สะพัดตำรวจภูธรอยุธยา ตั้งกรรมการสอบปม “อัจฉริยะ” พ่วง “รอง ผกก.” โรงพักบางปะอิน คุ้ยทะเบียนราษฎร พบข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่-พ่วงผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน อยู่ในอำนาจ ป.ป.ช. ด้านรักษาการ ผกก.บางปะอิน ปัด “ยังไม่ได้รับรายงาน”
วันนี้ (27 ม.ค.) จากกรณีที่มีผู้เสียหายรายหนึ่ง (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) พร้อมด้วย นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความชื่อดัง และ เลขาธิการมูลนิธิทนายประชาชนเพื่อเยาวชนและสังคม เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินคดีกับ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยมีตำรวจนายหนึ่งสืบค้นข้อมูลทะเบียนราษฎรของผู้เสียหายและภรรยา ก่อนส่งต่อข้อมูลดังกล่าวไปเผยแพร่ตามสื่อโซเชียลเครือข่ายนายอัจฉริยะ กล่าวหาว่าเป็นแอดมินเพจสายดาร์กเพจหนึ่ง ทำให้ถูกข่มขู่คุกคามทั้งที่ไม่เกี่ยวข้อง
ต่อมาฝ่ายผู้เสียหาย พบว่า ฝ่ายคู่กรณีมีความพยายามแก้ไขและเขียนแทรกบันทึกประจำวันย้อนหลังจากฝ่ายคู่กรณี โดยมีตำรวจยศ พ.ต.ท. นายหนึ่ง เป็นผู้ลงบันทึกประจำวัน ทำให้เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2562 ผู้เสียหายพร้อมด้วย นายษิทรา เข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบปราม เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะ และตำรวจคนดังกล่าว ในข้อหาร่วมกันปลอมแปลงเอกสารราชการ และร่วมกันทำพยานหลักฐานเท็จ กระทั่งเมื่อวันที่ 11 ม.ค. พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.ฤทธิ์ ศิริเทพ ผกก.สภ.บางปะอิน และ พ.ต.ท.เรืองยศ เกษรบัว รอง ผกก.สส.สภ.บางปะอิน ไปปฏิบัติการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 1 โดยขาดจากตำแหน่งเดิม
ล่าสุด มีรายงานว่า หลังผู้เสียหายรายนี้เข้าแจ้งความกับกองปราบปรามไปแล้ว ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า การกระทำของ พ.ต.ท.เรืองยศ เป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และนายอัจฉริยะ ในข้อหาเป็นผู้สนับสนุนให้เจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264, 265, 268 และ 83 แต่คดีอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จึงต้องส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมหลักฐานอื่นๆ ถึง พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาชี้มูลความผิดและดำเนินคดี
อย่างไรก็ตาม วานนี้ (26 ม.ค.) ผู้สื่อข่าว MGR Online ได้โทรศัพท์สอบถามไปยัง พ.ต.อ.วีระชัย เหลืองวิไล ผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รักษาราชการแทน ผกก.สภ.บางปะอิน เพื่อสอบถามถึงเรื่องดังกล่าว ได้รับคำตอบเพียงสั้นๆ ว่า “ยังไม่ได้รับรายงาน” ก่อนที่จะตัดสายไป