บรรยากาศงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” ประชาชนทั่วสารทิศต่างหลั่งไหลแต่งชุดไทยร่วมงาน ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก และอุดหนุนสินค้าที่ร้านต่างๆ นำมาร่วมจัดจำหน่ายภายในงานสุดคึกคัก
ในโอกาสที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระราชานุญาตให้หน่วยราชการในพระองค์จัดงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” ระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2561-19 มกราคม 2562 ณ พระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า
วันนี้ (9 ม.ค.) อันเป็นวันที่ 32 ของการจัดงาน ตลอดทั้งวันยังคงมีประชาชนจากทั่วประเทศ ส่วนใหญ่แต่งกายด้วยชุดไทยโบราณ และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทยอยมาชมงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว “สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” ท่ามกลางสภาพอากาศที่เย็นสบายอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่ให้ความสำคัญต่อการถ่ายภาพกับสถานที่สำคัญต่างๆ ที่ได้จำลองมาตั้งอยู่ที่พระลานพระราชวังดุสิต เช่น พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ เรือพระที่นั่งจำลองทั้ง 4 ลำ รวมทั้งดอกไม้นานาพรรณหลากสีสันที่กำลังผลิดอกอย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังเข้าชมนิทรรศการต่างๆ เช่น นิทรรศการพระมหากรุณาธิคุณแห่งสายน้ำ นิทรรศการบ้านประหยัดพลังงาน นิทรรศการสินสายน้ำสืบสานงานพระราชดำริ เป็นต้น มีประชาชนเข้าชมอย่างต่อเนื่อง
ส่วนภายในสนามเสือป่า อันเป็นที่ตั้งของร้านค้าพระบรมวงศานุวงศ์ และร้านค้ารับเชิญทั้งจากภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะร้านสมาคมแม่บ้านตำรวจ ที่ได้นำผ้าปาเต๊ะพิมพ์ด้วยลวดลายต่างๆ เป็นสินค้าขายดีของทางร้านมาจำหน่าย โดยนางสว่างจิตต์ สวยสุวรรณ รองประธานชมรมแม่บ้านตำรวจ เผยว่า สินค้าที่นำมาจำหน่ายจะหมุนเวียนสินค้าคุณภาพมาจำหน่าย วันนี้เป็นสินค้าทางภาค 9 หรือทางภาคใต้จาก 7 จังหวัด เช่น ผ้าปาเต๊ะจังหวัดสงขลา ผืนละ 190 บาท ผ้าปาเต๊ะจังหวัดปัตตานี โดยเอกลักษณ์ของลายผ้าจะนำดอกชบา ดอกไม้ประจำจังหวัดปัตตานีมาเขียนลวดลายลงบนผืนผ้าด้วยมือ นอกจากนี้ จังหวัดปัตตานียังนำหมวกที่เย็บด้วยผ้าปาเต๊ะ, ร่มลายเรือกอและ ซึ่งลวดลายเหล่านี้จะเห็นบนเรือกอและ แต่ในงานนี้นำมาประยุกต์ระบายสีไว้บนร่มด้วยฝีมือชาวประมง มีจำหน่ายจำนวนจำกัด ในร้านยังมีมุมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกโดยการนำเรือที่ใช้สัญจรไปมาในอดีตมาจัดแสดงสำหรับประชาชนที่เข้ามาเยี่ยมชมภายในงานครั้งนี้ ซึ่งมุมนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง
ทั้งนี้ กองอำนวยการร่วมฯ ได้สรุปยอดผู้เข้าร่วมงานอุ่นไอรักฯ เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 62 มีจำนวน 25,205 คน ยอดรวมตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค. 61-8 ม.ค.62 จำนวน 844,745 คน