MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7
สรุปข่าวประจำวันที่ 1-8 ก.พ. 2562
อันดับ 1 : "พระราชโองการ" ระบุ นำสมาชิกราชวงศ์มาเกี่ยว "การเมือง" มิบังควรอย่างยิ่ง
เมื่อวันที่ 8 ก.พ. มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ "สถาบันพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย" มีเนื้อหาโดยสรุปว่า สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่เหนือการเมือง เป็นศูนย์รวมและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนชาวไทย การนำสมาชิกชั้นสูงในพระบรมราชวงศ์มาเกี่ยวข้องกับระบบการเมือง เป็นการกระทำที่ขัดต่อโบราณราชประเพณี ขนบธรรมเนียม และวัฒนธรรมของชาติ ที่มิบังควรไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง อีกทั้งบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่เหนือการเมืองและทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ดังนั้น พระราชินี พระรัชทายาท และ พระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์ จึงอยู่ในหลักการด้วย ไม่สามารถดำรงตำแหน่งใดๆ ในทางการเมืองได้ เพราะจะขัดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และประเพณีการปกครอง
ก่อนหน้านี้ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ ยื่นหนังสือยินยอมให้เสนอชื่อให้สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี เสนอพระนาม ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นนายกรัฐมนตรี ระบุว่า กรรมการบริหารพรรคได้ประชุมกันและมีมติเสนอชื่อทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ เพราะเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ เป็นชื่อที่มีความเหมาะสมที่สุด ก่อนที่จะทรงมีพระเมตตาเกียรติตอบรับเป็นบัญชีนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธเป็นรัฐบาลแห่งชาติ อีกทั้งสนับสนุนเรื่องของประชาธิปไตย และทำทุกวิถีทางเพื่อสกัดกั้นการสืบทอดอำนาจ
ขณะที่ความเคลื่อนไหวทางด้านการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตอบรับเป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคพลังประชารัฐ พร้อมออกสารจากนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว เห็นว่านโยบายของพรรคพลังประชารัฐจะสามารถขยายผลสืบเนื่องสิ่งต่างๆ ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติและรัฐบาลนี้ได้ดำเนินการไปแล้ว รวมทั้งภาพรวมของพรรคที่มีสมาชิกหลากหลาย ถึงแม้บางคนเคยเป็นคู่ขัดแย้งทางการเมืองก็ตาม แต่จะสามารถร่วมมือนำพาประเทศก้าวไปข้างหน้าด้วยกันได้ ยืนยันว่าไม่ได้มุ่งหวังจะสืบทอดอำนาจ เพียงแต่มุ่งหวังถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนโดยรวมเป็นสำคัญ
อันดับ 2 : ไทยวุ่น-บาห์เรนแจ้งจับ "ฮาคีม" ออสซี่-นักสิทธิฯ ค้านแหลก
กลายเป็นประเด็นที่อาจจะกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ นายฮาคีม อัล โอไรบี อายุ 25 ปี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน ที่ลี้ภัยอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยพร้อมกับภรรยาเมื่อวันที่ 27 พ.ย. ถูกเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) กักตัวไว้ เนื่องจากมีหมายแดงของตำรวจสากลที่ทางการบาห์เรนแจ้งไว้ว่าหลบหนีคดีในข้อหาลอบวางเพลิง, ชุมนุมโดยมิชอบด้วยกฎหมายมากกว่า 5 คน, ครอบครองวัตถุไวไฟ (ระเบิดขวด) และทำรถยนต์ผู้อื่นเสียหาย เมื่อปี 2555 ศาลสั่งจำคุก 10 ปี
