xs
xsm
sm
md
lg

มารู้จักเพลง “หนักแผ่นดิน” อดีตใช้ปราบคอมมิวนิสต์ มาถึงยุคที่ “บิ๊กแดง” แนะนำให้ “หญิงหน่อย” ฟัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รู้จักความหมายเพลง “หนักแผ่นดิน” ที่ “บิ๊กแดง” สวน “หญิงหน่อย” ที่ชูนโยบายตัดงบกลาโหม พบเป็นเพลงที่ใช้ด่าลัทธิคอมมิวนิสต์ในช่วงปี 2518 เปรียบ “ลัทธิอันธพาล” ขณะที่บ้านเมืองวุ่นวาย อำนาจรัฐปราบนักศึกษา-ผู้ชุมนุมขับไล่ “เผด็จการถนอม” จนต้องหนีเข้าป่า

... รายงาน

“เพลงอะไรที่กำลังฮิตตอนนี้ ก็เพลงหนักแผ่นดินไง”

ประโยคเด็ดที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงหาเสียงเลือกตั้งปี 2562

หลังจากที่ “หญิงหน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย และหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ปราศรัยเสนอนโยบายตัดงบกลาโหม 10% และยกเลิกการเกณฑ์ทหาร

สะเทือนถึง “กองทัพไทย” ที่มีกำลังพลทั้งประเทศกว่า 3 แสนคน

เมื่อมาดูความหมายของเพลง “หนักแผ่นดิน” พบว่าเป็นเพลงที่แต่งเมื่อปี 2518 ใช้เปิดออกอากาศทางสถานีวิทยุ จ.ส. กรมการสื่อสารทหารบก กองทัพบก ในการต่อสู้ทางการเมืองกับขบวนการคอมมิวนิสต์

ย้อนกลับไปในอดีตโฮจิมินห์ ชาวเวียดนาม ก่อตั้ง “พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย” แบบลับๆ ที่ โรงแรมตุ้นกี่ หน้าสถานีรถไฟหัวลำโพง เมื่อปี 2473 ก่อนจะก่อตั้งเป็นรูปเป็นร่างเมื่อปี 2485

7 ส.ค. 2508 พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ใช้อาวุธโจมตีกองกำลังของรัฐบาลไทยเป็นครั้งแรก ที่บ้านนาบัว ต.โคกหินแฮ่ อ.เรณูนคร จ.นครพนม เรียกกันว่า “วันเสียงปืนแตก”

หลังจากวันเสียงปืนแตก พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ก็ต่อสู้ด้วยอาวุธกับรัฐบาลไทยมาตลอด

กระทั่งในปี 2518 ลัทธิคอมมิวนิสต์ได้ยึดเวียดนามใต้ ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ลาว ล้วนเปลี่ยนไปเป็นลัทธิคอมมิวนิสต์ ทำให้หน่วยงานความมั่นคงหลายฝ่ายกังวลว่า ประเทศไทยจะเป็นเป้าหมายต่อไป นำมาสู่กลยุทธ์ต่อต้านคอมมิวนิสต์ของผู้มีอำนาจรัฐในยุคนั้น

เหตุการณ์ “6 ตุลาฯ 19” นักศึกษาและปัญญาชนที่ชุมนุมประท้วงการกลับประเทศของจอมพลถนอม กิตติขจร ผู้นำเผด็จการทหาร ต้องหลบหนีเข้าป่าเพราะเกรงกลัวการจับกุม หลังเกิดการจลาจลโดยกลุ่มกระทิงแดง และกลุ่มนวพล ที่สนับสนุนอำนาจรัฐ โดยไปเข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย

การต่อสู้ด้วยอาวุธยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง กระทั่งปี 2523 รัฐบาล พล.อ.เปรม ติณณสูลานนท์ ได้ออกคำสั่ง 66/23 นิรโทษกรรมแก่ฝ่ายคอมมิวนิสต์ การต่อสู้กันด้วยอาวุธจึงเริ่มยุติลง

สำหรับเพลง “หนักแผ่นดิน” ประพันธ์คำร้องโดย พ.อ.บุญส่ง หักฤทธิ์ศึก และขับร้องโดย ส.อ.อุบล คงสิน และศิริจันทร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา

เนื้อหาเพลงเป็นการประณามคนไทยที่คิดทำลายชาติ ด้วยการสมคบคิดกับต่างชาติ ยุยงปลุกปั่น ปลุกระดมมวลชนให้สับสนวุ่นวาย นำไปสู่ความแตกแยกในชาติ

โดยเฉพาะลัทธิคอมมิวนิสต์ ในเนื้อเพลงใช้คำว่า “ลัทธิอันธพาล”

ต่อมาในปี 2520 ชื่อเพลงนี้นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ชื่อ “หนักแผ่นดิน” กำกับโดย สมบัติ เมทะนี แสดงนำโดยสมบัติ เมทะนี และนัยนา ชีวานันท์

สำหรับเพลง “หนักแผ่นดิน” มีคำร้องดังนี้

คนใดใช้ชื่อไทยอยู่ กายก็ดูเหมือนไทยด้วยกัน
ได้อาศัยโพธิ์ทองแผ่นดินของราชันย์ แต่ใจมันยังเฝ้าคิดทำลาย
คนใดเห็นไทยเป็นทาส ดูถูกชาติเชื้อชนถิ่นไทย
แต่ยังฝังทำกิน กอบโกยสินไทยไป เหยียดคนไทยเป็นทาสของมัน

* หนักแผ่นดิน หนักแผ่นดิน คนเช่นนี้เป็นคนหนักแผ่นดิน (หนักแผ่นดิน!)
หนักแผ่นดิน หนักแผ่นดิน คนเช่นนี้เป็นคนหนักแผ่นดิน (หนักแผ่นดิน!)

คนใดยุยงปลุกปั่น ไทยด้วยกันหวังให้แตกกระจาย
ปลุกระดมมวลชนให้สับสนวุ่นวาย เพื่อคนไทยแบ่งฝ่ายรบกันเอง
คนใดหลงชมชาติอื่น ชาติเดียวกันเขายืนข่มเหง
ได้สินทรัพย์เจือจานก็ประหารไทยกันเอง ทีชาติอื่นเกรงดังญาติของมัน

(ซ้ำ *)

คนใดขายตนขายชาติ ได้โอกาสชี้ทางให้ศัตรู
เข้าทลายพลังไทยให้สลายทางสู้ เมื่อศัตรูโจมจู่เสียทีมัน
คนใดคิดร้ายราวี ประเพณีของไทยไม่ต้องการ
เกื้อหนุนอคติ เชื่อลัทธิอันธพาล แพร่นำมันมาบ้านเมืองเรา

(ซ้ำ *, *)



กำลังโหลดความคิดเห็น