xs
xsm
sm
md
lg

เลือดข้น คนไม่จาง... เปิดชีวิตจริง “ดร.รวีภัทร์ จิรศักดิ์วัฒนา”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


หากชีวิตของตัวละคร ลารา ครอฟต์ ใน Tomb Raider ถูกวางไว้ให้เป็นหญิงแกร่งนักผจญภัยและนักเอาตัวรอด ชีวิตจริงของ “ดีเจอ๊อฟ-ดร.รวีภัทร์ จิรศักดิ์วัฒนา” ผู้บริหาร บริษัท ธนันดรครีเอชั่น ที่ครั้งหนึ่งได้รับฉายาเป็นเจ้าพ่อพิธีกรรายการเคเบิลทีวีกว่า 13 รายการคนนี้ก็คงมีรสชาติสนุกเข้มข้นไม่ต่างจากตัวละครในเรื่องนี้นัก

ด้วยเพราะเขาต้องออกจากบ้านมาใช้ชีวิตด้วยตัวเองแต่อายุ 15 ปี เผชิญเรื่องดีและร้าย สร้างตัวจนประสบความสำเร็จ ร่ำรวยมีเงินมากมาย แต่สุดท้ายเจอพิษเศรษฐกิจและกระแสความวุ่นวายทางการเมืองในช่วงชมนุม ทำธุรกิจพัง ติดหนี้หลายสิบล้านบาท จึงตัดสินใจกินยาฆ่าตัวตาย แต่โชคดีรอดมาได้ แต่ต้องอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ หาเงินใช้หนี้จนหมด และเริ่มนับหนึ่งใหม่ในธุรกิจผลักดันเวทีประกวดนางงามท้องถิ่น และเพิ่งจะวางมือลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อล้างบาปให้ตัวเองด้วยการพัฒนาท้องถิ่นให้ยั่งยืน

อ๊อฟ-ดร.รวีภัทร์ จิรศักดิ์วัฒนา เป็นหนุ่มแดนด้ามขวาน เกิดในครอบครัวที่มีพ่อแม่เป็นชาวสวน เริ่มต้นการศึกษาที่จบประถมจากโรงเรียนชูศิลป์วิทยา และมัธยมปลายจากโรงเรียนจรัสพิชากร ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จากนั้นจึงตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงเทพฯ มาสอบเป็นนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ วิทยุและโทรทัศน์ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จนคว้าปริญญาตรีใบแรกให้เป็นของขวัญแม่และพ่อได้สำเร็จ

“ต้องบอกว่าชีวิตเหมือนมีบททดสอบอยู่เรื่อยๆ นะครับ ตั้งแต่เด็กมาเลย บ้านเรายากจน จะเรียนหนังสือก็ไม่มีเงินจ่าย ค้างค่าเทอม แต่โชคดีคุณครูเห็นความตั้งใจก็ให้ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือจนจบ... ตอนจะต่อปริญญาตรี พ่อกับแม่ก็อยากให้เรียนราชภัฏนครศรีธรรมราช แต่ผมอยากเข้ากรุงเทพฯ อยากหาประสบการณ์ ผมเชื่อว่าที่กรุงเทพฯ จะช่วยผมและครอบครัวให้หลุดพ้นความจนได้”

ที่กรุงเทพฯ อ๊อฟต้องทำงานทุกอย่างเพื่อหารายได้เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งค่าเทอม ค่าเช่าบ้าน ค่ากินอยู่ของตัวเอง ถ้าเดือนไหนเหลือมากพอก็ส่งเงินให้ที่บ้านด้วย ทำแบบนี้เรื่อยมาจนจบปริญญาตรี เข้าทำงานที่ Hit Station เป็นเคเบิลทีวี ตำแหน่งครีเอทีฟ ทำได้ระยะหนึ่งเพื่อนชวนไปเป็นสจ๊วต

“ตอนนั้นผมสนใจ เพราะเคยมีคนบอกว่าสจ๊วตเป็นอาชีพที่เงินดี แถมสนุกได้ขึ้นเครื่องบินเที่ยวด้วย เลยไปสมัครที่สายการบินพีซีแอร์ไลน์ ปรากฏทำได้ไม่นานก็รู้สึกว่าไม่ใช่แล้ว แต่ก็อดทนทำไปประมาณปีกว่าๆ จนเจอคนทักว่าเป็นตุ๊ดก็เลยตัดสินใจลาออกกลับมาทำงานที่ Hit Station อีกครั้ง ด้วยการเอาเงินที่สะสมจากการเป็นสจ๊วตมาซื้อเวลาสถานีผลิตรายการ โดยการเจรจากับทางเจ้าของช่องว่าเราขอเช่าเวลาเพื่อผลิตรายการ ช่วงนั้นหนึ่งวันผมมีรายการทั้งหมด 13 รายการ ผมถือว่าผมคือหนึ่งในตองอูของเคเบิ้ลทีวีในตอนนั้นเลย”

แต่ใครจะเชื่อว่าธุรกิจที่กำลังเติบโตไปด้วยดี กลับต้องพังลงอย่างไม่มีชิ้นดี เพราะพิษเศรษฐกิจและปัญหาความขัดแย้งอย่างรุนแรงในบ้านเมือง จนนำไปสู่การรัฐประหาร ส่งผลให้ทีวีเคเบิลทุกช่องต้องปิดหมด

