xs
xsm
sm
md
lg

ถอดรหัสการปั้นแบรนด์ความงาม สูตรบริหารองค์กรของ “พิพัฒนกรณ์ เอี่ยมศิลา”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


การทำงานที่ข้ามสายงานจากองค์ความรู้ที่มี เพื่อค้นหาตัวเองเป็นตัวอย่างของความจริงอันน่าเจ็บปวดที่ว่าความสำเร็จที่กว่าจะได้มานั้น ต้องแลกด้วยความเหน็ดเหนื่อยความอดทน อดกลั้นอย่างถึงที่สุด

นานนับ 10 ปีกว่า จะมาเป็นนักปั้นแบรนด์ความงามหมายเลข 1 ของไทย ดิว-พิพัฒนกรณ์ เอี่ยมศิลา เริ่มต้นชีวิตการทำงานเป็นลูกจ้างประจำหลากหลายองค์กร

ดิว-พิพัฒนกรณ์ เล่าย้อนก่อนก้าวเข้าสู่วงการศัลยกรรมความงาม ว่า เรียนปริญญาตรีด้าน Food Science ที่ เทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เมื่อเรียนจบก็เดินสายค้นหาตัวเองที่เอเจนซี่โฆษณาเล็กๆแห่งหนึ่ง ในตำแหน่งแพลนสื่อวางแผนโฆษณา

“งานตรงนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมากนะครับ นอกจากทำให้ได้รู้เรื่องทิศทางสื่อ เรื่องเทคนิคการทำการตลาดในแต่ละช่วงเวลาแล้ว ยังทำให้ได้รู้จักกับคนมากมายอีกด้วย ผมสนุกกับตรงนี้แต่ก็คงเป็นอะไรที่กำหนดให้ต้องเปลี่ยนงาน เพราะพอถึงช่วงที่ยุคเอเยนซีมันเยอะมากๆ บริษัทที่ผมทำก็ปิดตัวลง แต่ผมโชคดีเพื่อนรู้ว่าเราทำงานพีอาร์และการตลาดได้ ก็แนะนำให้มาช่วยงานพีอาร์ที่คลีนิคความงามให้คุณหมอท่านหนึ่ง ตรงนั้นก็เป็นอีกประสบการณ์ให้ผมเรียนรู้ คือ ต้องทำทุกอย่าง (หัวเราะ) ตั้งแต่งานประชาสัมพันธ์ การตลาด สั่งยา สั่งเครื่องมือแพทย์ วิ่งซื้อของ ยันล้างห้องน้ำก็ยังต้องทำเลย เหนื่อยมากแต่ก็ดีตรงที่ทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องงาน ได้รู้เรื่องเครื่องมือแพทย์ที่ใช้สำหรับความงามว่าเทคโนโลยีพัฒนาไประดับไหนและมีคอนเนกชันรู้จักคนอีกวงการหนึ่งเพิ่มขึ้น ได้อีกด้วย”

แม้จะสนุกกับงานและความรู้ใหม่ๆที่ได้รับ แต่ด้วยรายรับที่ได้ไม่มากนักขัดแย้งกับรายจ่ายในความเป็นจริง ทำให้ “ดิว” ต้องคิดหาทางขยับขยายช่องทางการทำงานของตนเอง ซึ่ง “ดิว” เองก็ยอมรับว่าชีวิตของเขาในเวลาที่ไม่ค่อยดีก็มักจะมีสิ่งดีๆ เข้ามาสอดแทรกเสมอ เพราะระหว่างนั้นเองได้รู้จัก ป๊อป-วราวุธ เลาหพงศ์ชนะ ที่เขาถือเป็นพี่ชาย เป็นไอดอลของเขามาคอยให้คำปรึกษาชี้แนะชี้นำและให้กำลังใจในทุกเรื่องทำให้เขามีกำลังใจที่ก้าวเดินเส้นทางนี้อย่างมั่นคง

ดิว เล่าว่า ระหว่างที่กำลังหางานใหม่ ก็เป็นจังหวะที่มีคนรู้จักแนะนำให้มาทำงานให้คุณหมอชลธิศ สินรัชตานันท์ เจ้าของ “ธีรพรคลินิก” ซึ่งที่นี่เองเป็นที่แจ้งเกิดให้ “ดิว” ได้โชว์ศักยภาพใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่สั่งสมมาใช้อย่างเต็มที่

“คุณหมอชลธิศ เป็นหมอที่น่ารักใจดี ท่านเป็นหมอที่ทำตาเก่งที่สุดในประเทศไทย ลูกค้าท่านเยอะมากแต่ท่านขาดคนที่จะเข้ามาช่วยงานเรื่องการตลาด ฉะนั้น ลูกค้าที่เข้ามาส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่รู้จักคุณหมอโดยตรงเท่านั้น ตรงนี้ผมก็เลยได้เข้ามาช่วยทำ Branding วางแผนขยายงานเปิดในส่วนของแผนกผิวพรรณและแพทย์ชะลอวัยเพื่อที่จะได้ ครบวงจร ลูกค้าเข้ามาเราตอบโจทย์ความงามได้ครบหมดผลลัพท์ตรงนี้เป็นที่น่าพอใจมากครับ”

