ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต้นยางนาบน ถนนเชียงใหม่-ลำพูน หักโค่นล้มจากแรงพายุ ออกมาเผยสาเหตุที่ทางการต้องตัดต้นยางอายุกว่า 100 ปีทิ้ง ยันมีผู้ได้รับผลกระทบ บ้านเรือนเสียหาย ทรัพย์สินเสียหาย และบาดเจ็บทุกปี
จากกรณีที่ได้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการดำเนินการตัดต้นยางนา 2 ต้น อายุกว่า 100 ปี ที่อยู่บริเวณสี่แยกกองทราย ถนนเชียงใหม่-ลำพูน ถนนวงแหวนรอบนอกเมืองเชียงใหม่ ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ สภาพเหลือแต่ตอ ตั้งตระหง่านสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งในเวลาต่อมาทางกลุ่มเครือข่ายเขียว สวย หอม และหมอต้นไม้ รวมทั้งหน่วยงานเกี่ยวข้องได้ออกมาสำรวจข้อมูลในการดำเนินการฟื้นฟูและรักษา
เมื่อวันที่ 21 ก.พ. สมาชิกรายหนึ่งของเพจเฟซบุ๊ก “จังหวัดเชียงใหม่” ได้มีการโพสต์ภาพและข้อความซึ่งเป็นผลกระทบจากต้นยางนาที่หักโค่นลงมาทับบ้านเรือนและทรัพย์สินของเจ้าตัวที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้กับต้นยางนาดังกล่าว โดยขนาดใหญ่โตของต้ายางนานั้นเมื่อเกิดพายุฝนพัดกระหน่ำแรงก็ทำให้ต้นหักโค่นลงมา ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว แต่กรณีลักษณะนี้ได้เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง อีกทั้งยังเป็นอันตรายต่อประชาชนที่ขับรถสัญจรไปมาบนถนนสายดังกล่าว เพราะที่ผ่านมาเคยมีเหตุการณ์ที่กิ่งของต้นยางนาขนาดใหญ่นี้เคยหักลงมาทับรถจนได้รับความเสียหายและมีคนได้รับบาดเจ็บมาแล้ว
โดยมีเนื้อหาโพสต์ว่า “ตามหาคนที่ด่าเรื่องตัดต้นยางสารภี ให้ช่วยมารับผิดชอบค่าซ่อมรถ บ้านด้วย ดิฉันก็คือผู้โชคร้ายเมื่อปีที่แล้ว ส่วนคนที่บอกว่าให้หลีกเลี่ยงจะหลีกใด้ไง ในเมื่อบ้านเราอยู่เส้นนี้ ตลกร้ายมาก” ซึ่งเมื่อโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปก็มีประชาชนและผู้พบเห็นโพสต์ดังกล่าวต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์โพสต์ออกไปจำนวนมาก
รายงานข่าวเพิ่มเติมจากการสอบถามทางด้านนายสมชาติ วัฒนากล้า ผู้อำนวยการกองช่าง อบจ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า อบจ.เชียงใหม่ มีหน้าที่ในการดูแลเส้นทางถนนสายดังกล่าวที่มีระยะทางประมาณ 10 กว่ากิโลเมตร และมีหน้าที่ในการทำการตัดแต่งกิ่งต้นยางนาที่อยู่ในบริเวณสองข้างทาง เนื่องจากที่ผ่านมาเมื่อถึงช่วงฤดูร้อนช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนมักจะเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น และส่งผลทำให้กิ่งแห้งของต้นยางนาหักโค่นลงมาสร้างความเสียหายและเป็นอันตรายต่อประชาชน
ทั้งนี้ ปัจจุบันต้นยางนาบนถนนเชียงใหม่-ลำพูน มีเหลืออยู่ทั้งหมด 949 ต้น ที่ผ่านมาทาง อบจ.เชียงใหม่ ก็ได้ร่วมกับทุกเครื่อข่ายที่เกี่ยวข้องในการฟื้นฟูดูแลต้นยางนาที่เหลือ โดยเฉพาะในส่วนของระบบรากของต้นเนื่องจากปัจจุบันมีการทำถนนโดยการเททับคอนกรีตกดทับรากของต้นยางจำนวนมากทำให้รากของต้นขาดน้ำ อากาศ และสารอาหาร โดยทางออกในการแก้ไขจะต้องมีการรื้อถนนบางส่วนที่มีการปิดทับรากต้นยางนาออก แล้วทำการปูด้วยบล็อกพรุนที่น้ำหรือสารอาหารสามารถซึมเข้าไปได้ซึ่งเป็นโครงการที่กำลังหารือและกำลังจะดำเนินการอยู่ รวมไปถึงการค้ำต้นยางที่มีสภาพใกล้จะล้มเพื่อป้องกันการหักโค่น