ต่อมาอัยการสำนักงานต่างประเทศยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนนายฮาคีมกลับไปดำเนินคดีที่บาห์เรนตามคำร้องขอ กลายเป็นกระแสที่โลกโซเชียลติดแฮชแทก #SaveHakeem พร้อมกับความเคลื่อนไหวกลุ่มสิทธิมนุษยชนและทางการออสเตรเลียช่วยกดดันให้ไทยปล่อยตัว ต่อมาวันที่ 4 ก.พ. ศาลนัดสอบคำให้การโดยเบิกตัวนายฮาคีมจากเรือนจำมาที่ศาล โดยนายฮาคีมแถลงขอปฏิเสธเอกสารสำนวนคดีดังกล่าว ศาลพิจารณาแล้วให้จำเลยยื่นคำคัดค้านได้ภายในวันที่ 5 เม.ย.2562 และนัดตรวจหลักฐานวันที่ 22 เม.ย. 2562
อันดับ 3 : ฝุ่นพิษกรุงเทพฯ คลี่คลาย แต่ไปโผล่ในต่างจังหวัด "ขอนแก่น" ฤดูเผาอ้อย
ในที่สุดปัญหาฝุ่นละอองต่ำกว่า 2.5 ไมครอน (PM2.5) ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลก็เริ่มคลี่คลาย หลังจากได้รับผลกระทบยาวนานมาตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค. 2562 ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากสภาพอากาศนิ่ง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน หลังจากภาครัฐดำเนินมาตรการลดปัญหา ทั้งการทำความสะอาดถนน การพ่นละอองน้ำแรงดันสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า กระทั่งเมื่อวันที่ 2 ก.พ. โรงเรียนการบินกรุงเทพ (BAC) นำเครื่องบินเล็ก 8 ลำ บรรทุกน้ำสะอาด 80-100 ลิตร ขึ้นบินโปรยละอองน้ำ พบว่าสามารถลดฝุ่นละอองในอากาศได้จริง
อย่างไรก็ตาม พบว่าในต่างจังหวัดกลับประสบปัญหาหมอกควันอันเนื่องมาจากการเผาไร่อ้อย โดยเมื่อวันที่ 7 ก.พ. พบว่าในตอนเช้าค่าฝุ่นละออง PM 2.5 สูงกว่า 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยวางมาตรการบังคับใช้กฎหมายการเผาอ้อยอย่างเคร่งครัด และให้โรงงานขึ้นบัญชีดำเกษตรกรที่นำอ้อยแบบเผามาส่ง และยืดเวลาการปิดหีบอ้อยจากวันที่ 10 เม.ย.ออกไป ขณะที่หลายจังหวัด โดยเฉพาะภาคเหนือ 9 จังหวัด ที่มีปัญหาการเผาป่าเพื่อทำไร่และหาของป่า เริ่มประกาศห้ามเผาอย่างเด็ดขาดแล้ว
อันดับ 4 : สุดยื้อ! "น้องใบหม่อน" เสียชีวิต "บิ๊กไบค์นรก" ชนกลางทางม้าลาย-อ้างมองไม่เห็น
ความเห็นแก่ตัวของผู้ใช้รถใช้ถนน ก่อให้เกิดเหยื่อจากอุบัติเหตุบนท้องถนนบ่อยครั้ง เฉกเช่น น.ส.หทัยภัทร ตันตสิริณทร์ หรือน้องใบหม่อน อายุ 15 ปี นักศึกษาวิทยาลัยนาฏศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ศาลายา ถนนศาลายา-นครชัยศรี อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เสียชีวิตเนื่องจากสมองบวมเมื่อวันที่ 8 ก.พ. หลังถูกรถจักรยายนต์บิ๊กไบค์ ยามาฮ่าเอ็มสแลซ สีดำ ทะเบียน 8 กย 7864 พุ่งชนขณะเดินข้ามถนนบริเวณทางม้าลายหน้าวิทยาลัย ลากไปไกลกว่า 20 เมตร ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ก่อนนำส่งโรงพยาบาล
ด้านนายมรรควัฒน์ จันทร์ไพจิตร อายุ 21 ปี ผู้ก่อเหตุยอมรับว่าชนผู้บาดเจ็บจริง โดยอ้างว่ามองไม่เห็นนักเรียนที่กำลังวิ่งข้ามถนน หลังน้องใบหม่อนเสียชีวิต พ.ต.ท.บุญพา ปาระแม รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.พุทธมณฑล ได้เพิ่มข้อหาจากเดิมขับขี่โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส มาเป็นขับขี่โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งโทษจะเพิ่มขึ้นเป็นต้องโทษไม่เกิน 10 ปี ก่อนฝากขังที่ศาลจังหวัดนครปฐม ขณะที่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ระบุว่า จะเร่งรัดก่อสร้างสะพานลอยตามที่วิทยาลัยร้องขอในปีนี้
อันดับ 5 : โอละพ่อ! "หนุ่มโรคไต" ขอรับบริจาคได้ 8 แสน สุดเคืองเอาไปซื้อรถ-ซื้อมือถือ
จากความสงสารของผู้ใจบุญ กลายเป็นผู้รับบริจาคใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ เมื่อวันที่ 4 ก.พ. มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 24 ม.ค. เชิญชวนบริจาคให้แก่หนุ่มรายหนึ่ง ที่ส่งข้อความขอรับการบริจาคเงินเนื่องจากป่วยเป็นโรคไตวาย มีอาการเหนื่อยหอบง่าย ต้องล้างไตฟอกไตตลอด กระทั่งมีผู้บริจาคเงินเข้าบัญชีผู่ป่วยรายนี้เป็นจำนวน 8 แสนบาท ภายหลังถูกเพจสายดาร์คแฉว่าผู้ป่วยรายนี้ กลับนำเงินไปซื้อรถกระบะ มูลค่า 360,000 บาท ไถ่ที่นาของแม่ 200,000 บาท เหลือเงินเก็บไว้ในบัญชีเพื่อเป็นค่ารักษา 3 แสนบาท