เพียงไม่นาน “ธีรพรคลินิก” ก็ได้พิสูจน์ฝีมือและความเชื่อที่ว่าการ Branding การสร้างศูนย์ความงามแบบครบวงจร เจาะความต้องการเฉพาะของลูกค้าเป็นแนวทางที่ถูกต้อง พร้อมทั้งยังสามารถขับเคลื่อนให้กิจการให้เติบโตเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปในวงกว้าง โดยมี “ดิว” ดูแลอยู่เบื้องหลังในฐานะที่ปรึกษาผู้วางแผนการตลาดและประชาสัมพันธ์

ความสามารถเฉพาะตัวที่ปรากฏ สร้างชื่อให้หนุ่มคนนี้ไม่รู้ตัว “ดิว” ถูกทาบทามให้มาช่วยงานในฐานะที่ปรึกษาคลินิกความงามให้ด็อกเตอร์เกรซ คลินิก เป็นแห่งที่สอง

ดิว บอกว่า การทำงานในฐานะที่ปรึกษาคลินิกความงาม มีบทบาทไม่ต่างไปจากผู้จัดการดารามากนัก เพราะต้องช่วยดูแลวางแผนให้ทั้งหมด คือเริ่มต้นด้วยการคุยกับคุณหมอแต่ท่านว่าต้องการอะไร บางท่านอยากปั้นแบรนด์แต่ไม่อยากออกหน้า บางท่านเป็น CEO Branding พอตกลงกันเรียบร้อยแล้วก็มาวางแผนกัน เพื่อพาคุณหมอไปสู่เป้าหมายที่ต้องการนั่นเอง

“ก็เหมือนผู้จัดการดารา คือ ดูหมดตั้งแต่จุดเด่น ความสามารถเฉพาะทาง ภาพลักษณ์ ถ้าอยากปั้นแบรนด์ เราก็จะมาดูว่าชื่อคลินิกนี้ โดยที่ไม่เอ่ยถึงเจ้าของคลินิกสักเท่าไร แต่ถ้าอยากปั้นตัวคุณหมอเราก็จะเอาตัวคุณหมอมานั่งคุยเจาะลึกกันอีกว่า คุณหมอเป็นผู้ชาย ผู้หญิง อายุเท่าไหร่ มีไลฟ์สไตล์แบบไหน ก็จะได้พาคุณหมอไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้ ที่ผ่านมาเวลาเราทำงานก็ทำให้เกินร้อยอยู่แล้ว ก็อย่างที่เรามองว่าจ้างเราเป็นที่ปรึกษานอกจากจะได้งานแล้ว มันต้องได้มากกว่าเนื้องาน สิ่งที่สำคัญคือได้คอนเนคชั่นที่เรามีอยู่ในมือไม่ว่าจะเป็นผู้หลักผู้ใหญ่หรือดารา เซเลบริตี้ที่เราจะผลักดันให้รู้จักกันเพื่อที่จะต่อยอด เพราะว่าเราก็มองว่าถ้าวันหนึ่งในอนาคตเมื่อคลีนิกโด่งดังด้วยตัวเองแล้ว ก็จะได้มีคอนเนคชั่นตรงนี้เอาไว้ต่อยอดตัวเค้าเองได้ครับ”

ปัจจุบันคลินิกความงามที่ “ดิว” วางแผนและทำการตลาดให้มีทั้งหมด 3 แห่ง ได้แก่ 1.ธีรพรคลินิก โดย นายแพทย์ชลทิศ 2.ด็อกเตอร์เกรซ คลินิก และ 3. อะโดนิค คลินิก ตรงแยกม.เกษตร

“แต่ละแห่งจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน อย่าง ธีรพรคลินิก โดดเด่นเรื่องศัลยกรรม คุณหมอชลทิศ เป็นหมอที่ทำตาเก่งและล็อคหน้าเก่งที่สุดในประเทศไทย ปัจจุบันก็จะมีการเปิดในส่วนของแผนกผิวพรรณและแพทย์ชะลอวัยเพื่อที่จะได้ ครบวงจร ขณะที่ ด็อกเตอร์เกรซ คลินิก คุณหมอจะเก่งในเรื่องใช้สารเติมเต็มและลดเลือนริ้วรอยก็จะเป็นในส่วนของสกิน อย่างเดียว ส่วนอะโดนิค คลินิกก็เป็นในส่วนของสกิน เน้นในเรื่องการให้วิตามินอาหารผิว ความโดดเด่นที่ต่างกันช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกรับบริการได้ถูกที่ถูกเวลา”

มาถึงวันนี้ เขาได้พิสูจน์ฝีมือและความเชื่อว่าได้ทำในสิ่งที่รักและชอบ เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ทุกวันนี้แม้จะเหน็ดเหนื่อยกับงานมากแค่ไหนแต่ก็มีความสุขอย่างที่สุด ได้เห็นทุกคลินิกที่ดูแลเติบโตมีลูกค้ามากมายก็เป็นสุข ได้เห็นลูกค้ากับความงามบนใบหน้าก็มีความสุขอย่างที่สุดแล้ว



กำลังโหลดความคิดเห็น