ศูนย์ฝนหลวงภาคตะวันออก ระยอง นำเครื่องบินคาซาจำนวน 2 ลำบินขึ้นปฏิบัติการทำฝนหลวงแล้ว เผยค่าความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศร้อยละ 72 ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เพื่อเตรียมโปรยสารฝนหลวง สร้างแกนให้ละอองน้ำเกาะ เกิดเป็นเมฆ แล้วโปรยสารฝนหลวงเพิ่ม คาดว่าบ่ายนี้ กทม.มีฝนตกเพิ่ม
วันนี้ (15 ม.ค.) นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 10.00 น. หน่วยเคลื่อนที่เร็วปฏิบัติการฝนหลวงได้ขึ้นบินปฏิบัติการจากสนามบินจังหวัดระยอง เพื่อเร่งดำเนินการทำฝนหลวงที่บริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา และจังหวัดนครนายก โดยให้กระแสลมพาเฆมฝนมาตกในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล แก้ไขปัญหาฝุ่นละอองเกินมาตรฐานในพื้นที่เสี่ยงกระทบสุขภาพประชาชน
“แนวที่จะทำปฏิบัติการฝนหลวง ด้วยการสร้างแกนเมฆในขั้นตอนที่ 1 และขั้นตอนที่ 2 ก่อกวน เลี้ยงให้อ้วน บริเวณพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา และนครนายก หลังจากนั้นจะตามเลี้ยงให้อ้วนแล้วปล่อยให้เมฆไหลเข้ากรุงเทพฯ ลมมาทางทิศตะวันออก จะพาเฆมฝนมาตกบริเวณฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ ช่วงบ่ายนี้ โดยการทำฝนหลวงครั้งนี้ใช้เครื่องบินคาซา 2 ลำ ซึ่งช่วงนี้สภาพอากาศมีแนวโน้มทำฝนหลวงได้ถึง 18 ม.ค. คาดว่าจะช่วยทำให้ปัญหาฝุ่นละอองลดลงได้” นายสุรสีห์กล่าว
ศูนย์ฝนหลวงภาคตะวันออก จังหวัดระยอง นำเครื่องบิน CASA จำนวน 2 ลำบินขึ้นปฏิบัติการทำฝนหลวง ระบุมีความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศร้อยละ 72 ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี จากขั้นต่ำที่สามารถปฏิบัติการได้อยู่ที่ร้อยละ 60
สำหรับจุดที่เครื่องบินจะขึ้นบินไปวางแกนให้เกิดการก่อตัวของเมฆ เครื่องบินจะขึ้นจากท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา จังหวัดระยอง แล้วมุ่งไปยังบริเวณอำเภอบางปะกงถึงบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อโปรยสารฝนหลวง ในการสร้างแกนให้ละอองน้ำเกาะ เกิดเป็นเมฆ แล้วโปรยสารฝนหลวงเพิ่ม