นายศรายุทธ พ่วงสะอาด หรือเพียว อายุ 28 ปี ชาว ต.น้ำเชี่ยว อ.แหลมงอบ จ.ตราด ผู้ขอรับบริจาคเงิน เปิดเผยเมื่อวันที่ 7 ก.พ. ยอมรับว่านำเงินบริจาคไปซื้อรถกระบะจริง อ้างว่าจำเป็นต้องนำน้ำยาล้างไตไปตรวจที่จังหวัดชลบุรี เมื่อก่อนต้องเช่ารถเพื่อนบ้านวันละ 3,000 บาท หากแข็งแรงขึ้นจะนำกระบะออกไปทำมาหากิน อีกส่วนหนึ่งนำไปใช้หนี้แม่ยายที่จำนองโฉนดที่ดินเพื่อกู้ยืมมาใช้รักษาตัว อีกส่วนหนึ่งซื้อโทรศัพท์มือถือมาใช้เอง ยืนยันว่าไม่ได้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย รือลวงโลกแต่อย่างใด ยอดเงิน 3.1 แสนบาทที่เหลือจะใช้จำเป็นที่สุด
อันดับ 6 : พระราชทานหนังสือชมเชย "5 นักเรียนนายสิบตำรวจ" ช่วยเหลือเหตุเพลิงไหม้
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้แทนเชิญหนังสือพระราชทานชมเชยการปฏิบัติหน้าที่ของนักเรียนนายสิบตำรวจ โดยตำรวจภูธรภาค 4 ได้จัดพิธีรับมอบหนังสือพระราชทานชมเชยการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ 8 ก.พ. สำหรับกลุ่มนักเรียนนายสิบตำรวจ ประกอบด้วย นสต.ณัฐพล คำเสนา อายุ 22 ปี, นสต.อธิพงษ์ จิตรศรีดา อายุ 22 ปี, นสต.พงศกร ต๊ะถา อายุ 22 ปี, นสต.ปัญญาวัฒน์ ขามก้อน อายุ 24 ปี และ นสต.กิตติศักดิ์ คำหาญ อายุ 22 ปี
สืบเนื่องมาจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก Nat Natthaphon เผยแพร่ภาพขณะที่กลุ่มนักเรียนนายสิบตำรวจ (นสต.) จากศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4 จังหวัดขอนแก่น 5 คน เข้าช่วยเหลือประชาชนในเหตุเพลิงไหม้บริเวณร้านอาหารไม้หลากสี ริมถนนมะลิวัลย์ ต.หนองแก อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ขณะขับรถยนต์เดินทางกลับศูนย์ฝึกฯ ในตัวเมืองขอนแก่น พร้อมทั้งช่วยกันตักน้ำมาดับเพลิงในขณะที่สวมเครื่องแบบ และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือกระทั่งเพลิงสงบ เหตุเกิดเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา
อันดับ 7 : ปิดตำนาน "แมวอโศก" คนรักสัตว์กังขา "ไลฟ์สด" ไปทำไม?
กลายเป็นประเด็นที่คนรักสัตว์ต่างแสดงความกังขา เมื่อวันที่ 6 ก.พ. เฟซบุ๊ก Kingdom Of Tigers : ทูนหัวของบ่าว ซึ่งมี นัชญ์ ประสพสิน เป็นแอดมินเพจ ได้ถ่ายทอดสดแมวอโศกขณะนอนป่วย โดยมีผู้ชมจำนวนมากกว่า 5 หมื่นครั้ง แต่ภายหลังเจ้าตัวได้โพสต์ข้อความระบุว่า ควรดูคลิปก่อนหน้านี้ให้จบก่อนตัดสินใจ แมวอโศกยังไม่ตาย แถมมีอาการดีขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย แต่ที่ไลฟ์สดเพราะเหมือนกำลังหมดลมหายใจ อย่างไรก็ตาม แมวอโศกตายจริงเมื่อวันที่ 7 ก.พ. ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ถึงเจตนาในการไลฟ์สดในตอนนั้นว่าทำไปเพื่ออะไร
สำหรับแมวอโศก เป็นแมวที่เคยอาศัยอยู่บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส อโศก ฝั่งศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 มักจะมานอนอวดโฉมให้ประชาชนทั่วไปพบเห็นกันเป็นประจำ ทำให้ต่างหลงรักและถูกบอกต่อในโซเชียลมีเดีย กระทั่ง น.ส.นัชญ์ ประสพสิน ได้นำแมวอโศกมาเลี้ยงและออกงานอีเวนต์ต่างๆ และเคยถูกนิตยสารชื่อดัง ติดต่อให้ถ่ายแบบประกบคู่กับซุป'ตาร์สาวอย่าง ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต มาแล้ว อย่างไรก็ตาม เจ้าของเพจ "แมว แมว" เห็นว่า รู้สึกไม่เห็นด้วยที่ถูกแชร์คลิปนี้ออกมา เพราะสภาพแมวตอนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่น่าดูนัก
