สองเพื่อนรักบนเวที นปช. เผชิญหน้ากลางรายการทีวี “แรมโบ้อีสาน” ลั่น ยังรักแกนนำ นปช. “จตุพร-ณัฐวุฒิ” เหมือนเดิม แต่ทำงานการเมืองคิดต่างกันได้ “ณัฐวุฒิ” ลั่นทางการเมืองเราขาดกัน “ไม่สามารถจับมือพรรคพลังประชารัฐได้” เชื่อประชาธิปไตยถูกบิดเบี้ยว ชาวเน็ตขุดภาพรักหวานชื่นในอดีต
เมื่อวันที่ 20 ก.พ. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ และประธานคณะกรรมการหาเสียงเลือกตั้ง พรรคไทยรักษาชาติ และ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งทั้งคู่เป็นอดีตแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่าน รายการต่างคนต่างคิด ทางช่องอมรินทร์ทีวี ในประเด็น ดีเบต พปชร. กับ ทษช. เลือกใครประเทศเปลี่ยน? โดยเมื่อพิธีกรถามว่า ทั้งสองคนคุยกันได้ไหม ยังเป็นเพื่อนอยู่หรือไม่ ที่สำคัญ นายสุภรณ์ และนายณัฐวุฒิ ความเป็นเพื่อนยังมีอยู่หรือไม่
นายสุภรณ์ ได้ตอบว่า “เหมือนเดิม...รักเหมือนเดิม เพราะเรารักกันมาตั้งแต่ยังไม่เข้าสู่ทางการเมือง ความผูกพันผมกับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อชาติ และนายณัฐวุฒิ ตั้งแต่ยังไม่เล่นการเมือง ผูกพันมา 20 กว่าปีแล้ว ความเป็นเพื่อนเป็นพี่น้องยังเหมือนเดิม วันก่อนก็ได้มีโอกาสคุยกับนายจตุพร ไปตัดผมก็ยังตัดร้านเดียวกันอยู่ยัง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่การทำงานด้านการเมืองอาจมีคิดเห็นต่างกันได้ การตัดสินใจที่ต่างกันได้ โดยยืนยันว่าความผูกพันเป็นพี่เป็นน้องไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทางการเมืองก็ว่ากันไป
พิธีกรได้ถามอีกครั้งว่า “แต่ร่วมงานกันไม่ค่อยได้” นายสุภรณ์ตอบว่า เป็นเรื่องของอนาคต แต่ ณ ปัจจุบัน เราเดินคนละพรรค เราเดินกันคนละทางในแนวความคิด เราไม่มีปัญหาในเรื่องของอนาคต ปัจจุบันก็ทราบว่าเราอยู่อีกพรรคหนึ่ง นายจตุพร นายณัฐวุฒิ ก็อีกพรรคหนึ่ง ซึ่งนโยบายของพรรคก็ต้องแตกต่างกันออกไป ผมไม่รู้ร่วมได้ไม่ได้ แต่ถ้าวันหนึ่งพรรคพลังประชารัฐก้าวข้ามความขัดแย้ง เราไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งเกิดขึ้นในบ้านในเมือง ส่วนตัวผม ตัวเล็กในพรรคผมไม่มีปัญหา ถ้าวันหนึ่งพรรคเพื่อชาติพรรคไทยรักษาชาติ พรรคเพื่อไทย อะไรก็แล้วแต่ จะมาร่วมกันก้าวข้ามความขัดแย้ง มาร่วมกันทำงานเพื่อบ้านเพื่อเมือง ส่วนตัวไม่มีปัญหา
ด้าน นายณัฐวุฒิ ยืนยันว่า ส่วนตัวก็ยังเป็นมิตรภาพอย่างที่นายสุภรณ์พูด เพราะเราคบหาร่วมเส้นทางกันมาอย่างยาวนาน และมีประสบการณ์ต่างๆ ร่วมกัน แต่ทางการเมืองเราขาดกันตั้งแต่นายสุภรณ์ไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ และต้องพูดเสียให้ชัดว่าในอนาคต หลังการเลือกตั้ง ผมก็จะไม่ร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐอย่างแน่นอน
พิธีกรพยายามถามย้ำว่า ไม่สามารรถก้าวข้ามความขัดแย้งหรือเปล่า นายณัฐวุฒิ ก็ยืนยันว่า ไม่สามารถข้ามหลักการประชาธิปไตย ไปจับมือกับพรรคพลังประชารัฐได้ และยืนยันว่า ความขัดแย้งมันต้องแก้ไขด้วยวิถีทางประชาธิปไตย ต้องยืนบนหลักการนี้เสียก่อน ผมเชื่อด้วยความบริสุทธิ์ใจว่า ความขัดแย้งใน 10 กว่าปีที่ผ่านมามันเกิดขึ้นจากหลักการประชาธิปไตยถูกทำให้บิดเบี้ยว
อย่างไรก็ตาม ในโลกโซเชียล หลายคนแชร์ภาพในอดีตและปัจจุบันของเพื่อนรักอย่างนายณัฐวุฒิ และนายสุภรณ์ เจ้าของฉายา “แรมโบ้อีสาน” ที่ขณะนี้ต่างสังกัดคนละพรรคการเมือง และเดินกันคนละเส้นทาง ซึ่งคำถามที่ทุกคนต่างอยากรู้ก็คือ แท้ที่จริงยังเป็นเพื่อนกันได้หรือไม่ ยังคุยกันหรือไม่
อนึ่ง ย้อนกลับไปในช่วงที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าควบคุมอำนาจการปกครอง นายสุภรณ์ถูกเรียกไปปรับทัศนคติเหมือนแกนนำ นปช. คนอื่นๆ กระทั่งหลังปล่อยตัว ได้ไปสาบานต่อหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี จ.นครราชสีมา ว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวทางการเมือง ต่อมาได้ไปร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ที่สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย จึงไปถอนคำสาบานแล้วลงสมัคร ส.ส. ในการเลือกตั้งครั้งนี้
