ผู้จัดการทั่วไป ร้านจำหน่ายอุปกรณ์เสริมสวยชื่อดังในตัวเมืองเชียงใหม่ โพสต์โซเชียลร้องขอความเป็นธรรม ถูกอดีตพนักงานบัญชีปลอมแปลงเช็คไปขึ้นเงินธนาคารชั้นนำ 4 แห่ง รวม 63 ใบ เสียหายกว่า 8 ล้าน ติดตามเรื่องนี้กว่า 3 เดือน กลับเงียบหาย ทั้งที่เป็นลูกค้าชั้นดี ลูกค้าวีไอพี ถูกปะเหลาะขายผลิตภัณฑ์มาตลอด พอมีปัญหากลับบ่ายเบี่ยง โยนกันไปมา เชื่อถือไม่ได้ แถมคดีล่าช้าไม่คืบหน้า แบงก์ชาติยังเมิน
เมื่อวันที่ 16 ม.ค. เฟซบุ๊กส่วนตัว “อามิตร จาวลา” ของ นายอามิตร จาวลา ผู้จัดการทั่วไป ร้านอุปกรณ์เสริมสวย และผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผม “วิน ซาลอนเน่” ตลาดวโรรส จ.เชียงใหม่ โพสต์ข้อความร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกอดีตพนักงานบัญชีกระทำการทุจริตเช็คของห้างหุ้นส่วนจำกัด ที่เปิดไว้กับธนาคารชื่อดัง 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารสีน้ำเงิน 36 ฉบับ เป็นเงิน 6.5 ล้านบาท, ธนาคารสีฟ้า 18 ฉบับ เป็นเงิน 9.9 แสนบาท, ธนาคารสีเขียว 8 ฉบับ เป็นเงิน 2.4 แสนบาท และ ธนาคารสีม่วง 1 ฉบับ เป็นเงิน 1.8 แสนบาท รวม 63 ฉบับ มูลค่าความเสียหายกว่า 8 ล้านบาท และพบว่า 1 ใน 4 ธนาคาร มีเจ้าหน้าที่ของธนาคารมีส่วนเกี่ยวข้องให้การสนับสนุน และรับเงินโอนจากเช็คที่อดีตพนักงานบัญชีรายนี้ปลอมแปลงอีกด้วย
นายอามิตร โพสต์ข้อความระบุว่า ตนทราบเรื่องเช็คของบริษัทถูกอดีตพนักงานบัญชีกระทำการทุจริต มาตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย. 2561 ที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทคู่ค้าได้โทรศัพท์เพื่อทวงถามว่า ยังไม่ได้รับเงินค่าสินค้าจากบริษัทฯ แต่เช็คของตนสั่งจ่ายไปแล้ว และได้ตัดเงินจากบัญชีเรียบร้อยแล้ว กระทั่งตรวจสอบพบว่า อดีตพนักงานบัญชีของบริษัทฯ ได้แก้ไขข้อมูลเช็คของทาง หจก.วาย เค ซี เทรดดิ้ง ทั้งเช็คที่ตนสั่งจ่ายให้คู่ค้า และเช็คที่คู่ค้าสั่งจ่ายให้ตน โดยเช็คทุกใบที่ถูกแก้นั้น ถูกเปลี่ยนชื่อผู้รับเงินปลายทางเป็นชื่อสามี ลูกชาย รวมทั้งชื่อของอดีตพนักงานบัญชีรายนั้นด้วย โดยพบว่าแต่ละเดือนในบริษัทฯ มีการทำธุรกรรมผ่านเช็คนับร้อยใบ อดีตพนักงานบัญชีรายนี้ฉวยโอกาสหยิบเช็คครั้งละ 2-3 ใบ และนำไปแก้ไข ก่อนนำฝากเข้าบัญชีต่างๆ ที่เตรียมไว้ เพื่อรับเงินจากธนาคาร 4 แห่ง
