพราะสมัยนี้ ไม่ค่อยเป็นกันง่ายๆ” คนเป็นเอดส์ ก็มีอาการแบบนี้ เช่นกัน ต่อมาช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ย้ายเข้าห้องไอ.ซี.ยู. ได้แจ้งว่า ขอให้ส่งตัวคนไข้ไปรักษาที่ โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ แต่ถ้าไม่ได้ ขอเป็นโรงพยาบาลอะไรก็ได้ที่เป็นโรงเรียนแพทย์ และขณะนั้นคนไข้มีอาการหนาวสั่นมาก

วันที่ 9 ก.พ. คนไข้มีความดันโลหิตสูงขึ้น มีไข้สูงตลอด แพทย์ตรวจและเพิ่มยา doxy ให้ทางสายยาง สอบถามแพทย์คนหนึ่งถึงอาการและการส่งตัวไปรักษาต่อ แพทย์ตอบว่า ยุ่งยังไม่ได้พักเลย ไม่ได้ดูคนไข้อายุรกรรม ต่อมา วันที่ 10 ก.พ. ความดันยังสูงมาก ชีพจรเต้นเร็ว ปลายมือปลายเท้าเย็น จึงให้เจ้าหน้าที่แจ้งให้แพทย์ทราบ แพทย์ได้เข้าตรวจเยี่ยม ให้เจาะเลือดใหม่ ส่งเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ใหม่ ปรากฏว่า สมองบวมแล้ว

วันที่ 11 ก.พ. คนไข้เสียชีวิต ด้วยภาวะสมองอักเสบ หลังเสียชีวิตแพทย์ บอกว่า เป็นเชื้อที่ไม่พบในเมืองไทยนานแล้ว ฟังแล้วนั้นหมายถึงว่า เชื้อนี้สามารถรักษาได้และควบคุมได้ แต่เพราะอะไร หลานของตนจึงเสียชีวิต แต่เมื่อทบทวนจึงรู้ว่าสาเหตุเพราะอะไร ถ้าเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นกับครอบครัวคุณ คุณจะรู้สึกและทำเช่นไร

ทั้งนี้ เรื่องราวดังกล่าวได้เผยแพร่สู่โลกออนไลน์ มียอดแชร์กว่า 900 ครั้ง และชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมโพสต์แสดงความเสียใจแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

>>โพสต์ต้นฉบับ