ลูกค้าร้านอาหารจีนดัง “ย่งหลี” ในซอยสุขุมวิท 39 สุดเศร้า อาม่าแม่ครัวเกิดล้มป่วยระหว่างทำอาหารให้ลูกค้า จำต้องปิดกิจการก่อนกำหนด ทั้งที่มีแผนจะปิดกิจการสิ้นปีนี้
เรื่องราวไม่คาดฝันก่อนที่ร้านอาหารจีนชื่อดังจะปิดกิจการเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Song Sapanya โพสต์ข้อความในหัวข้อ “ประสบการณ์กินอาหารที่พีกที่สุดในชีวิต ...” ระบุว่า
“ขณะที่กำลังรออาหารจานสุดท้ายที่ร้านย่งหลี ร้านอาหารจีนประวัติยาวที่กำลังจะปิดในวันสิ้นปีนี้ พวกเราเฝ้ารอปูผัดผงกะหรี่อย่างหิวโหย เพราะรอมานานมาก (สั่งตอน 18.20 แต่ได้จานแรกประมาณ 19.15 น.) และตอนนี้เวลาเกือบ 20.30 น.แล้ว โต๊ะอื่นๆ ซึ่งเป็นผู้คนที่ประสบภัยของการรอคอยก็คอยชะเง้อ รอลิ้มรสอาหารจานเด็ดเช่นกัน
ทันใดนั้นก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น..
ท็อปกุ๊กที่ช่วงนี้ก็ป่วยจนเดินไม่ได้อยู่แล้ว กลับช็อกจนเป็นลม ล้มหมดสติไป! แม่ครัวคนอื่นที่เป็นพี่น้องทุกคนก็พากันตื่นตระหนก ตกใจ ร้องไห้ ลูกค้าทั้งร้านก็ช็อก มองหน้ากันเลิ่กลั่ก ทำอะไรไม่ถูก คนที่พอมีสติก็ช่วยกันเรียกรถพยาบาล เรียกรถแท็กซี่ เคลียร์พื้นที่และปั๊มหัวใจเบื้องต้น (โดยเฉพาะสมาชิกร่วมโต๊ะเราที่มีสติและน้ำใจดีมาก ทั้งช่วยเคลื่อนย้ายคนป่วย ไปส่งที่ รพ. ให้ยาดม ช่วยปั๊มหัวใจ)
นับว่าเป็นเหตุการณ์การทานอาหารที่ตกใจและสะเทือนใจไม่เบา ยิ่งที่ตอนหลังมารู้ว่า แม่ครัวที่ทำอาหารแสนอร่อยให้เรากิน กลับยุ่งจนไม่ได้กินข้าวทั้งวัน ตั้งแต่ตีห้า เพราะลูกค้าเยอะมาก... ก็ยิ่งพานทำให้รู้สึกอึนๆ แบบทวีคูณ
หลังจากที่เหตุการณ์กลับสู่ความสงบ ลูกค้าโต๊ะอื่นทยอยช่วยกันคิดเงินโต๊ะตัวเองและเดินออกจากร้านไปอย่างห่วงๆ โต๊ะเราเป็นโต๊ะเดียวที่กลับมานั่งกินอาหารให้หมดเกลี้ยงจาน อาจจะเพราะได้รับรู้ว่าอาหารจานนี้แลกมาจากอะไร จนทำให้รู้สึกว่าถึงจะอิ่มแค่ไหนก็ไม่อยากกินเหลือ.. และนี่คงเป็นการตอบแทนแบบเดียวที่เราจะทำให้พวกเขาได้ในสถานการณ์แบบนี้
ย่งหลีบอกกับพวกเราว่าจะเปิดถึงวันที่ 31 เป็นวันสุดท้าย แต่พอเกิดเหตุการณ์นี้แล้วก็ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง.... แต่ในฐานะคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็บอกเลยว่า พักเถอะค่ะ ปิดเถอะ หายดีแล้วค่อยมาเปิดใหม่ก็ได้
ส่วนถ้าเค้ากลับมาเปิดแล้วใครมีโอกาสได้กินก็ใจเย็นๆ นะคะ อย่าไปเร่งอาหารมาก อาหารอาจจะช้าหน่อย แต่อร่อยแน่นอน ฮือ
อาหารที่ต้องแลกมาด้วยสุขภาพของคนอื่นนี่ไม่คุ้มเลย...จริงๆ นะ”
สำหรับร้านอาหารย่งหลี เป็นร้านอาหารจีน ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เปิดให้บริการเมื่อปี 2487 หรือกว่า 74 ปีที่แล้ว เมนูเด่นของที่นี่คือ พล่ากุ้ง ปลาผัดพริก ปูจ๋า และเมนูแบบกุ๊กช็อป (เมนูฝรั่งดัดแปลงรสชาติให้ถูกปากคนไทย) คือ สตู สลัดเนื้อสัน และยังขายอาหารไทย รายงานข่าวระบุว่า เจ้าของร้านจะปิดกิจการในวันที่ 31 ธ.ค. แต่อาม่าล้มป่วยเสียก่อน