โดยลายเซ็นที่กำกับการแก้ไข ชื่อและวันที่ ภายในเช็คนั้น ไม่เหมือนลายเซ็นสั่งจ่ายที่ตนเซ็นอยู่ภายในเช็คใบเดียวกัน เช็คบางใบก็ปลอมทั้งฉบับ แก้ทุกอย่าง ขีดฆ่าเต็มทั้งใบก็มี ลายเซ็นก็ไม่เหมือน แต่ทางธนาคารกลับปล่อยให้เช็คเหล่านั้นผ่าน สามารถขึ้นเงิน ตัดเงินออกจากบัญชีได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งมีใบหนึ่งเขียนเป็นเงินสดแล้วเบิกหน้าเคาน์เตอร์ธนาคารก็มี ใช้วิธีขีดฆ่าชื่อคนอื่นในเอกสารของธนาคาร แล้วเขียนชื่อตัวเองลงไปแทน พร้อมกับปลอมลายเซ็น เช็คบางใบมีถึง 3 ลายเซ็นที่หน้าตาไม่เหมือนกันเลย บางใบยังแก้ไขเร่งวันที่เช็คให้เร็วขึ้นอีก นอกจากนี้ ยังพบว่าหนึ่งในธนาคารที่ปลอมเช็ค มีพนักงานธนาคารบางคนเกี่ยวข้อง โดยมีข้อความสนทนากับอดีตพนักงานบัญชี ว่าเห็นถึงความผิดปกติของเช็ค แต่กลับปล่อยให้เช็คนั้นผ่านไปได้ โดยไม่ได้เอะใจ โทร.สอบถามกับตน ทั้งที่เป็นลูกค้าชั้นดีของธนาคารมาตลอด และมีเบอร์ส่วนตัวหมดทุกคน
นายอามิตร กล่าวว่า ตนได้ติดตามเรื่องนี้กับธนาคารทั้ง 4 แห่งมาร่วม 3 เดือน ทุกวันนี้ยังไม่มีคำตอบใดๆ และไม่มีท่าทีที่จะคืนเงินแม้แต่น้อย ทั้งที่เคยบอกว่าเป็นลูกค้าวีไอพี ลูกค้าชั้นดี เสนอขายผลิตภัณฑ์ทั้งประกันชีวิต บัตรเครดิต กองทุน สินเชื่อ เครื่องรูดบัตร ติดตามทุกกันไม่ขาด แต่วันที่เกิดปัญหาขึ้นกลับไม่เหลียวแล ตนติดต่อทุกคน สอบถามทุกเบอร์ทุกช่องทาง กลับไม่มีใครว่างพบ บ่ายเบี่ยงให้โทร.หาคนอื่น บอกจะโทร. กลับเมื่อได้คำตอบ แต่จนถึงวันนี้กลับไม่เคยมีใครอัพเดตอะไรเลย บางครั้งไม่รับโทรศัพท์ ต้องโทร. คุยกับคอลเซ็นเตอร์ เล่าเรื่องเดิม ฝากเรื่องเดิม ได้รับคำตอบว่า หากมีอะไรอัพเดต เราจะติดต่อกลับไป จึงฝากบอกกับสังคมว่า อย่าได้หลงเชื่อกับคำโฆษณา และคำสัญญาใดๆ แม้แต่ถ้อยคำที่เจ้าหน้าที่ธนาคารระดับสูง เคยบอกตลอดมาว่าพึ่งได้นั้นไม่จริง
“เรื่องนี้ได้กินเวลาในชีวิตของผมไปจนหมดสิ้น ทำให้ผมท้อทั้งกายทั้งใจ กินนอนไม่ได้ แถมผมยังเครียดจนต้องไปโรงพยาบาลให้หมอรักษาความเครียดของผม กระทบทั้งธุรกิจ ทั้งครอบครัวของผม สุขภาพกายและใจย่ำแย่มาก เหนื่อยมากในการตามหาหลักฐาน ร้องทุกข์แจ้งความวิ่งเข้าออกโรงพักเป็นว่าเล่น ทั้งโทร. หาธนาคาร ติดต่อนัดหมายกับผู้มีส่วนรับผิดชอบด้วยตนเองก็ถูกผลัดเลื่อนไปมา บ่ายเบี่ยงไปมา ทั้งส่งจดหมายติดตามเอง ให้ให้ทนายติดตาม จนไปถึงร้องต่อธนาคารแห่งประเทศไทยให้ช่วยติดตามธนาคาร เกิน 3 เดือนแล้ว ที่ถูกเพิกเฉย อย่างกับเราไม่มีตัวตน ผมจึงถือโอกาสนี้เรียกร้องให้ธนาคารแสดงความรับผิดชอบอย่างมืออาชีพ และเป็นสถานที่ที่ทุกคนไว้วางใจในการฝากทรัพย์สิน เงินที่ทำงานหามาทั้งชีวิต ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการดำเนินคดีที่เป็นไปอย่างล่าช้า ธนาคารบางแห่งก็ไม่ได้ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร ผมจึงตัดสินใจแชร์เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ เนื่องจากความผิดปกติขนาดนี้แต่ทางธนาคารยังปล่อยผ่าน แล้วต่อไปเราจะไว้ใจธนาคารให้ดูแลเงินของเราได้อย่างไร” นายอามิตร กล่าว