“เงินที่เก็บมาทั้งชีวิตหมดเลยครับ ผมขาดทุนแบบย่อยยับ ต้องเอาทรัพย์สินที่ตัวเองมีออกมาใช้จนหมด เรียกว่าจากที่เราต่ำสุดขึ้นสู่สูงสุด แล้วเราก็ลงมาสู่ต่ำสุดอีกครั้ง และต่ำกว่าเดิมอีกครับ ผมติดหนี้ 10 ล้าน ผมเห็นกระดาษใบหนึ่งที่ติดอยู่บนเสาไฟฟ้า คำว่าเงินเร็วเงินด่วน ผมเอาครับ เพื่อประทังชีวิตตัวเอง และเรายังหลอกตัวเองอยู่ว่าเรามีเงินหมุนให้เขา ผมต้องหาเงินมาใช้เขาวันละ 25,000 บาท วันโดยที่ผมก็ไม่รู้เลยว่าจะมีเงินมาให้เขาไหม เพราะว่าผมไม่มีงานทำ ผมก็ใช้วิธีขอคนนั้นสองพัน คนนี้สามพัน เพื่อมารวมกันให้ครบสองหมื่น และส่งเขา ในวันนี้จบผมหลับได้สบายดี แต่อีกวันผมก็ต้องทำแบบนี้อีก ทำแบบนี้อยู่เกือบครึ่งปีโดยที่ไม่บอกที่บ้านเลย มันกลัวไปหมด มันหลอนจนผมตัดสินใจกินยาฆ่าตัวตายเพื่อหนีปัญหา แต่ไม่ตาย คิดถึงพ่อแม่พี่น้องว่าถ้าเราไปเขาจะลำบาก ก็อดทนจนเจอรุ่นพี่เขาให้ที่อยู่ให้ที่ทำกิน เราก็ทำงานเงียบๆ ค่อยๆ เก็บเงินใช้จนหมด ถึงกล้าออกมาทำงานเปิดเผยตัวตนอีกครั้ง”

อ๊อฟกลับมาสู่ธุรกิจบันเทิงอีกครั้งตามคำแนะนำและชักชวนของรุ่นพี่ที่คลุกคลีในวงการประกวดนางงาม โดยงานแรกที่เข้ามาทำคือการจัดอีเวนต์งานประกาศผลรางวัลโครงการรางวัลเกียรติยศนรสิงห์ ให้กับบุคคลต้นแบบคนดี และต่อด้วยการบริหารจัดการเวทีประกวดนางงามหลายเวที ทั้ง เวที Miss Tourism Queen International 2017 ณ จังหวัดพัทลุง, เวที World Miss Tourism เป็นต้น

“งานตรงนี้สนุก มีความสุข และภูมิใจมากๆ ตรงที่เราได้กลับมาช่วยบ้านเกิด ช่วยสร้างรายได้ให้คนในท้องถิ่น ที่สำคัญคือช่วยประชาสัมพันธ์เมืองไทยให้ชาวโลกรู้ว่าบ้านเมืองเรามีอะไรดีๆ มีที่ท่องเที่ยวที่มีวัฒนธรรมงดงาม”

แม้จะมีความสุขในงานบริหารเวทีประกวดนางงาม แต่ด้วยความคิด ความทะเยอทะยานในการพัฒนาตัวเองให้ดีและก้าวหน้าที่ฝังรากลึกในตัวหนุ่มคนนี้ไม่เคยหยุดนิ่ง เมื่อมีผู้ใหญ่ในแวดวงการเมืองที่เคยช่วยและให้คำปรึกษา “อ๊อฟ” ในช่วงที่เขาต้องเผชิญปัญหาเห็นแววจึงมาทาบทามให้ลงเล่นการเมือง

“อ๊อฟ” ใช้เวลาทบทวนไม่นานก็ตัดสินใจที่จะลองเดินเส้นทางการเมือง ด้วยการลงสมัครรับเลือกตั้งในฐานะสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ

“เป็นครั้งแรกในชีวิตครับสำหรับงานทางการเมือง ผมเลือกลงที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพราะเป็นบ้านเกิด ก็อยากมาทดแทนคุณให้บ้านเกิด ผมมองว่าการที่จะขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าต้องเริ่มจากตนเองเป็นสำคัญ แล้วพัฒนาในท้องถิ่นหรือบ้านเกิดของตนให้มั่นคงก่อน ถ้าท้องถิ่นดี ประเทศก็จะดีเอง สิ่งที่อยากทำคืออยากจะพัฒนาท้องถิ่นแต่ละที่ ทำสิ่งต่างๆ ให้มีค่า ให้เป็นเงินกลับมาทำให้ญาติพี่น้องหรือคนที่อยู่ในพื้นที่นั้นได้กลับมามีเงินมีทองได้ดูแลตัวเอง พัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ในหมู่บ้านให้ดีก่อนเสียก่อน ไม่ต้องเศรษฐกิจระดับชาติ แต่ทำระดับท้องถิ่นให้มันดีแล้วมันจะดีขึ้นเอง ผมอยากเข้ามาเพื่อทำให้มันดีขึ้นจริงๆ ไม่ได้อยากมากอบโกย เพราะเราต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศให้ดียิ่งขึ้น ด้วยใจที่หวังว่าต้องการเปิดโอกาสให้กลุ่มคนรุ่นใหม่เข้ามามีบทบาทและสามารถ แสดงศักยภาพของตนในอนาคตได้อย่างเต็มที่ เพราะเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ทุกคนไม่ควรมองข้ามและหันมาให้ความสนใจให้มากยิ่งขึ้น”

กับงานทางการเมืองถือเป็นบทบาทใหม่อีกครั้งที่สำคัญในชีวิตของ อ๊อฟ-ดร.รวีภัทร์ จิรศักดิ์วัฒนา เขาบอกเหตุการณ์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไร? ประชาชนจะยอมรับเลือกเขาไปทำงานหรือไม่ เขาไม่รู้ เขารู้แต่ว่าเมื่อตัดสินใจเดินหน้ามาทางนี้แล้ว...เขาก็ต้องทำให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง






กำลังโหลดความคิดเห็น