"เนชั่นกรุ๊ป" มีมติแต่งตั้ง "ฉาย บุนนาค" เป็นรองประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร เตรียมพาองค์กรฝ่าวิกฤติ ลุยเจรจา 9 สถาบันการเงินสางปัญหาหนี้สินสะสม 1,100 ล้านบาทควบคู่การเพิ่มทุน
วันนี้ (11 ม.ค.) มีรายงานว่าที่ประชุม บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG มีมติให้แต่งตั้ง นายฉาย บุนนาค ดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2562 เป็นต้นไป
ด้านนายฉาย เผยว่า ธุรกิจสื่อในปัจจุบันอยู่ในภาวะถดถอย การดำเนินธุรกิจเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยธุรกิจสิ่งพิมพ์มีแนวโน้มรายได้ลดลง ส่วนธุรกิจทีวีดิจิทอล เผชิญปัญหาต้นทุนค่าใบอนุญาตที่สูงเกินความเป็นจริง ขณะที่ธุรกิจจากนิวส์มีเดีย มีแนวโน้มการเติบโตดี แต่ปัญหาคือรายได้ในส่วนนี้ยังไม่สามารถทดแทนรายได้จากสื่อสิ่งพิมพ์ได้ และนี่คือโจทย์ที่ท้าทายในการบริหารงาน
ในส่วนของเครือเนชั่น มีทั้งธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ และธุรกิจดิจิทอล แต่จากการที่เครือเนชั่นดำเนินธุรกิจมาถึง 47 ปี จึงไม่ได้เป็นแค่บริษัทที่ดำเนินธุรกิจสื่อ แต่เป็นสถาบันซึ่งเป็นที่พึ่งของประชาชน จึงต้องรักษาไว้ให้องค์กรเดินหน้าต่อไปได้ ภายใต้การนำเสนอข่าวที่น่าเชื่อถือ ควบคู่ไปกับการปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
ที่ผ่านมาผู้บริหารได้ปรับโครงสร้างธุรกิจ ควบคู่ไปกับลดภาระค่าใช้จ่ายจากธุรกิจนอน -คอร์ เพื่อลดภาระการขาดทุน และจากข้อเท็จจริงพบว่าเครือเนชั่นสามารถเลี้ยงตัวเองได้ แต่ปัญหาเกิดจากหนี้สินสะสมในอดีต ซึ่งเชื่อมั่นว่าภายใต้การดำเนินงานของผู้บริหารชุดปัจจุบัน จะสามารถสร้างรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายและทำให้ผลประกอบการเป็นบวกภายในปีนี้อย่างแน่นอน และในการเข้ารับตำแหน่งครั้งนี้ จะไม่รับเงินเดือนจากบริษัท จนกว่าจะมีกำไรจากการดำเนินงาน
ล่าสุดได้จัดทัพองค์กร โดยแบ่งธุรกิจออกเป็น 4 กลุ่ม และตั้งเป้าทำรายได้รวม 2 พันล้านบาทในปีนี้ คือ 1.ทีวีดิจิทอล คือช่องเนชั่นทีวี 22 และช่องนาว 26 โดยปีนี้ตั้งเป้าทำรายได้ 1,100 ล้านบาท 2.สื่อสิ่งพิมพ์ คือ กรุงเทพธุรกิจ คมชัดลึก และ THE NATION ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 700 ล้านบาท
3.กลุ่มดิจิทัล ซึ่งอยู่ระหว่างการตั้งทีมงานมาดูแล โดยจะกำหนดเป้าหมายรายได้ต่อไป และ 4.งานอีเวนท์ แบ่งเป็นงานที่เครือเนชั่นดำเนินการอยู่แล้ว เช่น งานปั่นจักรยาน งานวิ่ง คมชัดลึกอะวอร์ด และจะมีงานใหม่คืออีเวนท์พิเศษ อาจจัดปีละ 1-2 ครั้ง เช่น งานด้านเทคโนโลยี โดยตั้งเป้ารายได้ 150-200 ล้านบาท
ส่วนปัญหาหนี้สินสะสม 1,100 ล้านบาท อยู่ระหว่างการเจรจากับ 9 สถาบันการเงินเจ้าหนี้ ควบคู่ไปกับการเพิ่มทุน ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากกลุ่มผู้ถือหุ้นแล้ว โดยคาดว่าการเจรจากับเจ้าหนี้จะได้ข้อยุติภายในไตรมาสแรกปีนี้ และน่าจะดำเนินการเพิ่มทุนในช่วงไตรมาส 2