“กรีนพีซ ประเทศไทย” โพสต์ส่งกำลังใจผู้ประสบภัย “ปาบึก” หลังพัดถล่มภาคใต้ พบมีแนวโน้มเกิดพายุมากขึ้น

เพจ "Greenpeace Thailand" โพสต์ส่งกำลังใจให้ผู้ที่ประสบภัยจากพายุโซนร้อนปาบึกในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย นอกจากนี้ยังพบว่าจำนวนพายุหมุนเขตร้อนในระดับที่รุนแรงกว่าพายุดีเปรสชันเขตร้อนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

เมื่อวันที่ 6 ม.ค. เพจ "Greenpeace Thailand" ได้โพสต์รูปภาพความเสียหายจากพายุโซนร้อน "ปาบึก" ที่พัดถล่มหลายจังหวัดทางภาคใต้ของประเทศไทย ส่งผลให้บ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหาย เสาไฟฟ้าโค่นปิดเส้นทางจราจร หรือแม้แต่ภาพของโลมาปากขวดที่ขึ้นมาเกยตื้นเสียชีวิตที่บ้านน้ำหัก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช

อย่างไรก็ตาม ทางเพจ "Greenpeace Thailand" ได้ระบุข้อความถึงพายุโซนร้อน "ปาบึก" ไว้ว่า "ปาบึกเป็นพายุหมุนเขตร้อนลูกแรกของปี พ.ศ. 2562 โดยก่อตัวเป็นพายุโซนร้อนได้เร็วที่สุดในแอ่งมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ และสร้างประวัติการณ์เป็นพายุโซนร้อนที่เคลื่อนผ่านประเทศไทยในเดือนมกราคมในรอบ 68 ปี พายุเคลื่อนผ่านอ่าวไทยและขึ้นฝั่งที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อให้เกิดฝนตกหนัก คลื่นพายุซัดฝั่ง และลมกระโชกแรงในหลายจังหวัดทางภาคใต้และก่อความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง

กรีนพีซขอร่วมส่งกำลังใจให้แก่ผู้ที่ประสบภัยจากพายุโซนร้อนปาบึก รวมถึงอาสาสมัครกู้ภัย และหน่วยงานต่างๆ และขอให้สถานการณ์กลับสู่ปกติโดยเร็ว

นอกจากนี้ ยังมีข้อสังเกตจากรายงานการสังเคราะห์และประมวลสถานภาพองค์ความรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยปี พ.ศ. 2559 ว่าจำนวนพายุหมุนเขตร้อนในระดับที่รุนแรงกว่าพายุดีเปรสชันเขตร้อนที่เกิดขึ้นทั้งหมดในรอบทุกๆ 10 ปี กลับมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตั้งแต่ทศวรรษที่ 70 ซึ่งบ่งชี้ถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของประเทศไทยต่อเหตุการณ์สภาวะสุดขั้วของลมฟ้าอากาศ

สำหรับ "Greenpeace Thailand" เป็นองค์การสาธารณประโยชน์ (NGO) เป็นองค์กรรณรงค์อิสระระดับโลกที่ลงมือทำเพื่อเปลี่ยนแปลงทัศนคติ และพฤติกรรม ปกป้องและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และส่งเสริมสันติภาพ กรีนพีซมีสำนักงานใน 55 ประเทศทั่วยุโรป อเมริกา เอเชีย แอฟริกา และแปซิฟิก